นับตั้งแต่เปิดปี 2023 เป็นต้นมา มีหลายสโมสรที่ผลงานดร็อปลงไปอย่างน่าใจหาย เช่น ราชบุรี เอฟซี กับ ชลบุรี เอฟซี ที่อันดับค่อยๆ ดิ่งลง แต่ในทางกลับกันก็ยังมีทีมที่สามารถรักษามาตรฐานได้ดีเยี่ยม รวมไปถึงบางทีมที่ค่อยๆ คืนสู่ฟอร์มเก่งอีกครั้ง ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขันอาสาพาคุณไปพบกับทีมฟอร์มแจ่มในช่วงเลกที่สอง!!
[ 1 ] แบงค็อก ยูไนเต็ด
ชนะ 9 - แพ้ 1 - ยิงได้ 23 ประตู - เสียไป 8 ประตู - 27 คะแนน
นับตั้งแต่เปิดปี 2023 เป็นต้นมา แบงค็อก ยูไนเต็ด คือทีมที่มีผลงานยอดเยี่ยมที่สุดใน ไทยลีก กับชัยชนะ 9 นัด และแพ้แค่ 1 เกม ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการเปลี่ยนกุนซือจาก ออเรลิโอ วิดมาร์ เป็น ธชตวัน ศรีปาน
ก่อนปิดเลกแรกในเดือนธันวาคม 2022 พวกเขาอาจจะเกาะกลุ่มหัวตารางก็จริง แต่ผลงานออกจะลุ่มๆ ดอนๆ เพราะนับตั้งแต่เปิดซีซั่นที่ชนะรวด 4 เกม ทว่าที่เหลือคือการหนักไปทางเสมอกับแพ้ จนแทบจะหมดลุ้นแชมป์ไปเลย
กระทั่งการคัมแบ็กของ 'โค้ชแบน' ที่ปลุกแข้งเทพให้ตื่นจากภวังค์ พร้อมกับทะยานรั้งอันดับ 2 ของตารางอย่างเหนียวแน่น กับฟอร์มที่ร้อนแรงและหยุดสถิติ 'ไร้พ่าย' รวมทั้งยังชะลอการคว้าแชมป์ลีกของ บุรีรัมย์ ได้สำเร็จ
สำหรับ 9 เกม ที่พวกเขาคว้าชัยได้นั้น มีแมตช์ยากๆ คือการเอาชนะ ชลบุรี เอฟซี ไป 3-1, ชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1-0 และล่าสุดที่พลิกกลับมาเฉือนปราสาทสายฟ้า 4-3
ส่วนคีย์แมนสำคัญที่ทำให้บียูกระฉูดคือบรรดาแนวรุกต่างชาติ โดยเฉพาะ มะห์มู๊ด ดาฮัดดา และ เฮแบร์ตี้ ที่กดไปคนละ 5 ประตู ในปี 2023 เช่นเดียวกับ วิลเลน โมต้า (3 ประตู) รวมไปถึง วานแดร์ ลุยซ์ (2 ประตู) ที่ต่างก็ผลิตสกอร์กันอย่างต่อเนื่อง
[ 2 ] บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ชนะ 8 - เสมอ 1 - แพ้ 1 - ยิงได้ 25 ประตู - เสียไป 9 ประตู - 25 คะแนน
ว่าที่แชมป์ ไทยลีก 2022-23 คือทีมที่มีผลงานสม่ำเสมอที่สุดในฤดูกาลปัจจุบัน แม้ว่าพวกเขาจะมีสะดุดอยู่บ้าง แต่มันก็เป็นเพียงห้วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น และที่ที่สำคัญคือการที่สะสมแต้มจากเลกแรกมาบานเบอะ มันจึงทำให้คะแนนหนีห่างอันดับ 2 แบบไกลโพ้นตั้งแต่ยังไม่ทันถึงเลกที่สอง
บุรีรัมย์ อาจจะเริ่มต้นไม่ตามเป้า เพราะว่า 5 เกมแรกของซีซั่นนั้นพลาดเสมอติดๆ กัน 2 นัด แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา พวกเขาเดินหน้าคว้าชัยไม่ยั้ง โดยมีเพียง ขอนแก่น ยูไนเต็ด ทีมเดียวที่แชร์แต้มจากปราสาทสายฟ้าได้
เท่านั้นไม่พอ ยังมีช่วงที่ บุรีรัมย์ ร้อนฉ่าสุดๆ กับการเก็บชัยชนะได้ 8 นัดรวด จนทิ้งห่างรองจ่าฝูงที่ผลัดกันระหว่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ ชลบุรี เอฟซี อยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะปิดฉากปี 2022 ด้วยการเป็นแชมป์เลกแรก
อย่างไรก็ตาม พวกเขาเกือบจะเสียสถิติไร้พ่ายตั้งแต่เกมที่บุกไปเสมอกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด 4-4 แต่เกมนั้นต้องชื่นชมหัวใจของนักเตะที่พลิกสถานการณ์จากโดนนำ 4-1 แล้วกลับมาได้สำเร็จ ทว่าท้ายที่สุดก็ต้องพ่ายแพ้ต่อ แบงค็อก 3-4 ในเกมนัดล่าสุด เป็นการชะลอการรับแชมป์ไปโดยปริยาย
แต่ถึงจะเสียสถิติไร้พ่าย ทว่าปัจจุบันปราสาทสายฟ้าก็มีแต้มห่างจากอันดับสองอย่างบียูถึง 9 คะแนน กับเกมที่เหลือเพียง 5 นัด ซึ่งก็คงจะเป็นเรื่องยากมากๆ ที่ถ้วย ไทยลีก 2022-23 จะหลุดจากรั้ว ช้าง อารีน่า
[ 3 ] เมืองทอง ยูไนเต็ด
ชนะ 8 - เสมอ 1 - แพ้ 1 - ยิงได้ 23 ประตู - เสียไป 10 ประตู - 25 คะแนน
