ผลเสมอ 2-2 ของ ประจวบ เอฟซี ที่ทำได้เพียงเปิดบ้านแบ่งแต้มกับ นครปฐม ยูไนเต็ด อาจจะไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาเต็มใจจะได้นัก ทว่าสิ่งที่สะท้อนออกมาต้องบอกว่าต่อพิฆาตน่าจะมีฤดูกาลที่ดีแน่ๆ ในอนาคตต่อจากนี้
นับตั้งแต่ซีซั่น 2020-21 เป็นต้นมา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องดิ้นรนอยู่ในพื้นที่สีแดงอยู่บ่อยครั้ง แถมหวิดหล่นชั้นก็เคยมาแล้วเช่นกัน
ทว่าฟอร์มการเล่นใน 3 นัดแรกของฤดูกาล 2023-24 นั้นน่าจะทำให้แฟนๆ อุ่นใจได้ว่านี่จะเป็นปีที่ดีแน่ของ ประจวบ แม้ว่าเพิ่งจะผ่านมาไม่กี่เกมก็แต่ แต่หลายๆ สิ่งในสนามนั้นบ่งชี้ไปในทิศบวกว่าต่อพิฆาตมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ
การย้ายเข้าของ สหรัฐ กันยะโรจน์, แอร์ตอน, แดร์เลย์, รัตนัย ส่องแสงจันทร์, นพพล พลคำ, ชุติพนธ์ ทองแท้ และ ปฐมชัย เสือสกุล ส่งผลดีต่อภาพรวมจริงๆ ไม่นับ สหรัฐ ปองสุวรรณ ที่มาอยู่ในรั้ว สามอ่าว สเตเดี้ยม แบบถาวรสักที
พอมีขุมกำลังที่ใหญ่ขึ้น นักเตะแต่ละคนสามารถทดแทนตำแหน่งกันได้ มันจึงทำให้ ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล ผู้เป็นกุนซือสามารถพลิกแพลงแท็กติกได้ตามต้องการ
'โค้ชวัง' คือหนึ่งในเทรนเนอร์ชาวไทย ที่เก่งกาจที่สุดในยุคปัจจุบัน และการที่เขาได้ทำงานร่วมกับรุ่นพี่สุดเลิฟอย่าง ดุสิต เฉลิมแสน ก็ยิ่งช่วยกันนำพา ประจวบ โลดแล่นไปได้ไกล
จุดเด่นของ ธวัชชัย คือการดึงศักยภาพผู้เล่นออกมาใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ ดังจะเห็นได้จากฟอร์มของ 2 สหรัฐ (กันยะโรจน์ และ ปองสุวรรณ) ที่พุ่งเป็นกราฟแนวสูง
แน่นอนว่าการเสมอกับ นครปฐม ในบ้านตัวเองไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาพอใจ แต่อย่างน้อยก็ยังเห็นในเรื่องของหัวจิตหัวใจกับการไล่ยิงเจ๊าในช่วงทดเวลาการแข่งขัน
ความผิดพลาดในแนวรับทำให้ ประจวบ ต้องเสีย 2 ประตู และด้วยแท็กติกและวินัยของ นครปฐม มันจึงเป็นการยากที่จะทวงคืนได้สำเร็จ เท่านั้นไม่พอ ทีมต่อพิฆาตก็เจียนจะเสียลูกที่ 3 อยู่หลายหน ยังดีที่ รัตนัย ช่วยป้องกันเอาไว้ได้ มันจึงให้ความหวังยังคงอยู่
กระทั่งความพยายามมาสำเร็จในช่วงท้ายเกมนั่นแหละ ที่ทำให้พวกเขายังไม่แพ้ใครใน สามอ่าว สเตเดี้ยม 5 เกมติดต่อกัน (นับต่อจากฤดูกาลที่แล้ว)
ประตูของ อภิชาติ เด็นหมาน นั้นแสดงให้เห็นว่า ประจวบ ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ จนกว่าจะได้ยินเสียงนกหวีดยาวจากผู้ตัดสิน
ทีมต่อพิฆาตเป็นเช่นนี้มาสักระยะหนึ่งแล้ว เพราะว่า 10 เกมหลังสุด (ทุกรายการ) ในช่วงนาทีที่ 75 ขึ้นไป พวกเขาสามารถทำได้ถึง 6 ลูก เลยทีเดียว
จากสถิติดังกล่าว มันสะท้อนถึงการสู้จนถึงหยดสุดท้ายของ ประจวบ และมันคือสิ่งที่ ธวัชชัย เน้นหนักว่าช่วงสำคัญของการแข่งขันคือ 15 นาที ก่อนหมดเวลา
1 คะแนนที่ได้มาจาก นครปฐม มันน่าเสียดายก็จริง แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แถมถ้าแพ้ มันอาจจะส่งผลกระทบในแง่ของสภาพจิตใจอีกต่างหาก ทว่าการได้ประตุในช่วงสำคัญแบบนี้ มันก็เป็นคนละเรื่องกันเลย
3 แมตช์ ได้มาแล้ว 5 คะแนน แถมมีแต้มใหญ่จากการบุกเสมอ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ถึงถิ่นอีกต่างหาก หากว่าสามารถรักษามาตรฐานไว้ได้ รวมทั้งแก้ไขข้อผิดพลาดในเกมรับ ซึ่งถ้า แอร์ตอน กลับมาลงสนาม จุดบอดจุดนี้ก็คงจะถูกขจัดไป
อีก 4 เกม ต่อจากนี้นี่แหละที่ ประจวบ จะต้องพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด ไล่ตั้งแต่บุกเยือน การท่าเรือ เอฟซี ตามต่อด้วยไปถิ่นของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ก่อนจะกลับมาเล่นที่ สามอ่าว ต้อนรับ เมืองทอง ยูไนเต็ด และปิดท้ายด้วยการไปเจอ โปลิศ เทโร เอฟซี ที่สนาม บุณยะจินดา
แต่ละเกมนี่หนักหน่วงทีเดียว ทว่าถ้าผ่านไปได้ตามเป้า รับประกันเลยว่าสิ่งดีๆ จะตามมาอีกเพียบ
อย่างไรก็ตาม จากเกมที่เล่นมาแล้วทั้ง 3 นัด ทัพต่อพิฆาตกำลังไปได้สวย และคงจะบอกได้เต็มปากว่า ฤดูกาล 2023-24 คือซีซั่นที่น่าสนใจของ ประจวบ จริงๆ
ชิกกะด้าว