บีจี ยังดีไม่พอ!?

   แต่ฝั่งเจ้าบ้าน การได้เพียงแต้มเดียวถือเป็น 'ความน่าผิดหวัง' อย่างมาก และนั่นทำให้ ไทยลีก 2023-24 ผ่านไป 2 เกม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด มีแค่ 2 คะแนน เท่านั้น

   มันคือการออกสตาร์ตที่ไม่โสภานัก เมื่อเทียบกับขุมกำลังผู้เล่นที่มีอยู่ของกระต่ายแก้วที่อุดมไปด้วยนักเตะทีมชาติ รวมไปถึงโควตาอาเซียน และโควตานอก แต่ละคนล้วนแล้วแต่เป็นตัวท็อปทั้งนั้น

   เกมเสมอ ประจวบ 0-0 บีจี ปทุม เริ่มต้นด้วยการใช้ระบบ 3-5-2 ผู้รักษาประตู ฉัตรชัย บุตรพรม ยังคงเป็นมือหนึ่งเหนียวแน่น ส่วนแผงหลัง 3 คน ประกอบด้วย วิคตอร์ คาร์โดโซ่, จักพัน ไพรสุวรรณ และ อีร์ฟาน ฟานดี้ 

   ฟูลแบ็กคือตำแหน่งที่น่าสนใจ ไรฮาน สจ๊วร์ต อยู่ฝั่งขวา แต่อีกฟากเป็น พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ที่ต้องขยับมาเล่นตรงนี้ ทั้งที่มี อภิสิทธิ์ โสรฎา และ วัฒนากรณ์ สวัสดิ์ละคร สองแบ็กซ้ายอาชีพรออยู่

   เข้าใจว่า ธงชัย สุขโกกี คงจะเสียดายที่นักเตะระดับ พิธิวัตต์ ต้องนั่งอยู่บนม้านั่งสำรอง ดังนั้นจึงต้องหาพื้นที่ให้อยู่ในสนาม 

   ส่วนแผงมิดฟิลด์มี สารัช อยู่เย็น, เฟร็ดดี้ อัลวาเรซ และสตาร์เบอร์หนึ่งทัพช้างศึก ชนาธิป สรงกระสินธ์ โดยคู่กองหน้าเป็น ธีรศิลป์ แดดา กับ อิกอร์ เซอร์เกเยฟ

   แน่นอนว่าด้วยชื่อชั้นของผู้เล่น บีจี ปทุม จึงดูเหนือกว่าอาคันตุกะอยู่พอสมควร แต่รูปเกมที่ออกมากลับไม่เป็นเช่นนั้น แม้ทีมกระต่ายแก้วจะเป็นฝ่ายขึงเกมรุกบุกใส่ตลอดทั้ง 90 นาที (บวกช่วงทดเวลาการแข่งขัน) ก็จริง ทว่ากลับไม่สามารถแปรเปลี่ยนโอกาสให้เป็นประตูได้เลย

   มีหลายสิ่งที่ดูแล้วไม่ค่อยจะเวิร์คสักเท่าไหร่สำหรับการเล่นด้วยระบบนี้และตัวผู้เล่นชุดนี้

   อย่างแรกเลยคือการเอา พิธิวัตต์ ไปเล่นฟูลแบ็กฝั่งซ้าย แม้ว่าเจ้าตัวจะทำหน้าที่ของตนเองได้ดีพอควร แต่ด้วยความที่ไม่ใช่ตำแหน่งธรรมชาติ มันจึงค่อนข้างดูเคอะเขินทีเดียว

   มีจังหวะหนึ่งที่ ชนาธิป ได้บอลอยู่ฟากซ้าย - อดีตเพลย์เมเกอร์ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ครองบอล พร้อมกับเหลือบตาเพื่อรอให้เพื่อนเติมเกมจากทางริมเส้น เนื่องจากที่ว่างตรงนั้นโล่งโจ้งเหลือเกิน หากแทงไปตรงนั้น รับประกันถึงเขตโทษแน่

   พิธิวัตต์ ซึ่งว่างอยู่ แต่เขากลับยืนรอให้ ชนาธิป คืนบอลมาให้ หาได้วิ่งทะลุขึ้นไปตามที่ควรจะเป็น - จังหวะนี้บ่งชี้ได้ชัดเจนเลยว่านักเตะหมายเลข 36 ของ บีจี ปทุม คงจะเล่นตามสัญชาตญาณ เพราะตนเองคือกองกลางอาชีพ 

   หากเป็น อภิสิทธิ์ หรือ วัฒนากรณ์ เชื่อว่าน่าจะสอดขึ้นไปแบบไม่ต้องสงสัยเลย

   นอกจากตำแหน่งที่ผิดธรรมชาติของ พิธิวัตต์ ยังมีเรื่องของการที่เอา อัลวาเรซ กับ ชนาธิป ซึ่งเป็นผู้เล่นสไตล์สร้างสรรค์เกมรุกมาเล่นใกล้ๆ กันอีก

   ตามแผนผังบนหน้ากระดานมันดูน่ากลัว แต่พอลงไปในสนามนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะด้วยความที่ต่างคนต่างก็เก่งกาจในแบบของตัวเอง แถมยังเจอแท็กติกเกมรับของ ดุสิต เฉลิมแสน ที่ไม่ปล่อยให้นักเตะกระต่ายแก้วเล่นได้ง่ายๆ 

   ผลที่ออกมาคือทั้ง อัลวาเรซ และ ชนาธิป แทบไม่ได้เปิดป้อนสวยๆ เลย โดยเฉพาะรายแรกที่โดนเพรสซิ่งทั้งเกม ส่วนมิดฟิลด์ทีมชาติไทย ต้องขยับตัวออกข้าง เพื่อให้มีพื้นที่ อาจจะมีจังหวะหนึ่งที่จ่ายให้ ธีรศิลป์ จากริมเส้นฝั่งซ้าย แต่ที่เหลือนั้นก็โดนรุมสกัดแบบไม่ให้ได้ออกบอล

   ส่วนอีกจุดหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือการประสานงานระหว่าง ธีรศิลป์ และ เซอร์เกเยฟ ที่คงต้องปรับจูนกันอีกบานตะไท เพราะดูเหมือนว่าทั้งคู่จะยังเล่นกันเหลื่อมจังหวะมากทีเดียว

    การได้เพียงคะแนนเดียวจาก ประจวบ น่าจะทำให้เก้าอี้ของ ธงชัย เริ่มอุ่นๆ ขึ้นมาเหมือนกัน เพราะด้วยงบประมาณที่ลงไป ความคาดหวังย่อมสูงลิ่วเป็นธรรมดา และการออกสตาร์ตด้วย 2 แต้ม จาก 2 เกม จึงไม่ใช่เรื่องที่บอร์ดบริหารของ บีจี ปทุม พอใจแน่

   ด้วยความที่ในทีมมีนักเตะเก่งกาจมากมายนั้นมันมีทั้งเรื่องดีและเรื่องน่าปวดหัว ซึ่ง ณ วินาทีนี้กุนซือกระต่ายแก้วน่าจะประสบพบเจอกับเรื่องหลังมากกว่า

   ยิ่งโปรแกรมหน้าที่ต้องออกไปเยือน เซี่ยงไฮ้ พอร์ท ที่ประเทศจีน ในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023-24 รอบเพลย์-ออฟ มันยิ่งทำให้ความกดดันเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว แม้ว่าจริงๆ แล้วเป้าหมายของ เดอะ แรบบิต จะเป็นถ้วย ไทยลีก ก็ตาม แต่การทำผลงานให้ไฉไลในรายการนี้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พวกเขาปรารถนาเช่นกัน

   อย่างไรก็ตาม นี่มันเพิ่งเริ่มต้น มีหลายสิ่งให้ปรับปรุงแก้ไขและไปกันต่อ ซึ่งถ้าขจัดข้อบกพร่องได้ไว อะไรต่อมิอะไรดีๆ ก็จะตามมาเอง

   ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะกาชื่อของกระต่ายแก้วออกจากสารบบการลุ้นแชมป์ เพียงแต่ต้องให้เวลากับพวกเขาอีกหน่อยเท่านั้น

   ถามว่า บีจี ปทุม ยังดีไม่พอหรือ?? 

   คงต้องตอบว่าไม่ใช่หรอก ให้พวกเขาได้ปรับจูนอีกนิด กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงอีกหน่อย ให้นักเตะได้เล่นในตำแหน่งที่ตนเองถนัด และเลือกที่จะหมุนเวียนผู้เล่นอย่างเหมาะสม

   หากทุกอย่างลงล็อก เชื่อได้เลยว่า บีจี ปทุม ดีพอที่จะคว้าแชมป์ทุกรายการในประเทศไทย 

ชิกกะด้าว