แม้ว่า ไทยลีก แมตช์เดย์ ที่ 24 ประจวบ เอฟซี จะต้องพบกับความพ่ายแพ้ต่อ เมืองทอง ยูไนเต็ด 0-1 แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะอับเฉาในเส้นทางข้างหน้า กับการต้องหล่นไปอยู่ในโซนสีแดง เนื่องจาก ลำพูน วอริเออร์ คู่แข่งหนีตกชั้นเก็บ 3 คะแนน ได้จาก หนองบัว พิชญ เอฟซี
ทีมต่อพิฆาตทำได้ดีมากๆ ในนัดพบกิเลนผยอง เพียงแต่อาคันตุกะจากพระนครนั้นกำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด อีกทั้งยังมีความเด็ดขาดมากกว่าในพื้นที่สุดท้าย จึงเป็นฝ่ายได้ชัยไปในบั้นปลาย
แต่กว่าที่ เมืองทอง จะบุกมาคว้า 3 แต้ม จากถิ่น สามอ่าว สเตเดี้ยม ก็ถือว่าเหนื่อยหนักทีเดียว เพราะถูกแท็กติกเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบนของ ดุสิต เฉลิมแสน คอยกดไม่ให้เดินเกมได้สะดวก
จุดเด่นของอดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย แทบไม่ได้เห็นเลยในเกมกับ ประจวบ - วีระเทพ ป้อมพันธุ์ แทบไม่ได้ออกบอลสวยๆ, พิชา อุทรา ต้องคอยวิ่งห้อ เพื่อสร้างสมดุลในแดนกลาง หรือปีทั้งสองข้างทั้ง วิลเลียน พ็อพพ์ และ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ คือทำได้แค่แปะคืนหลังเพื่อสร้างจังหวะเท่านั้น
ปรเมศย์ อาจวิไล ศูนย์หน้าที่กำลังฟอร์มเด่นจึงหายจากเกมไปโดยปริยาย
'โค้ชโอ่ง' ทำการบ้านมาดีมากๆ ในการหยุดเกมรุกกิเลนผยองได้อย่างอยู่หมัด
การวางหมากของ ดุสิต ทำให้ เมืองทอง ต้องอึดอัด และหากเป็นก่อนหน้านี้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ คงจะรีบอัดแนวรุกลงสนามเพื่อหาทางเอาประตูเพื่อเผด็จศึกโดยไว ซึ่งนั่นอาจจะเข้าทาง ประจวบ ในทันที แต่หลังจากที่ได้ มิลอส โยซิช เข้ามาเป็นผู้ช่วย การแก้เกมของกิเลนผยองก็ดูแปลกตาไป
นอกจากการส่ง เอกนิษฐ์ ปัญญา ลงมาแทน ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ เป็นรายแรก แต่อีก 3 คนต่อมาที่เปลี่ยนรวดเดียวต่างก็มีผลกับเกมทั้งนั้น
ในขณะที่กำลังต้องการประตู กลับเลือกที่จะเอา ปรเมศย์ ออก แล้วส่ง ธีระพล เยาะเย้ย ซึ่งเป็นกองกลางอาชีพลงมาแทน โดยมี วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ และ ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ อีกสองรายที่เปลี่ยนมาพร้อมกัน
ประตูชัยก็มาจากการแอสซิสต์และยิงเข้าไปของสองตัวสำรองอย่าง วงศกร กับ เอกนิษฐ์
มันคือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในเกมที่ทาง เมืองทอง มีอาวุธที่เฉียบคมและพลิกแพลงได้มากกว่า จึงนำมาซึ่ง 3 คะแนน
ทว่า ประจวบ เองก็ทำเต็มที่แล้ว จริงๆ รูปเกมของพวกเขาดูดีกว่าผู้มาเยือนเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าฟุตบอลก็แบบนี้แหละ ฝั่งที่เล่นได้ดีกว่าไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้ชนะเสมอไป
อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ในเกมนี้มันดันส่งผลให้ทีมต่อพิฆาตต้องหล่นไปอยู่อันดับ 14 ของตาราง ซึ่งเป็นโซนหล่นสู่ ไทยลีก 2 ในฤดูกาลหน้า เนื่องจาก ลำพูน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมนั้นเอาชนะ หนองบัว พิชญ ได้หวุดหวิด 1-0 จนทำให้แซงหน้า ประจวบ ขึ้นไป
กับเกมในมืออีก 6 นัด ยังไม่ถือว่าเสียหายนัก
โปรแกรมของ ประจวบ ก็ไม่ได้ถือว่าสาหัสสากรรจ์มาก เพราะมีเพียง แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมเดียวเท่านั้นที่เป็นทีมกลุ่มหัวตารางที่ต้องเผชิญ
นอกนั้นยังอยู่ในวิสัยที่สามารถสู้ได้ แต่จะหนักหน่อยกับคู่แข่งที่ต้องการแต้มเพื่อหนีตกชั้นเช่นกัน ไล่ตั้งแต่ หนองบัว พิชญ, ลำปาง เอฟซี และ สุโขทัย เอฟซี แต่ก็ชื่นใจได้หน่อยตรงที่จะเล่นที่ สามอ่าว สเตเดี้ยม ถึง 2 นัด
ที่เหลืออีก 2 นัด กับทั้ง ขอนแก่น ยูไนเต็ด (เยือน) และ ราชบุรี เอฟซี (เยือน) นั้นคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงกับการบุกไปแชร์แต้ม ซึ่งเชื่อว่า 'โค้ชโอ่ง' น่าจะมีแผนการในมืออยู่แล้ว เพื่อพาทีมต่อพิฆาตให้อยู่รอดปลอดภัยใน ไทยลีก
หากว่าพวกเขายังทำได้ดีเหมือนเกมกับ เมืองทอง แต่เพิ่มเติมความเฉียบขาดในพื้นที่สุดท้ายเข้าไปอีกหน่อย รับประกันเลยว่า ประจวบ จะไม่ต้องดิ้นรนแบบนี้แน่
แพ้ในวันนี้ไม่เป็นไร เพราะอย่าลืมว่าคู่แข่งของพวกเขาคือกิเลนผยองที่ฟอร์มกำลังร้อนฉ่า แต่อย่างน้อยกว่าจะได้ชัยจาก สามอ่าว สเตเดี้ยม ก็กระอักไม่น้อยเลยทีเดียว
ยังเหลืออีก 6 นัดให้ต่อสู้กันต่อ อย่าเพิ่งถอดใจกันไปเสียก่อน ประจวบ คือหนึ่งในสโมสรที่มีเสน่ห์เป็นของตัวเอง หากหล่นลงไป มีหวัง ไทยลีก คงจะเหงาหงอยลงไม่น้อยเลย
ประจวบ เอฟซี ยังมีดีกว่าหล่นไปลีกรองจริงๆ
ชิกกะด้าว