ช้างศึก ชุดใหญ่ ที่ฟอร์มสุดหรูถล่มเมียนมา 6-0 ในเกมลับแข้งนัดแรก "โค้ชมาโน่" ยืนยันเตรียมโรเตชั่นยกทีมเพื่อทดสอบฟอร์มการเล่นส่งท้ายอุ่นเครื่องปะทะแข้งไต้หวัน ก่อนไปป้องกันแชมป์จ้าวอาเซียน 2022 เกมนี้ยังเป็น "เทสติโมเนียล แมตช์" พร้อมส่ง "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ลงตัวจริงและอยู่ในสนาม 14 นาทีเพื่อเป็นเกียรตินัดอำลา ขณะเดียวกันคาดว่าเกมนี้จะปรับมาใช้ 4-2-3-1 โดย 2 แข้งจอมเก๋าทั้ง สุมัญญา ปุริสาย และสรรวัชญ์ เดชมิตร มีลุ้นได้โชว์ฟอร์มเกมนี้เช่นกันผู้เล่นที่ได้รับโอกาสน้อยกับคนที่ไม่ได้ลงเล่นเกมแรก จะลงสนามเกมนี้ทั้งหมด คู่นี้เตะที่ มธ.รังสิต ช่อง AIS Play รับหน้าที่ยิงสด 2 ทุ่มครึ่งเช่นเดิม
การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่อง "INTERNATIONAL FRIENDLY ‘A’ MATCH" ที่สนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต ประจำวันพุธที่ 14 ธ.ค.65 เวลา 20.30 น. คู่ระหว่าง ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ทีมอันดับ 111 ของโลก ลงสนามดวลกับ ทีมชาติไต้หวัน ทีมอันดับ 157 ของโลก ถ่ายทอดสดทางช่อง AIS Play
ความพร้อมของทัพ "ช้างศึก" ภายใต้การคุมทีมของ "มาโน่ โพลกิ้ง" โดยมี "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ เป็นผู้จัดการทีม เกมอุ่นเครื่องนัดแรกถล่มเอาชนะ เมียนมา 6-0 จากการเหมาสองลูกของ ธีรศิลป์ แดงดา และสารัช อยู่เย็น กับบดินทร์ ผาลา ซัดคนละเม็ด ส่วนอีก 2 ลูกเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง
เกมนี้เฮดโค้ชวัย 46 ปี ยืนยันแล้วว่าจะเปลี่ยนตัวจริงทั้งหมด เพื่อให้นักเตะได้แสดงฝีเท้าออกมาและเป็นการตัดสินใจก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์อาเซียน 2022 และเกมนี้ถือเป็นเกมเกียรติยศนัดอำลา "เทสติโมเนียล แมตช์" ของ "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย ดาวเตะวัย 37 ปี ที่เตรียมลงสนามสั่งลาในนามทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการด้วย
โดย "โค้ชมาโน่" จะส่ง "ลีซอ" เป็นตัวจริงและจะออกจากสนามในนาทีที่ 14 เพื่อรับเสียงปรบมือจากแฟนบอลทุกคน ก่อนจะเข้าสู่การเตรียมทีมด้วยการส่ง ปรเมศย์ อาจวิไล ลงสนามไปแทนที่ ส่วนผู้เล่นรายอื่นๆที่เนตัวสำรองและไม่ได้รับโอกาสในเกมกับเมียนมา พร้อมเป็นตัวเลือกลงสนามในเกมนี้ทุกคน
สำหรับ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามและกลับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ผู้รักษาประตู), เฉลิมศักดิ์ อักขี, กฤษดา กาแมน, จักพัน ไพรสุวรรณ, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, สรรวัชญ เดชมิตร, สุมัญญา ปุริสาย, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, ธีรเทพ วิโนทัย
ขณะที่คู่แข่งไต้หวัน ที่มี "เย่ เซียน-จง" เฮดโค้ชชาวไต้หวันวัย 43 ปี คุมทัพ พร้อมจัดนักเตะชุดที่ดีที่สุดลงสนามเช่นกัน นอกจากนี้ยังวางเป้าเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเกมนี้ให้มากที่สุด เพื่อเรียกรู้จุดอ่อนของทีมนำไปปรับแก้ไขในการเตรียมความตั้งแต่เนิ่นๆ ในการลงเตะรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 ในช่วงเดือน ต.ค.ปีหน้า
ทั้งนี้ ทีมชาติไทย หลังจบเกมดังกล่าวแล้ว จะมีคิวไปลุยศึกเอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022 ระหว่างวันที่ 20 ธ.ค.65-16 ม.ค.66 โดยมีโปรแกรมประกอบด้วย วันที่ 20 ธ.ค.65 พบ บรูไน (เยือน), วันที่ 26 ธ.ค.65 พบ ฟิลิปปินส์ (เหย้า), วันที่ 29 ธ.ค.65 พบ อินโดนีเซีย (เยือน) และวันที่ 2 ม.ค.66 พบ กัมพูชา