หลังจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จับมือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างช้างศึกรุ่นใหม่ โดยตั้ง ชนน์ชนก ชิดชอบ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเยาวชนของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้ามานั่งตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทย รุ่นอายุ 18 ปี เพื่อหวังเป็น ท็อป 10 ของเอเชีย ในปี 2024 และต่อยอดเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ยู- 20 ในปี 2025
"บิ๊กหนุน" ชนน์ชนก ชิดชอบ เกิดเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ 2538 เป็นบุตรชายคนรอง ของ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกทั้งยังเป็น ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเยาวชนของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาแล้ว 4-5 ปี และมีประสบการณ์ในการดูแลฟุตบอลเยาวชนมาอย่างโชกโชน อีกทั้งยังผ่านการอบรมโค้ชเบื้องต้นในหลักสูตร FA Thailand Introductory Course ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มาแล้วเมื่อปี 2021
โดยแนวคิดการทำงานของ "บิ๊กหนุน" คือ "การทำงานแบบครอบครัว หากทำงานแบบครอบครัวจะทำให้ทุกคนที่ร่วมทำงานด้วยแฮปปี้ รวมทั้งความเป็นมืออาชีพ ความจริงจังและทั้งเรื่องของวินัย ที่จะปรุงแต่งลงไปในชุดของเยาวชน หากทำได้ จะส่งผลได้ดีกับในและนอกสนาม และอีกอย่างคือ พรแสวง เพราะยังไงก็สำคัญกว่าพรสวรรค์ หากมีพรแสวงที่ดี โอกาสก็จะมาหาตัวเราเอง"
สำหรับเป้าหมายที่ "บิ๊กหนุน" ชนน์ชนก ชิดชอบ ได้วางเอาไว้สำหรับการร่วมมือของ ส.บอลไทย ในครั้งนี้คือการพัฒนานักเตะเยาวชนทีมชาติไทย ที่เกิดระหว่าง พ.ศ 2548-2549 และ 2550 หรือที่อายุไม่เกิน 18 ให้ก้าวขึ้นไปสู่ ท็อป 10 ของเอเชีย ในปี 2024 ให้ได้ และจะต่อยอดไปจนถึง ฟุตบอลโลก อายุไม่เกิน 20 ปี ที่จะจัดขึ้นในปี 2025 เพราะ"บิ๊กหนุน" ได้เห็นถึงปัญหาของ เยาวชนไทย ทั้งที่ส่วนมากเยาวชนอายุ 13-14 ปี จะสังเกตุได้ชัดเลยว่า เวลาออกไปแข่ง ทัวร์นาเม้นท์ที่ต่างประเทศก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าทีมชาติอื่น ผลงานนั้นออกมาค่อนข้างดี แต่ทว่าการพัฒนาของเยาวชนเหล่านั้นกลับขาดหายไปเมื่ออายุมากขึ้น ในจุดนี้ "บิ๊กหนุน" จึง มองเน้นถึงความสำคัญ นำความจริงจัง และความมีวินัยของมืออาชีพ เข้ามาบ่มเพาะพัฒนาในทีมชาติไทยชุดนี้"
สำหรับการคัดเลือก จะมีขึ้นในวันที่ 23-25 ธ.ค 65 ที่สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยจะเปิดโอกาสให้กับนักเตะทุกคน ที่มีสังกัดและไม่มีสังกัด รวมถึงนักเตะของโรงเรียนกีฬา หรือโรงเรียนอะไรก็ตาม รวมถึงเด็กที่ไม่มีโปร์ไฟล์ จะไม่มีการปิดกั้นโอกาส โดยสามารถเข้ามาคัดเลือกได้เช่นกัน"
"หลังจากนี้ แนวทางการสร้างนักเตะทีมชาติไทยในชุดเยาวชน จะมีรูปแบบ และแบบแผนมากขึ้น เราต้องมาคอยดูว่า นักเตะที่ได้รับการคัดเลือกเข้าไป จะมีการพัฒนาแบบเป็นรูปเป็นร่างมากขนาดไหน และต่อยอดไปถึง อนาคตที่ดีได้หรือไม่"