คู่มือดู ไทยลีก 2023-24 (พาร์ต 1)

__________

[ 1 ] บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ก่อตั้งสโมสร: 2010 (จาก การไฟฟ้า)

ภูมิภาค: ตะวันออกเฉียงเหนือ

ฉายา: ปราสาทสายฟ้า

เกียรติยศ: 

ไทยลีก 2011, 2013, 2014, 2015, 2017, 2018, 2021–22, 2022–23 (8 สมัย)

เอฟเอ คัพ  2011, 2012, 2013, 2015, 2021–22, 2022–23 (6 สมัย)

ลีก คัพ  2011, 2012, 2013, 2015, 2016, 2021–22, 2022–23 (7 สมัย)

จุดเด่น: ปราสาทสายฟ้าคือสโมสรอันดับ 1 ของเมืองไทย มาหลายปี พวกเขามีขุมกำลังผู้เล่นที่แข็งแกร่งทั่วทุกตำแหน่ง และที่สำคัญยังมีเฮดโค้ชอย่าง มาซาทาดะ อิชอิ คุมทัพอีกต่างหาก มันจึงทำให้รูปแบบการเล่นของ บุรีรัมย์ ยืดหยุ่นตามแต่ละเกม

จุดไม่เด่น: พวกเขาแทบจะไม่มีจุดอ่อนเลย เพราะไม่ว่าจะเซนเตอร์ฮาล์ฟ, ฟูลแบ็ก, กองกลาง, แนวรุกริมเส้นหรือศูนย์หน้าตัวเป้า ทุกพื้นที่ บุรีรัมย์ อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ทว่าสิ่งที่น่าสนใจคือการแยกทางกับ เรบิน ซูลาก้า ปราการหลังตัวกลางที่ผลงานยอดเยี่ยมมาโดยตลอด ก่อนจะเปลี่ยนเป็น คิม มิน-ฮย็อค ต้องดูว่าแนวรับชาวเกาหลีใต้ จะทดแทนได้หรือไม่

ซูเปอร์สตาร์: ธีราทร บุญมาทัน ยังคงยืนหนึ่งทั้งในแง่ความเก่งกาจและเป็นประโยชน์ต่อทีม เขาสามารถพลิกสถานการณ์ได้ในชั่วพริบตา และที่สำคัญ 'จุดเริ่ม' ของประตู บุรีรัมย์ ก็มักจะมาจากอดีตแชมป์ เจลีก 2019 นี่แหละ

จับตา: รามิล เชย์ดาเยฟ หัวหอกทีมชาติอาเซอร์ไบจาน ที่เพิ่งย้ายเข้ามา ทำให้เวลานี้พวกเขามีตัวเลือกในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้ามากมาย เพราะของเดิมอย่าง ศุภชัย ใจเด็ด ก็เพิ่งคว้า 'รองเท้าทองคำ' จากซีซั่นล่าสุด รวมไปถึง ลอนซาน่า ดูมบูญ่า และ อาทิตย์ บุตรจินดา อีกคน ดังนั้นจึงน่าสนใจว่าดาวยิงป้ายแดงจะเข้ามาเล่นในจุดในของสนาม

ดาวซัลโว: ศุภชัย ใจเด็ด กับพัฒนาการที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ 19 ประตู จากฤดูกาล 2023-24 โดยไม่มีจุดโทษ คือเครื่องการันตีชั้นดีถึงความเฉียบขาดของศูนย์หน้าชาวปัตตานี และถ้ายังรักษามาตรฐานได้เรื่อยๆ รับประกันเลยว่า ไทยลีก คงจะเล็กเกินไปสำหรับเขา

ความคาดหวัง: 'แชมป์' เท่านั้นคือเป้าหมายของ บุรีรัมย์ หากต่ำกว่านั้นถือว่าล้มเหลว

_________

[ 2 ] เชียงราย ยูไนเต็ด

ก่อตั้งสโมสร: 2009

ภูมิภาค: เหนือ

ฉายา: กว่างโซ้งมหาภัย

เกียรติยศ:

ไทยลีก     2019

เอฟเอ คัพ     2017, 2018, 2020–21 (3 สมัย)

ลีก คัพ      2018

ดิวิชั่น 1 (ไทยลีก 2 ในปัจจุบัน) 2010

ดิวิชั่น 2 (ไทยลีก 3 ในปัจจุบัน) 2009

จุดเด่น: เชียงราย คือทีมที่คู่แข่งเล่นด้วยแล้วอึดอัดเป็นที่สุด พวกเขาเหนียวแน่นมาก ไม่ว่าใครที่เผชิญหน้า ต่างก็ต้องพบกับความยากลำบากเสมอ และที่สำคัญ เกมโต้กลับของกว่างโซ้งมหาภัยนั้นสามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นประตูได้ทุกวินาที

จุดไม่เด่น: เวลานี้ เชียงราย เปลี่ยนแปลงไปมากมาย นักเตะหลักหลายๆ รายย้ายออกจากสโมสรไปทีละคน ซึ่งนั่นทำให้ต้องผลักดันเยาวชนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ และมันอาจจะทำให้ความแข็งแกร่งลดลงไปในช่วงนี้

ซูเปอร์สตาร์: ศิวกรณ์ เตียตระกูล กัปตันทีมคนปัจจุบัน เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวกลางและเพลย์เมเกอร์ ทักษะส่วนตัว รวมไปถึงเซ้นส์ฟุตบอลของเขาจัดว่าอยู่ในระดับแนวหน้าของเมืองไทย 

จับตา: เศรษฐสิทธิ์ สุวรรณเศรษฐ์ ดาวรุ่งคนล่าสุดที่ เชียงราย ส่งเข้าประกวด และได้เล่นใน ไทยลีก ไปแล้วตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเสียด้วย ในขวบปีนี้ เขาย่อมเติบโตขึ้นอีกขั้น ดังนั้นมาดูกันว่าฟอร์มของหมอนี่จะไปไกลได้กว่านี้มากน้อยเพียงใด

ดาวซัลโว: การย้ายกลับมาของ บิลล์ น่าจะช่วยให้แดนบนมีทั้งตัวชนกับกองหลังคู่แข่ง หรือแม้กระทั่งจบสกอร์เอง ศูนย์หน้าบราซิล คนนี้ก็เฉียบขาดไม่แพ้ใคร แต่ด้วยอายุที่เข้าสู่ปีที่ 39 อาจจะต้องใช้งานเขาอย่างระมัดระวัง

ความคาดหวัง: เชียงราย เป็นเจ้าพ่อฟุตบอลถ้วย ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาเองก็ปรารถนาที่จะกลับไปคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งในเร็ววันนี้

__________

[ 3 ] โปลิศ เทโร เอฟซี

ก่อตั้งสโมสร: 2018 (ต่อจาก บีอีซี เทโรศาสน)

ภูมิภาค: กรุงเทพมหาคร

ฉายา: มังกรโล่เงิน

เกียรติยศ: 

ลีก คัพ  2014

จุดเด่น: การจบอันดับ 7 ในซีซั่น 2022-23 ถือเป็นปีอันยอดเยี่ยมของพวกเขา เพราะอยู่เหนือทั้ง ราชบุรี เอฟซี, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือแม้แต่ ลำพูน วอร์ริเออร์ส ที่ใช้งบประมาณทำทีมมหาศาล - โปลิศ เทโร โดดเด่นในเรื่องสปิริตทีม แม้จะไม่มีซูเปอร์สตาร์ แต่ว่าทุกคนเล่นอย่างมีวินัยและทำตามแท็กติกโค้ชทุกๆ เกม จนได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ

จุดไม่เด่น: การปล่อย ชานุกูล ก๋ารินทร์ และ เฉลิมศักดิ์ อักขี ไปให้ การท่าเรือ เอฟซี รวมถึง เลสลี่ย์ อะโบร์ห ที่กลับ นครปฐม ยูไนเต็ด น่าจะลดทอนศักยภาพของมังกรโล่เงินไม่น้อย เท่านั้นยังไม่พอ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ก็ยังเจ็บยาวอีก เพราะแต่ละคนคือแกนหลักทั้งนั้น ทีนี้อยู่ที่ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค จะจัดการแก้ไขปัญหานี้เช่นไร

ซูเปอร์สตาร์: เจนภพ โพธิ์ขี แนวรุกดีกรีทีมชาติไทย ที่ยังอยู่ในสัญญายืมตัวจาก การท่าเรือ แต่คราวนี้ต้องก้าวมารับบทบาทผู้นำมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากตัวหลักย้ายออกไปหลายราย ซึ่งถ้าเขาคืนฟอร์มได้เหมือนปี 2021 รับประกันเลยว่า โปลิศ เทโร จะบินสูงในทันที

จับตา: เวลลิงตอน นักเตะสารพัดประโยชน์ชาวบราซิล และคุ้นเคยกับฟุตบอลไทย เป็นอย่างดี หมอนี่อาจจะดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ประโยชน์ต่อทีมมหาศาล หากว่าจูนเข้ากับระบบเร็วเท่าไหร่ ยิ่งจะส่งผลในทิศบวกต่อทีม

ดาวซัลโว: ควาเม่ คาริคารี่ ศูนย์หน้าชาวกานา ที่เพิ่งย้ายกลับมาค้าแข้งใน ไทยลีก อีกครั้ง หลังจากจากฝากผลงานไว้ตอนเล่นกับ นครราชสีมา เอฟซี เมื่อฤดูกาล 2021-22 ด้วยตัวเลข 29 นัด 13 ประตู ซึ่งถือเป็นสถิติที่ใช้ได้ทีเดียว

ความคาดหวัง: ไม่ต่ำกว่าอันดับ 7 ซึ่งเป็นผลงานจากปีที่ผ่านมา

__________

[ 4 ] ตราด

ก่อตั้งสโมสร: 2012

ภูมิภาค: ตะวันออก

ฉายา: ช้างขาวจ้าเกาะ

เกียรติยศ: 

ดิวิชั่น 2 (ไทยลีก 3 ในปัจจุบัน)  2016

จุดเด่น: น้องใหม่ แต่หน้าเก่าของ ไทยลีก มีจุดแข็งคือเกมในบ้านที่สามารถสร้างความหวาดหวั่นให้คู่ต่อสู้เสมอ เพราะแฟนฟุตบอลชาวตราด พร้อมที่จะเข้ามาเป็นกำลังใจทีมรักและกดดันฝั่งตรงข้ามตลอดทั้ง 90 นาที ในสนาม

จุดไม่เด่น: ด้วยความที่ทีมมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย คีย์แมนจาก ไทยลีก 2 ย้ายออกหลายราย ทำให้พวกเขาต้องพยายามจูนเครื่องกันใหม่ ซึ่งถ้าปรับตัวกันได้ไว ก็ดีไป แต่ถ้ายังเครื่องไม่ติด ตรงนี้แหละปัญหาใหญ่ และมันอาจจะทำให้ส่งผลไปถึงช่วงท้ายของฤดูกาล

ซูเปอร์สตาร์: พรปรีชา จารุนัย กัปตันทีมวัยย่าง 38 แต่ยังเก๋าไปด้วยประสบการณ์ บอลจากเท้าของเขาสามารถสร้างประโยชน์ให้กับเพื่อนร่วมทีมได้มากมาย 

จับตา: ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา แนวรุกที่ยืมตัวมาจาก การท่าเรือ เอฟซี น่าจะเข้ามาเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในแดนหน้า เพราะนอกจากจะทักษะสูง เขายังสามารถสร้างสรรค์โอกาสจากทุกพื้นที่ในสนามอีกด้วย

ดาวซัลโว: ด้วยความที่ ตาอัว, โมฮาเหม็ด เอสซัม และ วัลโด้ ซึ่งเป็นตัวยิงประตูของทีมจาก ไทยลีก 2 ย้ายออกไปหมด ทำให้ต้องฝากความหวังไว้กับ ลิดอร์ โคเฮน แนวรุกชาวอิสราเอล ที่อาจจะไม่ใช่กองหน้าตัวเป้าจ๋าๆ แต่เมื่อใดที่ได้สับไก เขามักจะไม่ทำให้ผิดหวังเลย

ความคาดหวัง: อยู่รอดปลอดภัยใน ไทยลีก

__________