กิเลนผลัดใบ

   อย่างไรก็ตาม กิเลนผยองร้างราความสำเร็จมายาวนานกว่า 5 ฤดูกาล ติดต่อกัน (ตั้งแต่ปี 2017) ซึ่งนั่นอาจจะทำให้พวกเขาต้องพยายามอย่างหนัก หากต้องการรักษาความนิยมให้ได้

   แม้จะจบฤดูกาล 2022-23 ด้วยอันดับ 4 ที่อาจจะพอใจ เพราะเมื่อเทียบในเรื่องของตัวผู้เล่น พวกเขาไม่น่าจะมาไกลถึงเพียงนี้ แต่ในแง่ของถ้วยรางวัล ยังถือว่าห่างเหลือเกิน

   ดังนั้นซีซั่นหน้า เชื่อว่า เมืองทอง คงจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างแน่นอน

   ล่าสุดการปล่อย ลูคัส โฮช่า ออกจากทีม น่าจะเป็นการเริ่มนับหนึ่งของการปรับปรุงสโมสรครั้งใหญ่ เพราะเซนเตอร์ฮาล์ฟชาวบราซิล ถือเป็นนักเตะสำคัญในช่วง 3 ซีซั่นหลังสุด แต่การไม่ได้รับการขยายสัญญา แสดงว่ากิเลนผยองมีแผนเสริมที่ดีกว่าเดิมเป็นแน่

   ส่วนโควตาที่เหลืออยู่ ไล่ตั้งแต่ วิลเลียน พ็อพพ์, เอริก โจฮาน่า, เฮนรี่ อานิเยร์, ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ และรวมไปถึงแข้งอาเซียน อย่าง เยสเปอร์ นีโฮล์ม นั้นก็ยังไม่แน่ว่าใครจะได้ไปต่อ

   หากพิจารณาจากผลงานในฤดูกาลล่าสุด คงจะมีแค่ พ็อพพ์ คนเดียวเท่านั้นที่ยกระดับทีมได้ ขณะที่ โจฮาน่า อาจจะยิงแฮตทริกใส่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ก็จริง ทว่าโดยรวมยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรในการปรับตัวกับ ไทยลีก

   ขณะที่ นีโฮล์ม อาจจะพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถเล่นในเมืองไทย ได้สบายๆ แต่ร่างกายที่เปราะบางไปหน่อย เป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าตัวไม่ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอ ส่วน อานิเยร์ และ มีร์ซาเยฟ ปีนี้ค่อนข้างเงียบ ทำให้โอกาสที่ทั้งคู่จะอยู่ต่อนั้นคงเป็นไปได้ยาก

   ดังนั้นโควตาต่างชาติของ เมืองทอง น่าจะมีการปรับเปลี่ยนแบบยกใหญ่เลยทีเดียว

   ขณะที่ตัวผู้เล่นไทย ก็คงจะมีการโยกย้าย แต่น่าสนใจตรงที่ 3 นักเตะ ที่ไปฝึกซ้อมร่วมกับ อูราวะ เร้ดส์ ไดม่อนด์ส หากว่ามีใครเข้าตาแชมป์เอเชีย ทีมล่าสุด มันจะทำให้กิเลนผยองต้องขยับขยายแบบเต็มตัวทันที

   วีระเทพ ป้อมพันธุ์ คือหัวใจในแดนกลาง, เอกนิษฐ์ ปัญญา อาจจะยังไม่เฉิดฉายนักในชุดสีแดง แต่เขาคือนักเตะแห่งอนาคตที่ เมืองทอง เองก็หวังปั้นในระยะยาว และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ก็ทำผลงานได้ดีมากๆ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพในเลกที่สอง

   ทั้ง 3 คนคือผู้เล่นหลักของทีมในปีนี้ ดังนั้น หากทาง อูราวะ เร้ดส์ จิ้มไปที่ใครคนใดคนหนึ่งไป หรืออาจจะจิ้มทั้ง 3 คนเลย อดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย คงต้องกระโจนเข้าสู่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะแบบเต็มเหนี่ยวแน่ๆ

   นี่ยังไม่นับรวมกรณีของ สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ และ บุญทวี เทพวงศ์ สองฟูลแบ็กที่ตกเป็นข่าวเรื่องการโยกย้ายตั้งแต่ปลายฤดูกาล จนเป็นที่มาของการคัมแบ็กของ ทริสต็อง โด ที่หวนคืนสู่ ธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม เป็นคำรบสอง

   เท่ากับว่าจากนี้ไป เมืองทอง จะมีการสลับปรับเปลี่ยนอีกเพียบเลยทีเดียว

   อย่างไรก็ตาม ด้วยระบบที่ มาริโอ ยูรอฟสกี้ พยายามเคี่ยวเข็ญมาตลอดนั้นเริ่มสัมฤทธิผลขึ้นเรื่อยๆ หากแกนหลักยังอยู่สัก 80 เปอร์เซ็นต์ แล้วได้นักเตะที่สอดประสานเข้ากับแท็กติกที่กุนซือชาวมาซิโดเนีย ต้องการ เชื่อได้เลยว่ายักษ์ใหญ่แห่งย่านแจ้งวัฒนะจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่าแน่

   ฤดูกาล 2023-24 คงจะเป็นซีซั่นที่ตื่นเต้นเร้าใจที่สุดในประวัติศาสตร์

   บุรีรัมย์ แชมป์เก่ายังยอดเยี่ยมเกินต้านทาน

   แบงค็อก ยูไนเต็ด กระดูกการลุ้นแชมป์แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งนักเตะก็ระดับท็อปของประเทศ

   การท่าเรือ เอฟซี ดีวัน-ดีคืน ทรัพยากรทั้งผู้เล่นและงบประมาณก็สูงลิ่ว หากปรับอะไรนิดๆ หน่อยๆ เชื่อได้เลยว่าต้องมีถ้วยรางวัลติดมือแน่

   บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ผู้ล้มเหลวจากซีซั่น 2022-23 ก็หวังที่จะกลับมาทวงบัลลังก์ของตนเอง และแน่นอนว่าพวกเขามีศักยภาพในทุกๆ ด้านที่จะประสบความสำเร็จ

   ส่วน เมืองทอง ก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่สุกงอม และถ้าได้นักเตะใหม่เข้ามาเสริมแบบตรงจุด ลงล็อกกับระบบของ ยูรอฟสกี้ - บางทีฤดูกาล 2022-23 กิเลนอาจจะกลับมาผยองก็เป็นได้

ชิกกะด้าว