บทพิสูจน์สิงห์เจ้าท่า

บทพิสูจน์สิงห์เจ้าท่า
ศึก ไทยลีก 2022-23 นัดตกค้างกลางสัปดาห์นี้มีความหมายหลายสิ่งทีเดียว เพราะมันคือการพบกันของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับ การท่าเรือ เอฟซี สองตัวเต็งแชมป์ของฤดูกาลนี้

ทีมกระต่ายแก้วเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก กับการมีเพียง 4 คะแนน จาก 4 เกม ที่ลงสนาม

ส่วนหนึ่ง เข้าใจได้ว่ามาจากการที่พวกเขาต้องเดินทางไปแข่ง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการเหนื่อยล้าได้

แถมพอกลับมาไทย ก็ดันเจอกับโปรแกรมสุดหินที่ต้องเผชิญหน้ากับ ชลบุรี เอฟซี, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ลำพูน วอร์ริเออร์ส อีกต่างหาก

ผลที่ออกมาคือ ชนะ 1, เสมอ 1 และแพ้อีก 1 

ด้วยเป้าหมาย 'แชมป์' สถานเดียว ทำให้ ณ วินาทีนี้ บีจี ปทุม คงจะกดดันไม่น้อยเลยกับสถานการณ์ในตารางคะแนนปัจจุบัน

ที่สำคัญ เกมตกค้างดันต้องมาเจอกับ การท่าเรือ ที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความเร่าร้อนเกินห้ามใจ

หากไปนับเกมที่ต้องเลื่อนแข่งขันกับ โปลิศ เทโร เอฟซี เนื่องจากฝนตกจนเตะไม่ได้ เวลานี้ สิงห์เจ้าท่ายิงประตูคู่ต่อสู้ไปถึง 9 ลูก จาก 3 เกม ที่ลงสนาม

ถือเป็นตัวเลขที่โหดไม่เบากับการซัดเฉลี่ยนัดละ 3 ประตู 

เม็ดเงินที่ 'มาดามแป้ง' ลงทุนไปกับสิงห์เจ้าท่านับตั้งแต่ซีซั่น 2015 ทำให้ยักษ์หลับแห่งย่านคลองเตย มีสง่าราศีเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี

ทว่าสิ่งที่ได้กลับมาคือถ้วยแชมป์ เอฟเอ คัพ 2019 เพียงใบเดียว

แม้จะเป็นโทรฟี่ที่มีคุณค่ามากก็จริง แต่เมื่อเทียบกับสิ่งทรัพยากรผู้เล่นที่มีของ การท่าเรือ ถือว่า 'น่าผิดหวัง' เหมือนกัน

โดยเฉพาะซีซั่นล่าสุด 2021-22 การจบอันดับ 8 ของตาราง นับเป็น 'ความล้มเหลว' ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น

ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ การท่าเรือ จึงเกิดขึ้นก่อนที่ฤดูกาล 2022-23 จะเริ่มต้น ไล่ตั้งแต่การนำ สกอตต์ คูเปอร์ กุนซือที่รู้จักฟุตบอลไทย เป็นอย่างดีกลับมาคุมทัพ

นักเตะใหม่ ประเภท 'เกาถูกที่คัน' ตบเท้าเข้าสู่รั้ว แพท สเตเดี้ยม กันมากหลาย ไล่ตั้งแต่ แฮมิลตอน โซอาเรส กับ เนเกบา ที่มาเพิ่มความแข็งแกร่งในแดนบน พร้อมด้วยดีลเซอร์ไพรส์อย่าง เบนจามิน เดวิส 

ขณะที่เกมรับ ซึ่งเป็นปัญหามาแสนนานก็ถูกสะสางโดย แอร์ตอน, ฟรานส์ ปูโตรส และ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ 

การท่าเรือ โฉมใหม่จึงดูมีอนาคตสดใสขึ้นทันตา

พวกเขาประเดิมแชมป์แรกในช่วงปรี-ซีซั่นในทัวร์นาเมนต์ 'ล่องใต้ คัพ' ที่แม้จะเป็นเกมอุ่นเครื่อง แต่มันก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้พอสมควร

แต่ยังมีคำถามก่อนเปิดฤดูกาล 2022-23 ว่าสิงห์เจ้าท่าจะท่าดีทีเหลวอีกหรือเปล่า?

ผ่านมา 3 นัด แม้จะมีเสมอกับ ลำพูน ในเกมเปิดสนาม ทว่าที่เหลือ การท่าเรือ จัดหนัก ใส่เต็มพิกัด จนคู่ต่อสู้ต้องร้องขอชีวิต

ทว่าเกมในวันนี้กับ บีจี ปทุม ถือเป็น 'บทพิสูจน์' ของพวกเขาว่า 'พร้อมหรือยัง' ที่จะมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ ไทยลีก กับ บุรีรัมย์ และรวมไปถึงทีมกระต่ายแก้ว

ประโยคหนึ่งของคุณ รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ที่กล่าวกับนักเตะกิเลนผยองเมื่อปี 2009 ก่อนเกมที่ เมืองทอง ยูไนเต็ด จะบุกไปเยือน ชลบุรี เอฟซี ว่า "ถ้าพวกคุณอยากเป็นแชมป์ คุณจะต้องล้มเบอร์หนึ่ง ต้องล้มแชมป์ให้ได้ก่อน"

ห้วงเวลานั้น ฉลามชลคือมหาอำนาจลูกหนังแห่งยุค ด้วยขุมกำลังนักเตะทีมชาติเกือบยกชุด แต่สุดท้ายถูกท้าทายโดยน้องใหม่อย่าง เมืองทอง ที่บุกไปถล่ม 5-2

นับจากนั้นกิเลนผยองก็สถาปนาตัวเองเป็นหนึ่งในยอดทีมแห่งสยามประเทศ

เช่นกันในวันนี้ หากว่า การท่าเรือ ต้องการจะก้าวข้ามสู่การลุ้นแชมป์อย่างเต็มตัว 

พวกเขาจำเป็นจะต้องชนะ บีจี ปทุม ให้ได้ถึงถิ่นเช่นกัน โทษฐานที่ปัจจุบัน เดอะ บลู แมชีน คือหนึ่งในสโมสรที่ลุ้นแชมป์ทุกถ้วยในประเทศ

หากว่าทำสำเร็จ และสามารถรักษามาตรฐานไว้ได้อย่างสม่ำเสมอ รับประกันเลยว่า การท่าเรือ จะไปถึงฝั่งฝันอย่างแน่นอน

และนี่คือ 'บทพิสูจน์สิงห์เจ้าท่า'


ที่มาของภาพ : SIAMSPORT
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport