บทความที่ 'SIAMSPORT' ใคร่เชิญคุณมาทำความรู้จักกับ 'เรื่องใหม่' ไม่ว่าจะเป็นสโมสรใหม่, นักเตะใหม่, ผู้บริหารใหม่, โค้ชคนใหม่ และอะไรก็ตามที่ 'ใหม่' เรารวบรวมข้อมูล รวมถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาให้คุณได้อ่านกัน!!
รามิล เชย์ดาเยฟ
สัญชาติ: รัสเซีย (เล่นให้ทีมชาติอาเซอร์ไบจาน)
อายุ: 27
ตำแหน่ง: กองหน้า
สโมสร: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ใหม่ใน ไทยลีก: 2023-24
ระยะหลัง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มักจะเสริมทัพแบบหนักหน่วงเสมอ นักเตะใหม่ของพวกเขาที่เข้ามาเล่นใน ไทยลีก ล้วนแล้วแต่พกดีกรีมีระดับติดตัวมา
ฤดูกาล 2022-23 เลกแรกปราสาทสายฟ้าอิมพอร์ต แฟร้งค์ คาสตาเญด้า อดีตกัปตันทีม เชริฟฟ์ ชุดชนะ เรอัล มาดริด ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พ่วงด้วย โกรัน เคาซิช มิดฟิลด์เซอร์เบีย ที่ปะทะคารมอย่างดุเดือดกับ เนย์มาร์ มาแล้ว
แม้ว่า คาสตาเญด้า จะผลงานน่าพอใจ แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะไปต่อกับ บุรีรัมย์
มาถึงเลกที่สอง พวกเขานำเข้า ฮาริส วุชคิช แนวรุกทีมชาติสโลวีเนีย ที่ผ่านลีกอังกฤษ ตอนเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล บวกกับ ดิออน คูลส์ อดีตกองหลังเบลเยียม ชุดเยาวชน รุ่นเดียวกับ ยูริ ตีเลอมันส์
นี่คือผู้เล่นที่ยอดทีมแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือคว้าตัวมาภายในระยะเวลาเพียง 1 ฤดูกาล เท่านั้น และมันก็เห็นผลทันทีเมื่อสามารถกวาด 'เทรเบิ้ลแชมป์' ได้สำเร็จ ซึ่งถือเป็นหนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ มากที่สุดเหนือใครในสยามประเทศ
บุรีรัมย์ ยังไม่หยุดนิ่ง พวกเขายังเดินหน้าล่าถ้วยด้วยการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีม ซึ่งนั่นเป็นที่มาของการคว้า รามิล เชย์ดาเยฟ ศูนย์หน้าทีมชาติอาเซอร์ไบจาน มาเสริมทัพ
หัวหอกวัย 27 ปี มีคุณพ่อเป็นชาวอาเซอร์ไบจาน ส่วนคุณแม่เป็นชาวรัสเซีย โดยเขาเติบและโตที่เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก นครเบอร์สองของดินแดนหมีขาว
ด้วยเหตุนี้เอง ชีวิตนักฟุตบอลของ เชย์ดาเยฟ จึงเริ่มต้นกับ เซนิต สโมสรดังในบ้านเกิด และก็ถูกเรียกติดทีมชาติรัสเซีย ชุดเยาวชนแทบทุกรุ่น ไล่ตั้งแต่ ยู-16, 17, 18, 19 และ 21 ปี
อย่างไรก็ตาม ระหว่างปี 2013-2016 ด้วยความที่ เซนิต มีกองหน้าระดับพระกาฬอย่าง ฮัลค์ อยู่ในทีม พ่วงด้วย ซาโลมอน รอนดอน, อเล็กซานเดอร์ เคอร์ชาคอฟ และ อังเดร อาร์ชาวิน ซึ่งแต่ละรายมีทีมชาติต่อท้ายทั้งนั้น
โอกาสที่ เชย์ดาเยฟ ซึ่งขณะนั้นอายุไม่ถึง 20 ปี เลยด้วยซ้ำ จะสอดแทรกจึงมีเพียงน้อยนิด จนสุดท้ายต้องย้ายออกไปในรูปแบบของการยืมตัว
พอหมดสัญญา เขาไปต่อที่ แทร็บซอนสปอร์ สโมสรใหญ่ของตุรกี โดยจรดปากกา 4 ปี แต่ก็อยู่ไม่ครบเทอม อีกทั้งส่วนใหญ่ยังถูกปล่อยยืมตัวเช่นเคย
