ปรเมศย์กับ 'โอกาส' ที่ต้องคว้าให้ได้!?

ปรเมศย์กับ 'โอกาส' ที่ต้องคว้าให้ได้!?
ทีมชาติไทย ประกาศ 24 รายชื่อขุนพลกับภารกิจป้องกันแชมป์ อาเซียน คัพ 2022 โดยหนึ่งในนั้นมี ปรเมศย์ อาจวิไล ศูนย์หน้าจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ยังไม่เคยสัมผัสการลงเล่นให้ทัพช้างศึกชุดใหญ่เลยสักครั้ง

    ก่อนจะก้าวมาถึงจุดนี้ หัวหอกกิเลนผยองถูกมองว่าเป็น 'ความหวังใหม่' ของชาติ กับผลงานในระดับเยาวชนที่โดดเด่นเป็นสง่า กวาดแชมป์ใหญ่ๆ ได้มากมาย โดยที่ตนเองได้รับเลือกให้เป็นทั้ง 'ผู้เล่นยอดเยี่ยม' รวมไปถึง 'ดาวซัลโว' ในหลายๆ รายการ

    ในฟุตบอลนักเรียน ปรเมศย์ คือเบอร์ต้นๆ ที่คู่แข่งต้องครั่นคร้าม ด้วยทักษะอันเอกอุ บวกเข้ากับความเฉียบขาดเกินวัย ทำให้เขาคือดาวโรจน์อนาคตไกลของวงการลูกหนังไทย

    เขาเติบโตมาพร้อมกับพรสวรรค์และความรับผิดชอบที่สูงลิ่ว ตอนเล็กๆ เขาใช่ 'ฟุตบอล' เป็นเครื่องนำทาง โดยเริ่มจากการติดสอยห้อยตามคุณพ่อไปเตะกีฬาลูกกลมๆ อยู่บ่อยๆ จนได้ไปฝึกกับอดีตนักเตะอย่าง ดาวยศ ดารา และ พนิพล เกิดแย้ม ที่ศูนย์เยาวชนของทีม การท่าเรือ เอฟซี

    จุดเปลี่ยนของเขาเกิดขึ้นตอนอายุราว 7 ขวบ ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรดังจากอังกฤษ มาเปิด คลินิก ฟุตบอล ซึ่งตัว ปรเมศย์ ก็มีโอกาสได้เข้าไปร่วมกิจกรรมนั้นด้วย

    เด็กน้อยวัยกระเตาะได้รับคำชมมากมายในเรื่องความหลากหลายในการเล่น แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาสอบตกคือการ 'เดาะบอล'

    แทนที่จะเศร้า ปรเมศย์ ใช้มันเป็นแรงผลักดัน เขาซ้อม, ซ้อม, ซ้อมและซ้อมเดาะบอลจนในที่สุดก็สามารถลบจุดด้อยของตนเองได้สำเร็จ 

    เท่านั้นไม่พอ เขาเดาะบอลได้อย่างชำนาญและเก่งกาจถึงขั้นทำสถิติเดาะ 6,500 ครั้ง ในเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 

    ด้วยสกิลการเดาะบอลที่ยอดเยี่ยม เขาจึงสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย โดยได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 4-5 หมื่น เลยทีเดียว แถมบางครั้งยังค่าตัวทะลุหลักแสนบาทเลยก็มี

    พอเริ่มโตขึ้น ปรเมศย์ ย้ายจากโรงเรียน ปทุมคงคา ไปอยู่กับอะคาเดมี่ของ เมืองทอง ตอนอายุ 15 ขวบ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเขากับกิเลนผยอง

    การได้เข้าสู่สถาบันเยาวชนของ เมืองทอง ทำให้พัฒนาการด้านฝีเท้าของเขารุดหน้าอย่างก้าวกระโดด

    พรสวรรค์ที่ติดตัว มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะเฉิดฉายอย่างรวดเร็ว และในวัย 20 - ปรเมศย์ ก็ถูกดันสู่ทีมชุดใหญ่ของกิเลนผยองแบบเต็มตัว

    เขาใช้เวลาไม่นาน ในฤดูกาล 2018 ก็สามารถทำประตูแรกให้กับ เมืองทอง ได้สำเร็จ ในเกมที่บุกไปชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี 4-2 เมื่อเดือนกันยายน 

    ทุกๆ อย่างกำลังไปได้สวย อายุน้อย, ทักษะเยี่ยม, เพื่อนร่วมทีมดี, ทัศนคติก็บวก อะไรต่อมิอะไรดูเหมือนจะไปได้สวยสำหรับ ปรเมศย์

