บุรีรัมย์ คัมแบ็ก!!

   ปราสาทสายฟ้าออกสตาร์ตได้ไม่ค่อยดีนัก และแทบจะเป็นหนแรกในรอบหลายปีเลยด้วยซ้ำที่ผ่าน 15 เกมแรก แต่กลับไม่เคยทำอันดับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของตาราง

   กระทั่ง แมตช์เดย์ ที่ 18 ที่พวกเขาทะยานรั้งอยู่เหนือทุกสโมสรในสยามประเทศ

   บุรีรัมย์ เก็บชัยชนะได้ 6 นัดรวดในลีก มี 18 แต้มเต็ม จนแซงหน้า แบงค็อก ที่ครองจ่าฝูงยาวนานกว่า 8 สัปดาห์ แถมทีแรกยังมีแต้มห่างจากปราสาทสายฟ้าถึง 5 คะแนน

   จุดเปลี่ยนอยู่ที่เกมสุดท้ายในเลกแรกที่ยอดทีมแห่งแดนอีสานบุกไปเฉือนชนะบียูได้ที่ ทรู สเตเดี้ยม 1-0 โดยได้ประตูจาก โกรัน เคาซิช ในช่วงท้ายของการแข่งขัน

   เกมนั้นหากเป็น แบงค็อก ที่คว้าชัย พวกเขาจะดีดแต้มห่างถึง 7 คะแนน ซึ่งคงเป็นเรื่องยากที่ทีมอื่นจะกวดแต้มตามได้ทัน แต่พอแพ้ ช่องว่างจึงเหลือเพียง 4 กระทั่งเปลี่ยนจ่าฝูงในที่สุด

   บุรีรัมย์ กำลังอยู่ในห้วงแห่งความมั่นใจสุดขีด ซึ่งตามสถิติ เมื่อใดที่พวกเขาขึ้นมายืนบนหัวแถวของตาราง มันก็เป็นการยากที่จะพลาดพลั้ง นอกเสียจากปราสาทสายฟ้าจะสะดุดเอง

   ฤดูกาล 2017 ทัพเซราะกราวขับเคี่ยวกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยกิเลนผยองครองจ่าฝูงจนถึงสัปดาห์ที่ 17 แต่หลังจากเพลี่ยงพล้ำ กลายเป็นถูกอริจากแดนตะวันออกเฉียงเหนือแซงในวีคที่ 18 ก่อนจะยืนยาวไปจนจบซีซั่น

   ปีถัดมา (2018 แย่งกับ แบงค็อก) บุรีรัมย์ นำโด่งตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 เรื่อยจนถึง 18 แต่สะดุดแค่วีคที่ 19 แต่ก็กลับมาแซงนำในอีกอาทิตย์นึง ก่อนจะยิงยาวไปจนคว้าแชมป์ในบั้นปลาย

   2019 และ 2020-21 พลาดแชมป์ให้ เชียงราย ยูไนเต็ด กับ บีจี ปทุม ตามลำดับ

   พอกลับมา 2021-22 พ้นสัปดาห์ที่ 16 เรื่อยจนถึงจบฤดูกาล ปราสาทสายฟ้าก็ฟาดแชมป์ไปครอง

   2022-23 แทบจะแบเบอร์ เพราะรั้งอันดับ 1 ของตารางตั้งแต่วีคที่ 9 ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 30 เลยทีเดียว

   จากสถิติที่ผ่านมา จะเห็นได้ชัดว่า บุรีรัมย์ คือทีมที่ขึ้นไปอยู่บนยอดเขาเมื่อไหร่ พวกเขา 'พลาดยาก' อาจจะมีปี 2019 ที่ถูก เชียงราย แซงในเกมสุดท้าย แต่ที่เหลือ ปราสาทสายฟ้าไม่ปล่อยให้คู่ต่อสู้ได้ต่อกรง่ายๆ เลย

   แม้ว่าซีซั่น 2023-24 การแข่งขันจะสูงลิ่ว เพราะมีทั้ง แบงค็อก, การท่าเรือ และ บีจี ปทุม ที่เกาะกลุ่มผู้นำ แต่กระนั้น ประสบการณ์ของเจ้าของแชมป์ ไทยลีก 8 สมัย นั้นถือว่าเข้มคลั่กกว่าใครเพื่อน อีกทั้งผู้เล่นในทีมก็เป็นแข้งที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาทั้งนั้น

   ตอนนี้พวกเขามีเกมหนักที่รออยู่คือเจอบียู (เหย้า), เชียงราย (เยือน), บีจี ปทุม (เยือน), เมืองทอง (เหย้า) และ การท่าเรือ (เหย้า) 

   หากว่า 'ไม่แพ้' ในเกมเหล่านี้ โอกาสที่ บุรีรัมย์ จะชูโทรฟี่ ไทยลีก เป็นสมัยที่ 9 มีสูงมากทีเดียว

   ใครที่บอกว่าพวกเขาอิ่มตัวจากความสำเร็จ คงต้องคิดกันใหม่ เพราะสิ่งที่นักเตะแสดงออกในสนามนั้นเห็นได้ชัดเจนว่ายังกระหายต่อชัยชนะแบบสุดลิ่ม

   การนำเข้าโควตาต่างชาติที่เอาผู้เล่นประเภท 'เกรด เอ'มาเสริมทัพในเลกที่สอง, จังหวะ 50-50 พร้อมบวก, เน้นทุกนัดไม่ว่าจะเล่นในบ้านหรือออกไปเยือน, ไม่ติดประมาท แม้จะเจอคู่แข่งที่ด้อยกว่า, แพสชั่นตอนทำประตูได้และอื่นๆ อีกมากมายที่ บุรีรัมย์ พยายามสื่อสารออกมาว่ายังไงก็ปรารถนาจะคว้าแชมป์ให้ได้แบบต่อเนื่อง

   แบงค็อก, การท่าเรือ และ บีจี ปทุม คงต้องเร่งเค้นฟอร์มเก่ง รวมถึงพยายามรักษามาตรฐานให้ได้สม่ำเสมอ หากต้องการดึงปราสาทสายฟ้าลงจากบัลลังก์

   เพราะวินาทีนี้ บุรีรัมย์ คัมแบ็กอย่างเต็มตัว!!

ชิกกะด้าว