การอำลา แบงค็อก ยูไนเต็ด แล้วมุ่งหน้าสู่ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ของ เฮแบร์ตี้ ทำให้เขากลายเป็น 'ดาวยิง' อีกคนที่ย้ายออกจาก ไทยลีก เป็นที่เรียบร้อย ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอรวบรวมบรรดา 'ศูนย์หน้า' ต่างชาติที่เข้ามายกระดับวงการลูกหนังแดนสยามมาให้คุณได้อ่านกัน!!
[ 1 ] โคเน่ โมฮาเหม็ด
สัญชาติ: ไอวอรี่โคสต์
สโมสร: นครปฐม ยูไนเต็ด, ธนาคารกรุงไทย, ชลบุรี เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด, ทีโอที เอสซี, เลย ซิตี้, แพร่ ยูไนเต็ด
เล่นใน ไทยลีก: 2001-2007, 2009 และ 2010-2015
จริงๆ แล้ว หากว่าไม่มีปัญหาบาดเจ็บรบกวน ชื่อของ โคเน่ โมฮาเหม็ด ต้องถูกบรรจุอยู่ในทำเนียบดาวยิงตลอดกาลของ ไทยลีก แบบไม่ต้องสงสัย
หัวหอกชาวไอวอรี่โคสต์ เข้ามาหากินบนแผ่นดินขวานทองตั้งแต่ปี 2001 โดยเริ่มต้นกับ นครปฐม ยูไนเต็ด ซึ่งตอนนั้นยังเป็นศึก โปรวินเชียล ลีก
โคเน่ อยู่เมืองไทย เรื่อยมาจนลีกอาชีพก่อตั้งในปี 2007 และซีซั่นนั้นเองเขามีส่วนสำคัญของแชมป์ลีกที่ ชลบุรี ทำได้ ก่อนจะย้ายไปเมียนมาร์ อยู่แว๊บนึง กระทั่งกลับมาเล่นให้ เมืองทอง ในปี 2010
เขาพากิเลนผยองคว้าแชมป์ ไทยลีก ด้วยการยิงไป 10 ประตู แต่ด้วยปัญหาบาดเจ็บ ทำให้ถูกปล่อยยืมตัว พอหมดสัญญาก็ไปต่อที่ เลย ซิตี้ และปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับ แพร่ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2016
[ 2 ] เนย์ ฟาเบียโน่
สัญชาติ: บราซิล
สโมสร: พนักงานยาสูบ, ชลบุรี เอฟซี, บางกอกกล๊าส เอฟซี, วันชน ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี, ภูเก็ต เอฟซี, ขอนแก่น เอฟซี
เล่นใน ไทยลีก: 2007-2008 และ 2010-2016
ปี 2007 ซึ่งถือเป็นปีแห่งการเริ่มต้นฟุตบอลอาชีพของสยามประเทศและ ฟาเบียโน่ ก็คือนักเตะต่างชาติกลุ่มแรกๆ ที่เข้ามาโลดแล่นในเมืองไทย ในยุคนั้น
ผลงานของเขาโดดเด่นสะดุดตากับการซัดไป 18 ประตู จาก 19 เกม ที่ลงสนาม ส่งผลให้คว้ารางวัล 'ดาวซัลโว' ไปครอง ส่วนต้นสังกัดของตนเองในฤดูกาลนั้นอย่าง พนักงานยาสูบ จบอันดับ 6 ของตาราง
ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรง ชลบุรี แชมป์ ไทยลีก 2007 จึงมาคว้าตัวไปล่าตาข่าย และทำให้เจ้าตัวได้เฉิดฉายใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก กระทั่งถูก เมลเบิร์น วิคตอรี่ ยื่นข้อเสนอ 5 ล้านบาท ให้พิจารณา จนได้ย้ายไปออสเตรเลีย ในปี 2008
หัวหอกชาวบราซิล กลับมาเมืองไทย อีกครั้งในซีซั่น 2010 และก็ย้ายไปหลายสโมสร ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับ ขอนแก่น เอฟซี ในปี 2016
[ 3 ] ลูโดวิค ทาคาม
สัญชาติ: แคเมอรูน
สโมสร: พัทยา ยูไนเต็ด (สมุทรปราการ ซิตี้ ในปัจจุบัน), ชลบุรี เอฟซี, ภูเก็ต เอฟซี, ราชนาวี เอฟซี, กระบี่ เอฟซี, อยุธยา เอฟซี, โคปูน วอร์ริเออร์
เล่นใน ไทยลีก: 2010-2017
ดาวยิงผู้ทำประตูในลีกสิงคโปร์ ได้เกินกว่า 100 ลูก ย้ายมาค้าแข้งในเมืองไทย กับ พัทยา ยูไนเต็ด (สมุทรปราการซิตี้ ในปัจจุบัน) เมื่อปี 2010 โดยทีแรกแทบไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะไปรอด เนื่องจากรูปร่างเพียง 1.64 เมตร ซึ่งถือว่าเล็กมากสำหรับผู้เล่นตำแหน่งนี้
แม้จะไม่สูงใหญ่ ทว่า ทาคาม ใช้ความปราดเปรียวเอาชนะกองหลังฝั่งตรงข้าม ก่อนจะกดไป 17 ประตู พาโลมาพิฆาตจบอันดับ 6 ของตาราง ทั้งๆ ที่นักเตะชุดนั้นอุดมไปด้วยดาวรุ่งแทบจะยกทีม ส่วนตนเองก็ตนเองคว้ารางวัล 'ดาวซัลโว' ของลีกไปครอง
ผลงานโดดเด่นเป็นสง่าในสีเสื้อ พัทยา จนได้ย้ายไป ชลบุรี แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ทำให้พเนจรไปอีกหลายแห่ง กระทั่งปิดฉากอาชีพที่ โคปูน วอร์ริเออร์ เมื่อปี 2017
[ 4 ] คเลตอน ซิลวา
สัญชาติ: บราซิล
สโมสร: โอสถสภา, บีอีซี เทโรศาสน (โปลิศ เทโร เอฟซี ในปัจจุบัน), เมืองทอง ยูไนเต็ด, เชียงราย ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี
เล่นใน ไทยลีก: 2010-2013, 2014-2017 และ 2018-2019
เจ้าของสถิติ 'ดาวซัลโว' สูงสุดตลอดกาล ไทยลีก อันดับ 2 ด้วยจำนวน 144 ประตู โดยมีอยู่ถึง 2 ฤดูกาลที่ได้รองเท้าทองคำ (2012 และ 2016) เข้ามาหากินบนแผ่นดินขวานทองตั้งแต่ปี 2010 ก่อนจะสร้างชื่อตอนเล่นให้ บีอีซี เทโรศาสน (โปลิศ เทโร เอฟซี ในปัจจุบัน) จนได้ย้ายไปลีกเม็กซิโก
อย่างไรก็ตาม ชีวิตที่นั่นไม่โสภาดั่งใจหวัง ซิลวา จึงกลับมาเมืองไทย โดยมีที่หมายคือ เมืองทอง เมื่อปี 2014 และก็ช่วยพากิเลนผยองผงาดคว้าแชมป์ลีกได้ในซีซั่น 2016 ซึ่งนั่นทำให้ได้ย้ายสู่ลีกจีน
เขาคัมแบ็กสู่สยามประเทศอีกครั้งในปี 2018 และก็เล่นเรื่อยจนถึงฤดูกาล 2019 ก่อนจะอำลาไปค้าแข้งที่อินเดีย กระทั่งถึงปัจจุบัน
[ 5 ] ฟร้องค์ โออ็องด์ซ่า
สัญชาติ: แคเมรูน
สโมสร: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
เล่นใน ไทยลีก: 2011-2012
นี่คือศูนย์หน้าพระกาฬที่ยืนยันได้ชัดเจนถึงแววตาอันเฉียบแหลมของทีมแมวมอง บุรีรัมย์ กับการนำ โออ็องด์ซ่า มาค้าแข้งใน ไทยลีก ตอนที่เจ้าตัวอยู่ในวัย 19 ย่างสู่ 20
แม้จะอายุน้อย แต่ผลงานของเขาไม่ได้เล็กตาม หากแต่ระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาให้ประจักษ์สายตาแฟนฟุตบอลชาวสยามกับการกดไป 19 ประตู โดยที่ตัวเองได้ 'ดาวซัลโว' ทั้งยังพาปราสาทสายฟ้าฟาดแชมป์ ไทยลีก 2011
