หลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึกไทยลีก1 ฤดูกาล 2022/23 เลกแรก สำหรับทัพ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แข่ง 15 นัด ชนะ 12 เสมอ 3 ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น รั้งจ่าฝูงของตาราง ทำแต้มห่าง ชลบุรี เอฟซี ที่เป็นรองจ่าฝูงถึง 9 แต้ม
อีกทั้งบอลถ้วยอีกสองใบทั้งช้าง เอฟเอคัพ และ รีโว่ คัพ ยังอยู่ในเส้นทางที่ลุ้นแชมป์ ทำให้ "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ประกาศลั่นพร้อมกวาดถ้วยแชมป์ทั้ง 3 ใบ และยังเผยอีกว่า เลกที่สอง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะน่ากลัวมากกว่าเลกแรก
ด้วยขุมกำลังที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะในเกมรุก ที่หาจุดบกพร่องได้ยาก พร้อมที่จะทะลวงตาข่ายคู่ต่อสู้ตลอดเวลา โดยเลกแรก ซัดไปแล้ว 39 ประตูมากที่สุดในลีก สิ่งที่ยอดทีมจากถิ่นเซราะกราว ยังต้องทำงานหนักคือเรื่องเกมรับ เกมรุกพร้อมที่จะทำประตู ส่วนเกมรับก็พร้อมที่จะเสียประตูเช่นกัน
ช่วงตลาดรอบนักเตะรอบที่สอง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างความสะเทือนในตลาดไทยลีก โดยเสริมทัพ คว้าตัวผู้เล่นใหม่มาสองราย คือ ฮาริส วูชคิช ดาวยิงชาวสโลวีเนีย ในโควต้าต่างชาติ และ ดิออน คูลส์ แนวรับชาว มาเลเซีย-เบลเยียม ในโควต้าอาเซียน อีกทั้งในช่วงพักเบลกไทยลีก ยังส่ง 5 แข้งในทีม ทั้ง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ,ศุภชัย ใจเด็ด ,รัตนากร ใหม่คามิ , นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ ชิติพัทธ์ แทนกลาง บินลัดฟ้าไปชุบตัวเสริมกระดูกที่สโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมจาก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ เป็นเวลา 1 เดือน
โดยหวังใช้ผู้เล่นชุดเดิมและเพิ่มเติมที่เข้ามาใหม่ มาสร้างความแกร่งขึ้นเพื่อต่อยอดและเตรียมตัวลงเล่นในศึกชิงแชมป์สโมสรเอเชีย หรือ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงกลางปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่อยากไปได้ไกลกว่ารอบแบ่งกลุ่ม
เมื่อสโมสรมีแนวทางและเป้าหมายที่ชัดเจน ถึงจะเป็นงานที่ท้าทายและค่อนข้างที่จะยาก แต่เหมือนเป็นบทพิสูจน์ให้กับทีมงานของสโมสร รวมถึงทีมงานโค้ช ว่ามีจะมีคุณภาพพอที่จะทำเป้าหมายได้สำเร็จหรือไม่ แฟนบอล "ปราสาทสายฟ้า" ต้องรอชม
สำหรับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะมีโปรแกรมกลับมาลงสนามในศึกไทยลีก1 ฤดูกาล 2022/23 นัดที่ 16 โดยมีคิวไปบุกไปเยือน "ค้างคาวไฟ" สุโขทัย เอฟซี ที่สนามทะเลหลวง สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ที่ 22 ม.ค. 2566 เวลา 19.00 น.