    แต่แล้วอาการบาดเจ็บหนักในซีซั่น 2019 ก็ทำให้เส้นทางลูกหนังอาชีพของเขาต้องสะดุด

    ผลพวงจากการหายหน้าจากฟลอร์หญ้าทำให้ ปรเมศย์ ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควรเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา

    ฟอร์มการเล่นที่เคยโดดเด่นค่อยๆ จางหาย

    จังหวะจบสกอร์ที่เคยเฉียบคม ก็ไม่เหมือนเดิม

    การเล่นกับเพื่อนร่วมทีมที่เคยไหลลื่น ก็ต้องปรับจูนกันใหม่

    อาการบาดเจ็บครั้งนั้นสั่นคลอด ปรเมศย์ มากทีเดียว

    กระทั่งฤดูกาล 2022-23 นี่แหละที่เขาก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของ เมืองทอง ได้สำเร็จ

    การมีส่วนร่วมกับทีม 13 จาก 15 นัด ในลีกถือเป็นตัวเลขที่ชี้ได้ชัดเจนว่าเขาเป็นตัวเลือกแรกๆ ของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ 

    แม้จะยิงไปเพียง 2 ประตู แต่ประโยชน์ของศูนย์หน้าวัย 24 ปี มีมากมายหลายหลาก และนั่นคงจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ตัดสินใจใส่ชื่อ ปรเมศย์ อยู่ใน 24 ขุนพลชุดป้องกันแชมป์อาเซียน

    แน่ล่ะ หากว่าผู้เล่นจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่วนหนึ่ง ไม่ได้ไปเก็บตัวกับ เลสเตอร์ - ปรเมศย์ ก็อาจจะไม่ได้อยู่ในทัพช้างศึกชุดนี้

    แน่ละ หากว่าผู้เล่นจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด ถูกปล่อยให้ทีมชาติไทย - ปรเมศย์ ก็อาจจะไม่ได้อยู่ในทัพช้างศึกชุดนี้

    แน่ละ หากว่าผู้เล่นจาก บีจี ปทุม หรือ การท่าเรือ เอฟซี ยกโขยงมากันแบบฟูลทีม - ปรเมศย์ ก็อาจจะไม่ได้อยู่ในทัพช้างศึกชุดนี้

    แต่ในเมื่อ 'โอกาส' มาแล้ว ขึ้นอยู่กับ ปรเมศย์ จะคว้า 'โอกาส' ที่ว่านั้นได้หรือเปล่า

    เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อของ เมืองทอง ว่า "มันคือความภูมิใจของตัวผมและครอบครัว เพราะตอนแรกที่ประกาศชื่อ 75 คน ตอนนั้นผมก็ดีใจแล้ว แต่พอติดเป็น 1 ใน 24 ที่จะแข่งขัน อาเซียน คัพ มันก็ดีใจคูณ 2 คูณ 3 เข้าไปอีก คือบรรยายไม่ถูกเหมือนกันว่ารู้สึกอย่างไร"

    "ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ร่วมซ้อมกับพี่ๆ ในทีมชาติชุดใหญ่ ดีใจที่จะได้เล่นกับพี่มุ้ย (ธีรศิลป์ แดงดา) อีกครั้ง เพราะตอนที่แกยังอยู่กับ เมืองทอง ตัวผมได้รับบาดเจ็บ เลยได้เจอกับแกน้อยไปหน่อย"

    "ผมหวังว่าการอยู่ในทีมชุดป้องกันแชมป์อาเซียน จะเป็นประสบการณ์ที่ดี ผมจะพยายามเรียนรู้จากการฝึกซ้อมให้มากที่สุด และสุดท้ายผมจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อประเทศไทย ของทุกคน"

    จากนี้ไปขึ้นอยู่ที่ตัวเขาคนเดียวแล้วล่ะว่าจะใช้โอกาสที่ได้รับมา แล้วแสดงออกมาได้ดีเพียงใด

    หากทำได้ เขาจะก้าวข้ามคำว่าดาวรุ่งและเดินหน้าสู่การเป็นนักเตะคุณภาพคับแก้วแน่นอน

    ทว่าถ้าเป็นไปในทางตรงกันข้าม ก็คงต้องกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่กันอีกหน

    ดังนั้น ปรเมศย์ จึงต้องคว้า 'โอกาส' ในครั้งนี้ให้ได้ เพื่อที่จะยกระดับตนเองให้รุดหน้าสู่การเป็นผู้เล่นชั้นนำของเมืองไทย

ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport