ชลบุรี เอฟซี เป็นอีกหนึ่งสโมสรที่ขยับตัวได้น่าสนใจหลังฤดูกาล 2022-23 ปิดฉากลง
พวกเขาจบอันดับ 6 ของตารางการแข่งขัน ดูผิวเผินอาจจะเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ แต่ถ้าย้อนกลับไปตอนต้นซีซั่นถือว่าฉลามชลคงจะผิดหวังอยู่ไม่น้อย
อดีตแชมป์ ไทยลีก 2007 ครองจ่าฝูงอยู่ 3 สัปดาห์ ก่อนจะตกบัลลังก์ในแมตช์เดย์ที่ 9 ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่เคยอยู่ต่ำกว่าอันดับ 3 ของตารางคะแนน และก็รักษามาตรฐานได้ยาวนานกว่า 15 อาทิตย์เลยทีเดียว
แต่ช่วงโค้งสุดท้าย พวกเขากลับแผ่วไปดื้อๆ อันดับค่อยๆ หล่นลงทีละนิด กระทั่งถูก การท่าเรือ เอฟซี, เมืองทอง ยูไนเต็ด และ เชียงราย ยูไนเต็ด แซงขึ้นไป ส่วนตัวเองมาจบที่ 6 แถมมีแต้มเท่ากับ โปลิศ เทโร เอฟซี อีกต่างหาก
ด้วยเหตุนี้เอง ความเปลี่ยนแปลงยกใหญ่จึงเกิดขึ้นในรั้ว ชลบุรี สเตเดี้ยม เพราะมีการเปลี่ยนถ่ายผู้เล่นมากมาย ไล่ตั้งแต่กลุ่มที่ย้ายออกไป โก ซึล-กี, ยู บยอง-ซู, เรนาโต้ เคลิช, ดานิโล่ อัลเวส, เดนนิส มูริลโล่, ฟาอิก โบลเกียห์, ดีเอโก้ บาร์ดันก้า, เจสซี่ เคอร์แรน และ สุมัญญา ปุริสาย
หลายๆ คนคือตัวหลักของ ชลบุรี มา 2-3 ซีซั่นหลังสุด มันจึงทำให้เกิดคำถามว่าต่อจากนี้ฉลามชลจะเดินไปในทิศทางใด
ทว่าพวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงความคิดไว-ทำไว ในเมื่อมีย้ายออก ก็ต้องมีย้ายเข้า ชื่อของ เบนจามิน เดวิส สร้างความชื่นมื่นให้แฟนๆ อย่างรวดเร็ว โทษฐานที่ทุกคนรู้ดีอยู่แล้วว่าแนวรุกเชื้อสายอังกฤษ คนนี้เก่งกาจเพียงใด
จากนั้นก็ได้ อี ชาน-ดง มิดฟิลด์ตัวรับดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ ชุดใหญ่ และล่าสุดเพิ่งคว้า พาทริก ดีย์โต้ ผู้รักษาประตูฟิลิปปินส์ ผู้โชกโชนเวที ไทยลีก
แต่เหนืออื่นใดคือการแต่งตั้ง มาโกโตะ เทกูระโมริ กุนซือชาวญี่ปุน ขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ของทีม
ในฟุตบอลยุคปัจจุบัน เฮดโค้ชคือปัจจัยสำคัญของทุกสโมสรทั่วโลก เพราะตำแหน่งนี้คือตัวชี้วัดว่าคุณมีโอกาสจะประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด
หากได้เทรนเนอร์ฝีมีดี มันสมองเฉียบแหลมมาคุมทีม มันก็จะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการบรรลุสู่เป้าหมายที่วางไว้
ดังนั้นการที่ ชลบุรี มี เทกูระโมริ เป็นเฮดโค้ช มันจึงช่วยเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จมากขึ้นหลายเท่าตัว
บิ๊กบอสจากเมืองซามูไรมีเพียงถ้วย ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2022 มาประดับบารมี แต่นั่นก็เพราะเขามีเวลาในการกำกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด เพียง 10 เดือน เท่านั้น ก่อนจะแยกทางกันในเดือน ตุลาคม ของปีที่ผ่านมา
ทว่าผู้คนในวงการลูกหนังแนสยามต่างก็ยอมรับว่า เทกูระโมริ มีกึ๋นและมีศักยภาพที่สามารถยกระดับทีมที่ตนเองคุมทัพได้ไม่ยาก
แชมป์ เจลีก 2 ฤดูกาล 2009 ในฐานะกุนซือ เวกัลตะ เซนได ทั้งยังพาทีมขับเคี่ยวกับ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมะ จนเกือบไปถึงแชมป์ เจลีก ในซีซั่น 2012
กระทั่งได้คุมทีมชาติญี่ปุ่น รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และก็นำ เดอะ บลู ซามูไร คว้าแชมป์เอเชีย เมื่อปี 2016
นี่คือผลงานระดับ มาสเตอร์พีซ ที่ เทกูระโมริ พิสูจน์ให้เห็นว่าตนเองคือหนึ่งในเฮดโค้ชชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนั่นการันตีได้เลยว่าการที่มีเขาเป็นแม่ทัพใหญ่ ทีมของคุณจะเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีอย่างแน่นอน
กับ ชลบุรี จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ เพราะทีมชุดปัจจุบันก็มีนักเตะชั้นนำของเมืองไทย หลายราย - กฤษดา กาแมน, ชาญณรงค์ พรหมศรีแก้ว และ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ คือแข้งที่ถูกเรียกเข้าสู้แคมป์ช้างศึกอย่างสม่ำเสมอ
ทรงชัย ทองฉ่ำ, พิทักษ์ พิมแป้, สุขสันต์ บุญตา, จักรพงษ์ แสนมะฮุง, บุคฆอรี เหล็มดี, รชต หมอรักษา รวมไปถึง ยศกร บูรพา คือก๊วนดาวรุ่งที่รอการเจียระไน ซึ่งแต่ละรายก็มีของและพร้อมที่จะฉายแสงในอนาคตข้างหน้า
เมื่อบวกกับนักเตะที่มาใหม่อย่าง เดวิส, ชาน-ดง และ ดีย์โต้ มันก็น่าจะทำให้หัวใจของสาวกฉลามชลกระชุ่มกระชวยกันถ้วนหน้า
เชื่อว่าก่อนเปิดฤดูกาล 2023-24 พวกเขาคงจะมีการเสริมทัพเพิ่มเติมแน่ๆ ซึ่งก็คงจะได้ผู้เล่นฝีเท้าดีเข้ามาอีก โดยเฉพาะโควตาต่างชาติที่ยังเหลือที่ว่างอยู่อีก 4 ที่นั่ง
ชลบุรี และก้าวเดินที่น่าติดตาม
ชิกกะด้าว