ทว่าในห้วงเวลาดังกล่าว เชย์ดาเยฟ ซึ่งเล่นให้รัสเซีย ชุดเยาวชนมาโดยตลอด ได้รับการติดต่อจากสมาคมฟุตบอลอาเซอร์ไบจาน ถึงความเป็นไปได้ที่จะเลือกเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่อาเซอร์ไบจาน เชิญผมให้เข้าร่วมทีมชาติ ผมสัมผัสได้ว่าพวกเขาสนใจตัวผมจริงๆ ดังนั้นผมจะพยายามทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อตอบแทนความไว้ใจที่ได้รับ" ดาวยิงป้ายแดงของ บุรีรัมย์ กล่าวผ่าน สปอร์ต เดน ซา ดินยอม (Sport den za dnyom) สื่อของอาเซอร์ไบจาน เมื่อปี 2016
กับ แทร็บซอนสปอร์ ก็ยังแทบไม่ได้เล่น จนตอนที่ถูกปล่อยให้ ซีลิน่า สโมสรในลีกสโลวาเกีย ยืมตัว ตอนนั้นในวัย 21 ปี เขาเริ่มฉายแววเด่น และอยู่ในทีมชุดแชมป์ ดิวิชั่น 2 พร้อมคว้าตั๋วเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดในฤดูกาล 2017-18
ด้วยผลงานที่ดีกับ ซีลิน่า และก็ถูกเรียกตัวอยู่ในทำเนียบผู้เล่นของทัพ มิลลิ โคมานด้า (ฉายาอาเซอร์ไบจาน) เต็มตัว ทำให้ คาราบัค สโมสรใหญ่ของอาเซอร์ไบจาน มายืมตัว เชย์ดาเยฟ ทันที
ที่นี่ทำให้เขาได้แชมป์ลีก ทั้งยังประเดิมสนามศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2017-18 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แอตเลติโก มาดริด
พอเริ่มโตขึ้น เหมือนว่ากราฟชีวิตของ เชย์ดาเยฟ จะพุ่งสูง เพราะในฤดูกาล 2018-19 เขาได้รับสัญญาระยะสั้น (1 ปี) เพื่อย้ายกลับรัสเซีย โดยหนนี้ไปเล่นให้ ครีเลีย โซเวตอฟ และก็มีสถิติที่น่าพอใจในระดับหนึ่งกับการยิงไป 4 ประตู จาก 20 เกม
ซีซั่นต่อมา (2019-20) เขาโยกสู่ทีมที่ใหญ่กว่าอย่าง ดินาโม มอสโกว แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก กระทั่งต้องมุ่งหน้าสู่ลีกอาเซอร์ไบจาน อีกครั้งในปี 2020
ซาบาห์ คือสโมสรที่ฟอร์มของ เชย์ดาเยฟ เริ่มเปล่งปลั่ง โดยเฉพาะในปีที่สองที่ผลงานแจ่มจัด จนถูก คาราบัค คว้าตัวไปร่วมทัพอีกครั้งในฤดูกาล 2021-22 และก็ได้แชมป์ลีกในทันทีอีกต่างหาก
เท่านั้นไม่พอ ซีซั่น 2022-23 ถือเป็นช่วงที่เขาร้อนแรงเกินห้ามใจ เพราะเล่นซัดไป 22 ประตูในลีก จนตนเองคว้ารางวัล 'ดาวซัลโว' มาครอง แถมต้นสังกัดก็คว้าแชมป์ลีกอาเซอร์ไบจาน ได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
หมดสัญญากับ คาราบัค - เชย์ดาเยฟ ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต เพราะได้ข้อเสนอสุดท้าทายจากเมืองไทย ดินแดนใหม่ที่ตนเองแทบไม่เคยรู้จักมาก่อน นอกจาก 'รอยยิ้ม' อันเป็นเครื่องหมายการค้าของสยามประเทศ
บุรีรัมย์ คือสถานีล่าสุดที่เขาเลือกที่จะมาแสดงฝีเท้าให้แฟนฟุตบอลได้เห็นกัน
แม้จะมาพร้อมส่วนสูง 1.87 เมตร ทว่า เชย์ดาเยฟ เป็นศูนย์หน้าที่ปราดเปรียวและมีสปีดต้นอันจัดจ้าน อีกทั้งยังสามารถปิดสกอร์ได้เฉียบขาดอีกต่างหาก
เมื่อรวมเข้ากับบรรดาแนวรุกที่มีอยู่อย่าง วุชคิช, ศุภชัย ใจเด็ด และ ลอนซาน่า ดูมบูญ่า มันช่างน่าติดตามจริงๆ ว่าปราสาทสายฟ้าที่แทบจะไร้เทียมทานอยู่แล้วจะแข็งแกร่งมากขึ้นเพียงใด
ยิ่งเมื่อมองถึงขุมกำลังของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ผู้ท้าชิงอันดับหนึ่ง มันทำให้ ไทยลีก 2023-24 คงจะเป็นฤดูกาลที่สู้กันสนุกที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังบ้านเราเลยทีเดียว
#Siamsport
#สยามกีฬา
#ไทยลีก
#ไทยลีก2023I24
#ฟุตบอลไทย
#บอลไทย
#บุรีรัมย์ยูไนเต็ด
#ปราสาทสายฟ้า
#RamilSheydayev
#รามิลเชย์ดาเยฟ
#น้องใหม่ไทยลีก