2022-23 ฤดูกาลที่เงียบเหงาของแข้งอาเซียน

   แน่นอนว่าในแต่ละซีซั่นมีความเข้มข้นแตกต่างกันออกไป ฤดูกาลนี้การลุ้นแชมป์ดูจะจืดชืดไปหน่อย เนื่องจากบรรดาคู่แข่งแย่งโทรฟี่ต่างทยอยกันสะดุดทีละนิด จนเป็นเหตุให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่คงเส้นคงวามากที่สุดแทบจะลอยลำแบบสบายๆ

   ขนาดว่า แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ดูจะมาตรฐานสม่ำเสมอที่สุด ยังเพิ่งจะบุกไปแพ้ ลำพูน วอร์ริเออร์ส ทั้งๆ ที่พวกเขาเพิ่งจะปราบปราสาทสายฟ้า พร้อมกับหยุดสถิติ 'ไร้พ่าย' มาหมาดๆ แต่กลับฟอร์มฝืดแบบเหลือเชื่อในสัปดาห์ถัดมา

   ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แต่ละสโมสรจะมีผลงานที่ดีได้ คือนักเตะและโค้ช หากว่าคุณมีผู้เล่นศักยภาพสูง คุณก็ได้เปรียบทีมอื่นๆ ซึ่งเมื่อบวกกับกุนซือเข้าไป ถ้า 2 สิ่งนี้ไปควบคู่กัน รับประกันเลยว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

   ตารางคะแนนคือหลักฐานชั้นดีถึงหลักการนี้

   อันดับ 1-3 คือ บุรีรัมย์, แบงค็อก และ การท่าเรือ เอฟซี คือสโมสรที่มีองค์ประกอบครบถ้วน โค้ชเก่ง นักเตะดี เพียงแต่จะแตกต่างกันตรงที่มาตรฐานการเล่นในแต่ละสัปดาห์ว่าทีมใดจะรักษาผลงานไว้ได้ทั้งปี

   การท่าเรือ เพิ่งจะมาดีหน่อยเอาในช่วงหลัง เพราะได้กุนซือที่เข้าใจในตัวผู้เล่นมาสานงาน ผลที่ออกมาก็อย่างที่เห็น อันดับพุ่งสูงขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะหล่นลงไปอีกแล้ว สวนทางกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่นักเตะชั้นนำล้นทีม ทว่าเปลี่ยนเทรเนอร์บ่อย จนขาดความต่อเนื่อง จึงกระท่อนกระแท่นในซีซั่น 2022-23

   อีกสิ่งที่เป็นปัจจัยหลักในเรื่องตัวผู้เล่น คือ 'โควตา' อาเซียน

   ปีนี้ดูเหมือนว่าบรรดานักเตะจากดินแดนบ้านใกล้เรือนเคียงจะไม่มีใครที่มีผลงานเข้าตาสักเท่าไหร่นัก ผิดกับในซีซั่นก่อนๆ ที่เป็นตัวแปรสำคัญ

   นับตั้งแต่ ไทยลีก มีโควตาอาเซียน ในฤดูกาล 2018 - หลายๆ สโมสรต่างก็พยายามใช้คอนเน็กชั่นเสาะหาผู้เล่นที่ตรงตามคุณสมบัติเข้ามาเสริมทัพ เพราะมันไม่กระทบกับต่างชาติ แถมฝีเท้าและความแข็งแรงของร่างกายก็จัดว่าใกล้เคียงกัน

   โควตาอาเซียน จึงค่อนข้างจะสร้างความแตกต่างได้เหมือนกัน

   ยกตัวอย่างง่ายในแต่ละปี

   2018 - อ่อง ตู (เมียนมาร์) ที่ฟอร์มกระฉูดกับ โปลิศ เทโร เอฟซี จนถูก เมืองทอง ยูไนเต็ด ดึงตัวไปในฤดูกาลถัดมา รวมไปถึง ไมเคิ่ล ฟัลเคสการ์ด (ฟิลิปปินส์) ที่พา แบงค็อก จบด้วยรองแชมป์

   2019 - ลอนซาน่า ดูมบูญ่า กองหน้าชาวกีนี อาจจะยิงให้ ตราด เอฟซี จนเป็นดาวซัลโวในปีนั้นก็จริง แต่ต้องอย่าลืมว่า ไบฮัคกี้ ไคซาน (สิงคโปร์) ก็คือคีย์แมนในเกมรับที่ทำให้ทีมช้างขาวจ้าวเกาะไม่เพลี่ยงพล้ำคู่ต่อสู้

