ไทยลีก - การโยกย้ายของกองหลังและภาพสะท้อนที่ชัดเจน

   ล่าสุด กาซิโอ ไชด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟชาวบราซิล ได้ออกมาโพสต์อำลา บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หลังหมดสัญญากับต้นสังกัด

   เท่ากับว่า จบฤดูกาล 2022-23 ทีมกระต่ายแก้วเสียปราการหลังตัวกลางไปพร้อมๆ กันสองราย คนแรกคือ อันเดรส ตูเญซ ที่ประกาศแขวนสตั๊ด และอีกคนคือ ไชด์ ที่ไม่สามารถรีดฟอร์มเก่งใน ไทยลีก ได้ตามที่ถูกคาดหวัง

   อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตุได้ชัดเจนว่าเวลานี้บรรดาทีมในกลุ่มหัวตารางมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟแทบทั้งหมด

   เอาเคสที่ย้ายออกแล้วแน่ๆ คือ ลูคัส โฮช่า กองหลังของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ทางสโมสรยืนยันว่าแยกทางกันเป็นที่เรียบร้อย

   ส่วน วิคตอร์ คาร์โดโซ่ ดาวซัลโวสูงสุดของ เชียงราย ยูไนเต็ด (11 ประตู) นั้นก็ต้องกลับ บีจี ปทุม เนื่องจากหมดสัญญายืมตัว

   นอกจากนี้ น่าสนใจคือพวกที่มีข่าวว่าเตรียมย้ายออก ทว่ายังไม่มีการยืนยันคือ แอร์ตอน ที่ทำท่าว่าน่าจะไม่ได้ไปต่อกับ การท่าเรือ เอฟซี หรือ เยสเปอร์ นีโฮล์ม กองหลังทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่อาจจะผลงานดี แต่การเจ็บบ่อย ก็อาจจะทำให้ เมืองทอง ต้องคิดหนัก เช่นเดียวกันกับ เรนาโต้ เคลิช ซึ่งอนาคตยังคลุมเครือกับ ชลบุรี เอฟซี

   รวมไปถึง เรบิน ซูลาก้า เซนเตอร์ฮาล์ฟมาตรฐานสูง ผู้หายหน้าไปจาก 11 ตัวจริงของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในช่วงท้ายซีซั่น แถมนัดชิงชนะเลิศ ลีก คัพ ก็ไม่มีชื่อกระทั่งตัวสำรอง

   มีเพียง แบงค็อก ยูไนเต็ด เท่านั้นในกลุ่มทีมหัวแถว ที่น่าจะนิ่งที่สุด เนื่องจากพวกเขามีเซนเตอร์ฮาล์ฟระดับท็อปอยู่ถึง 3 คน ไล่ตั้งแต่ เอแวร์ตอน, มานูเอล ทอม บีร์ห และ สุพรรณ ทองสงค์

   ดังนั้นฤดูกาล 2023-24 โฉมหน้าของแต่ละทีมคงจะเปลี่ยนแปลงไปพอสมควรทีเดียว

   ในกรณีของ ซูลาก้า ก็น่าติดตามไม่น้อย เพราะนับตั้งแต่ย้ายจาก เลฟสกี้ โซเฟีย สโมสรใหญ่ของบัลแกเรีย มาอยู่กับ บุรีรัมย์ เมื่อปี 2021 - เขาก็เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ทำให้ปราสาทสายฟ้ากลับมาคว้าแชมป์ลีกได้ 2 สมัยติดต่อกัน

   มาตรฐานของปราการหลังทีมชาติอิรัก อยู่ในเกณฑ์ที่สูงลิ่ว 2 ซีซั่นในรั้ว ช้าง อารีน่า - บุรีรัมย์ ถูกเจาะตาข่ายใน ไทยลีก ไปเพียง 46 ลูก เท่านั้น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยมากๆ และคีย์แมนก็คือ ซูลาก้า นี่แหละที่เข้ามาขันน๊อตเกมรับจนแน่นปั๊ก

   แม้ปัจจุบัน บุรีรัมย์ ยังมี ดิออน คูลส์ กับ พรรษา เหมวิบูลย์ สองกองหลังชั้นนำของลีกอยู่ แต่ถ้าหากว่า ซูลาก้า ย้ายออกไป พวกเขาอาจจะต้องเร่งหาตัวแทนที่เก่งกาจไม่แพ้กันให้ได้ มิเช่นนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อผลงานทั้งในและนอกประเทศ เนื่องจากฤดูกาล 2023-24 ปราสาทสายฟ้าต้องไปลุย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขาปรารถนาจะไปให้ไกลที่สุด ยิ่งต้องมีขุมกำลังที่พร้อมจะสลับสับเปลี่ยนกันลงสนาม

   จากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แม้ตอนนี้จะเป็นก๊วนกองหลังที่มีการโยกย้ายกันเยอะที่สุด แต่ต่อจากนี้คงจะมีอีกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นแน่ และมันก็สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของ ไทยลีก ที่ค่อยๆ ขยับขึ้นสูงอีกครั้ง ซึ่งการพุ่งสู่อันดับ 8 ของเอเชีย คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าฟุตบอลบ้านเรากำลังไปได้สวยจริงๆ

   มาตรฐานดีขึ้น ลีกแข็งแรงขึ้น นักเตะมีคุณภาพมากขึ้น มองไปมุมไหนก็มีแต่แง่บวกล้วนๆ ก็ได้แต่หวังว่าจะสามารถรักษาสิ่งดีๆ แบบนี้ไปได้ในระยะยาว

ชิกกะด้าว