หลังจากสถานการณ์ของ "สวาทแคท" นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่มี "โค้ชโจ" ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น รับบทกุนซือใหญ่ สามารถงัดฟอร์มเก่งพาลูกทีมเก็บชัยชนะในลีกได้สามเกมรวด ส่งผลให้มี 27 แต้มจาก 24 นัด ขึ้นมารั้งอยู่อันดับ 10 ของตารางในเวลานี้ และเตรียมกลับมาลงสนามอีกครั้งหลังช่วง ฟีฟ่า เดย์ โดยมีคิวบุกไปเยือน ราชบุรี เอฟซี ในศึกไทยลีก 2022/23 ในวันอาทิตย์ที่ 2 เม.ย 66 ที่จะถึงนี้
ล่าสุด "โค้ชโจ" ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความพร้อมของทีมว่า "ก่อนหน้านี้ทีมเราหยุดพักไป 2-3 วัน และกลับมาซ้อมกันแล้วตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา เราพยายามที่จะพัฒนาทีมต่อและรักษาโมเมนตัมที่ดีไว้ รวมถึงแก้ไขในสิ่งที่เราคิดว่ามันควรจะดีขึ้นในส่วนของสัปดาห์นี้ เพราะว่าสัปดาห์หน้าทีมเราจะต้องกลับมาแข่งแล้ว และเป็นเกมเยือนสองเกมติดต่อกัน ต้องไปเยือน ราชบุรีฯ และ บีจี ปทุมฯ ซึ่งเป็นสองเกมที่ยาก แต่ว่าเราอยากจะรักษาในเรื่องของความมั่นใจที่เรามี เรื่องของบรรยากาศทีม รวมถึงทีมสปิริตหรือวิธีการของเราไว้ จึงพยายามใช้สองสัปดาห์นี้ซ้อมแบบตามปกติ และเน้นในเรื่องที่ต้องพัฒนากันอยู่"
"ส่วนบรรยากาศของทีมตอนนี้ ผมต้องบอกว่าพอผลการแข่งขันเข้าทางเรา และทีมเราชนะติดๆกันมาด้วย ผมว่านักเตะของเรามีความเชื่อมั่นในวิธีการที่เราได้ปรับเปลี่ยนหรือได้ฝึกซ้อมในสิ่งที่ทีมงานได้วางเอาไว้ และพอผลการแข่งขันมันมา ผมว่าความเชื่อมั่นของตัวผู้เล่นที่ได้ลงไป รวมถึงความเชื่อมั่นของวิธีการที่ได้ปรับเปลี่ยนของทีม ผมจึงคิดว่ามันเลยดีขึ้นในเรื่องบรรยากาศของทีมหลังจากที่เราไม่เคยชนะนานมาก ผมเข้าใจว่าพอเราไม่ได้ชนะเป็นเวลานาน บรรยากาศทีมและความมั่นใจของผู้เล่นจะหายไป พอเราสามารถหาจุดเปลี่ยนกลับมาได้ ผมว่าตอนนี้มันดีขึ้น แต่ว่าเราจะทำอย่างไรให้ 6 นัดสุดท้าย เราจะคงเรื่องของบรรยากาศทีมและผลการแข่งขันรวมถึงวิธีการที่ดีไว้"
"จริงๆผู้เล่นที่มาใหม่หลายคนก็เคยร่วมงานกับผม และผู้เล่นเก่าก็ยังมีอยู่ที่รู้วิธีการของผมก็หลายคน แต่ว่าจะสิ่งหนึ่งที่ผมจะบอกตลอดคือ ผมให้เครดิตทีมงานสต๊าฟโค้ชของผมเพราะว่า ผมทำร่วมกับ "โค้ชโจ" ทวีศักดิ์ โมราศิลป์ ที่เขาอยู่มาตั้งแต่แรกกับ เควิน แบล็คเวลล์ เขาจึงรู้บทบาทและรู้ความเป็นมาของผู้เล่นทุกคน เราจึงเลยมาปรึกษากันในการที่จะรู้ว่าใครเป็นอย่างไรและควรที่จะพัฒนาขึ้นได้บ้างในแบบของเราหรือในแบบข้อมูลของผู้เล่นที่ผ่านมา ซึ่งทำให้งานของผมง่ายขึ้น รวมถึงสต๊าฟโค้ชคนอื่นๆที่อยู่กับทีมมานาน ซึ่งตรงนี้สำคัญเพราะพวกเขารู้ว่าปัญหาของทีมที่เกิดขึ้นมันคืออะไร ผมไม่จำเป็นที่จะต้องมาหาปัญหาที่เกิดขึ้นเอง เพราะเราได้คุยกับพวกเขาและพวกเขาได้บอกมา เราจึงมาแก้ไขและผู้เล่นแต่ละคน ใครดีตรงไหนใครด้อยตรงไหน เรามาปรึกษากันและพยายามที่จะพัฒนาร่วมกัน ตรงนี้เป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ผมเข้ามาแล้วการทำงานมันเร็วขึ้นเพราะเรามีฐานของสต๊าฟเก่า พอมีข้อมูลเก่าอยู่แล้วเลยทำให้เห็นปัญหาและแก้ปัญหาได้เร็วจึงทำให้เราแก้ได้ถูกจุด"