   2020-21 - อีร์ฟาน ฟานดี้ (สิงคโปร์) กับแชมป์ ไทยลีก ครั้งประวัติศาสตร์ร่วมกับ บีจี ปทุม รวมไปถึง จูเนียร์ เอลด์สตัล (มาเลเซีย) ที่พา ชลบุรี เอฟซี ไปไกลถึงนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ

   2021-22 - แอร์ตอน อาจจะเป็นของจริงนำเข้าจากบราซิล แต่ถ้าไม่ได้ อมานี่ อากินัลโด้ (ฟิลิปปินส์) คู่ขาที่ดี บางที หนองบัว พิชญ เอฟซี ก็อาจจะไม่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์จบอันดับ 6 ของตารางเช่นกัน และรวมไปถึง เยสเปอร์ นีโฮล์ม (ฟิลิปปินส์) ที่เข้ามาขันน๊อตเกมรับ เมืองทอง ให้แข็งแกร่งขึ้น รวมไปถึง อิ๊กห์ซาน ฟานดี้ (สิงคโปร์) ที่อาจจะมาเลกที่สอง แต่เขาก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่จะก้าวไปเป็นศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งของอาเซียน ในอนาคต

   เรียกได้ว่าก่อนหน้านี้โควตาเพื่อนบ้านเรือนเคียงนั้นมีผลต่อฟอร์มการเล่นของหลายๆ ทีมใน ไทยลีก จริงๆ แต่ฤดูกาลปัจจุบัน ดูเหมือนว่าแข้งอาเซียนจะทำผลงานได้ไม่สู้ดีนัก

   ที่ดูโอเคหน่อย เห็นจะมีเพียง ดิออน คูลส์ แนวรับสารพัดประโยชน์ทีมขาติมาเลเซีย ของ บุรีรัมย์ เท่านั้นที่พอจะเข้าเค้าหน่อย ทว่าที่เหลือแทบจะทั้งหมด ยังไม่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้ชัดเจน

   นีโฮล์ม ที่เก่งกาจกับ เมืองทอง ก็เจ็บออดๆ แอดๆ ลงสนามได้นัดนึงก็เสียวแล้วว่าจะหายหน้าไปอีกไหม

   อีร์ฟาน พอไม่ได้คู่ขาที่ดี ก็ออกทะเลเหมือนกัน ขณะที่น้องชาย อิ๊กห์ซาน ดันเจ็บยาว จนทำให้ บีจี ปทุม ผลงานตกต่ำในซีซั่นนี้

   ฟัลเคสการ์ด อาจจะเซฟเยอะก็จริง แต่ก็มีเหวอให้เห็นบ้าง เช่นประตูที่เสียให้ เมืองทอง ในเลกแรก

   อ่อง ตู ที่เคยไฉไล ก็ไปนั่งสำรองที่ ลำพูน 

   ซาฟา ราซิด ซูเปอร์สตาร์มาเลเซีย ที่ถูกคาดหมายว่าจะมาสร้างชื่อใน ไทยลีก ก็วูบวาบแค่บางนัด จนตอนนี้ ราชบุรี ค่อยๆ แผ่วลงอย่างชัดเจน

   ผลพวงจากการที่โควตาอาเซียน เริ่มถดถอยในลีกสามารถสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานที่ขยับขึ้นไปอีกระดับของฟุตบอลไทย แม้ว่าความเข้มข้นในซีซั่น 2022-23 จะเจือจาง แต่มันแสดงให้เห็นถึงช่องว่างระหว่างนักเตะไทย กับเพื่อนบ้านเริ่มห่างออกไปแล้ว

   ข่าวคราวในตลาดซื้อ-ขายระบุว่าฤดูกาลหน้าอาจจะมีซูเปอร์สตาร์เวียดนาม ย้ายมา ไทยลีก - ทีนี้ล่ะ เราจะได้เห็นว่าแข้งดังจากทัพดาวทองดีพอที่จะสอบผ่านหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีเลยสักรายที่สามารถไปต่อในเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น เลือง ซวน ตรวง หรือ ดัง วัน ลัม ที่ต่างก็มาล้มเหลวที่นี่

   2022-23 ถือว่าเป็นฤดูกาลที่เงียบเหงาของแข้งอาเซียนแล้ว เห็นทีว่าซีซั่นหน้า โควตานี้ก็อาจจะค่อยๆ หายไปจากวงการลูกหนังไทย เช่นกัน

ชิกกะด้าว