แน่นอนว่าลีกไทย นั้นเล็กเกินไปสำหรับ โออ็องด์ซ่า เสียแล้ว ปีต่อมา (2012) เขาถูกสโมสรในยุโรป ล่าตัวไป เริ่มจาก กรอยเธอร์ เฟือธ (เยอรมัน), เซส์เว็ต (โครเอเชีย) และ ไฮจ์ดุ๊ก สปลิต (โครเอเชีย) ก่อนจะกลับมาเอเชีย อีกครั้งในปี 2018 แต่หนนี้ไปอยู่ลีกจีน
ปัจจุบันหัวหอกชาวแคเมอรูน เล่นในลีกรองของแดนมังกรกับ เหยหลงเจียง ไอซ์ ซิตี้
[ 6 ] ฆาเบียร์ ปาตีโญ่
สัญชาติ: สเปน (เล่นให้ทีมชาติฟิลิปปินส์)
สโมสร: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ราชบุรี เอฟซี, การท่าเรือ เอฟซี
เล่นใน ไทยลีก: 2013-2015, 2018-2021
ปาตีโญ่ เป็นอีกหนึ่งศูนย์หน้าที่น่าเสียดายกับการไม่สามารถไต่ไปอยู่ในชาร์ตดาวซัลโวตลอดกาลของ ไทยลีก ด้วยปัญหาบาดเจ็บรบกวน เพราะถ้าเขาลงสนามอย่างต่อเนื่อง รับประกันเลยว่าต้องใส่สกอร์ไม่ต่ำกว่า 100 ลูก เป็นแน่
หัวหอกเชื้อสายสเปน-ฟิลิปปินส์ ย้ายมาค้าแข้งบนแผ่นดินขวานทองเป็นครั้งแรกในฤดูกาล 2013 และก็มีส่วนสำคัญของแชมป์ ไทยลีก ในปีนั้น โดยที่ตนเองซัดไป 14 ประตู ส่วนซีซั่นต่อมาก็กดไปอีก 21 ลูก เป็นรองดาวซัลโวต่อจาก เฮแบร์ตี้
ฟอร์มอันกระฉูดแตก ทำให้ ปาตีโญ่ ได้ไปเล่นที่ ไชนีส ซูเปอร์ ลีก ถึง 3 ฤดูกาล และมีผลงานที่พอใช้ได้ ก่อนจะคัมแบ็กสู่เมืองไทย อีกครั้งในซีซั่น 2018 แต่ด้วยสภาพร่างกายที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้เขาแยกทางกับ การท่าเรือ เมื่อปี 2021
[ 7 ] ดีโอโก้ ลุยส์ ซานโต้
สัญชาติ: บราซิล
สโมสร: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
เล่นใน ไทยลีก: 2015-2018 และ 2020-2022
ว่ากันว่า ดีโอโก้ น่าจะเป็นศูนย์หน้าต่างชาติที่ดีที่สุดที่เคยมาเล่นในเมืองไทย เลยทีเดียว หลักฐานชั้นดีคือถ้วยรางวัลมากมาย ทั้งกับ บุรีรัมย์ และ บีจี ปทุม รวมไปถึงผลงานของเจ้าตัวที่ช่วยยกระดับลีกอาชีพแดนสยามให้สูงขึ้นอย่างชัดเจน
หัวหอกชาวบราซิล มีคุณสมบัติในการเป็นกองหน้าแบบครบถ้วน ฉลาด, ยิงคม, เล่นเป็นเกม, เสียบอลยาก, ลูกหัวดี แถมยังมีชั้นเชิงในการเผชิญหน้ากับคู่แข่งอีกต่างหาก
118 ประตู ใน ไทยลีก ถือเป็นตัวเลขที่อาจจะดูน้อยไปนิด เพราะอยู่อันดับ 4 ร่วมกับ ดราแกน บอสโกวิช ในฐานะดาวซัลโวสูงสุด แต่ถึงอย่างนั้น แต่ละสกอร์ที่ ดีโอโก้ ทำได้นั้นเปี่ยมไปด้วยคลาสของฟุตบอลจริงๆ
ทุกวันนี้ในวัย 36 ปี เขายังเล่นอยู่กับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม สโมสรเบอร์หนึ่งของมาเลเซีย และก็กำลังจะได้ผนึกกำลังกับ เฮแบร์ตี้ ในเร็ววัน
[ 8 ] ดราแกน บอสโกวิช
สัญชาติ: มอนเตเนโกร
สโมสร: สุพรรณบุรี เอฟซี, แบงค็อก ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, ชลบุรี เอฟซี, โปลิศ เทโร เอฟซี
เล่นใน ไทยลีก: 2013-2021
อีกหนึ่งนักเตะที่เข้ามายกระดับฟุตบอลไทย อย่างแท้จริง กับตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี บนแผ่นดินขวานทอง
โดยเฉพาะฤดูกาล 2017 ที่เขากระหน่ำไปถึง 38 ประตู ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่มากที่สุดใน 1 ซีซั่น และถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีกองหน้าคนใดอาจหาญขึ้นมาเทียบเคียง
น่าเสียดายที่ บอสโกวิช ซึ่งอยู่ในอันดับ 4 ร่วมกับ ดีโอโก้ ลุยส์ ซานโต้ ในฐานะดาวซัลโวสูงสุดของ ไทยลีก (118 ประตู) นั้นไม่เคยมีโทรฟี่มาประดับบารมีเลยสักหน เพราะไปไกลที่สุดเพียงรองแชมป์เท่านั้น ทั้งในลีกและฟุตบอลถ้วย
[ 9 ] เลอันโดร อัสซัมพ์เซา
สัญชาติ: บราซิล
สโมสร: เชียงราย ยูไนเต็ด, ชลบุรี เอฟซี, ศรีสะเกษ เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด, แอร์ฟอร์ซ เอฟซี, นครราชสีมา เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด
เล่นใน ไทยลีก: 2011-2022
แม้จะไม่เคยไปถึง 'ดาวซัลโว' ไทยลีก เลยสักครั้ง ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปี ที่โลดแล่นในเมืองแห่งรอยยิ้ม แต่ถึงอย่างนั้น อัสซัมพ์เซา ก็เป็นกองหน้าประเภทยิงเรื่อยๆ จนสะสมประตูไปที่จำนวน 116 ลูก และอยู่ในชาร์ตหัวหอกตลอดกาลเป็นลำดับที่ 6
เขาเล่นให้ถึง 8 สโมสร โดยมีถ้วยแชมป์ ลีก คัพ 2017 ร่วมกับ เมืองทอง มาประดับบารมี ทว่าช่วงท้ายก่อนจะกลับบราซิล นั้นจบไม่สวยนัก เนื่องจากขอยกเลิกสัญญากับ เมืองกาญจน์ เมื่อต้นปี 2022
[ 10 ] เฮแบร์ตี้
สัญชาติ: บราซิล
สโมสร: ราชบุรี เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, แบงค็อก ยูไนเต็ด
เล่นใน ไทยลีก: 2014-2016, 2017-2023
เจ้าของสถิติ 'ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล' ของ ไทยลีก กับจำนวน 159 ประตู และคงยากที่จะหาใครมาแซงในระยะเวลาอันใกล้นี้
เฮแบร์ตี้ สร้างชื่อกับ ราชบุรี เมื่อซีซั่น 2014 หลังกดไป 26 ประตู จนคว้ารางวัลรองเท้าทองคำมาครอง จนถูก อัล-ชาบ๊าบ สโมสรในลีกซาอุดีอาระเบีย มากระชากตัวไปในปี 2016
เขากลับมาเมืองไทย อีกครั้งในปี 2017 โดยมีสถานีปลายทางคือ เมืองทอง และก็ใช้เท้าซ้ายสุดฉมัง ยิงสนั่นในทุกๆ สัปดาห์ จนกลายเป็นขวัญใจสาวกกิเลนผยองทุกหมู่เหล่า แต่ด้วยสัญญาที่ไม่ลงตัว ทำให้ต้องย้ายไป การท่าเรือ และปิดท้ายด้วย แบงค็อก กระทั่งโยกสู่ ยะโฮร์ เมื่อไม่นานมานี้