ก่อนจบเลกแรก เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังอยู่อันดับ 10 ของตาราง กับผลงานชนะแค่ 3 จาก 15 นัด ที่ลงสนามใน ไทยลีก 2022-23
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา พวกเขาคว้าชัยเป็นว่าเล่น แม้ว่าจะสะดุดตอนต้นปีด้วยการบุกไปแพ้ สุโขทัย เอฟซี 1-2 และพลาดท่าถูก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไล่ตีเสมอ 4-4 ทั้งๆ ที่นำอยู่ 4-1 ก็ตาม
แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมา กิเลนผยองสามารถเก็บ 3 แต้ม ได้ 6 เกม ติดต่อกัน แถมยังเป็นการชนะทีมใหญ่อย่าง ชลบุรี เอฟซี, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และ การท่าเรือ เอฟซี อีกต่างหาก
เหตุผลหลักที่ เมืองทอง คืนฟอร์มได้อย่างเหลือเชื่อนั้นมาจาก 2 ปัจจัยหลัก โดยข้อแรกมาจากการที่บอร์ดบริหารสโมสรยังเชื่อมั่นในแนวทางของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่มีสไตล์และนิยมชมชอบในเกมรุก เพียงแต่ผลงานในช่วงแรกๆ ไม่เป็นใจ ทว่ารูปแบบการเล่นนั้นถือว่าโดดเด่นน่าติดตาม
ข้อที่สองคือการมาของ มิลอส โยซิช โค้ชมากประสบการณ์ชาวเซอร์เบีย ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้างว่าเก่งกาจเรื่องเกมรับ อีกทั้งยังมีแท็กติกที่แยบยล เพราะตั้งแต่เขาเข้ามาเป็นผู้ช่วยของ ยูรอฟสกี้ - กิเลนผยองก็ไปได้สวย โดยทำได้ถึง 4 คลีนชีต จาก 6 เกม หลังสุดที่ลงสนาม
ด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้ บวกกับการที่ไม่ผิดพลาดง่ายๆ เหมือนวันวาน มันจึงทำให้แฟนๆ ของ เมืองทอง ต่างพากันมีความหวังว่าซีซั่นหน้า พวกเขาจะกลับมาทวงบัลลังก์แชมเปี้ยนได้อีกครั้ง หลังว่างเว้นความสำเร็จมายาวนานกว่า 8 ปี
[ 4 ] การท่าเรือ เอฟซี
ชนะ 6 - เสมอ 2 - แพ้ 2 - ยิงได้ 19 ประตู - เสียไป 13 ประตู - 20 คะแนน
จริงๆ แล้ว การท่าเรือ เอฟซี คือสโมสรที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ของทุกๆ ฤดูกาล ด้วยขุมกำลังนักเตะที่แน่นปึ๊กทุกตำแหน่ง พ่วงด้วยการสนับสนุนจาก นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสาวผู้เลอโฉม ที่พร้อมซัพพอร์ตเสมอ รวมไปถึงแฟนๆ ที่เข้ามาให้กำลังใจแบบเต็มสนามทุกนัดที่ แพท สเตเดี้ยม
ทว่าเล่นไปเล่นมา มันเป็นไปในทางกลับกัน สิงห์เจ้าท่ากลายเป็นทีมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ พวกเขาพร้อมจะชนะ, เสมอและแพ้ได้ตลอดเวลา ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นกับสโมสรที่พร้อมสรรพไปด้วยคุณสมบัติของทีมใหญ่
จบเลกแรกของฤดูกาล 2022-23 การท่าเรือ อยู่อันดับ 7 ของตาราง ซึ่งถ้าเป็นสโมสรระดับกลาง คงจะไม่ใช่เรื่องแปลก แต่นี่คือทีมใหญ่ที่มีผู้เล่นชั้นของประเทศอยู่ทุกตำแหน่ง ทว่ากลับกลายเป็นว่าต้องมายืนอยู่ตรงนี้
หลังผลเสมอกับ โปลิศ เทโร เอฟซี 2-2 ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2023 พวกเขาแยกทางกับ แมตต์ ฮอลแลนด์ และหันมาใช้บริการของ 'โค้ชคู่' โชคทวี พรหมรัตน์ กับ สุรพงษ์ คงเทพ แทนที่ ซึ่งนั่นเองที่ทำให้สิงห์เจ้าท่ากลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง
แม้จะแพ้ต่อ ขอนแก่น ยูไนเต็ด และ เมืองทอง ยูไนเต็ด ไป 2 นัด แต่การยัดเยียดความปราชัยให้ แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ รวมทั้งบุกไปพลิกนรกชนะ เชียงราย ยูไนเต็ด 3-2 ทั้งๆ ที่โดนนำก่อน 2-0 ก็ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของกุนซือคู่จาก 'กรุงเทพคริสเตียน คอนเนกชั่น' ที่ช่วยกันพา การท่าเรือ ทะยานรั้งอันดับ 3 ของตารางได้อย่างเหนียวแน่น