6 ข้อ! รู้จัก 'ศรีลังกา' คู่แข่งที่ทีมชาติไทยต้องชนะสถานเดียว

6 ข้อ! รู้จัก 'ศรีลังกา' คู่แข่งที่ทีมชาติไทยต้องชนะสถานเดียว
ทีมชาติไทย มีคิวลงเล่น เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดแรก ในวันอังคารที่ 25 มีนาคม 2025 โดยคู่แข่งคือ ศรีลังกา ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอแนะนำคุณผู้อ่านให้รู้จักกับพวกเขาเพิ่มมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในอดีต, ผลงานในปี 2025, เฮดโค้ช, ผู้เล่นชุดปัจจุบัน, นักเตะเด่นและนักเตะน่าจับตามอง

ทีมชาติไทย พบ ศรีลังกา วันอังคารที่ 25 มีนาคม 2025 เวลา 19:30 น. ณ ราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี (ช่อง 32), Youtube BG SPORTS และ True Visions NOW ช่อง Truesports2

[ 1 ] ความสำเร็จในอดีต

จริงๆ แล้วศรีลังกา น่าจะมีพัฒนาการในกีฬาลูกหนังไปไกล เนื่องจากในอดีตเคยเป็นเมืองอาณานิคมของอังกฤษ แต่ด้วยความที่ปลดแอกและเป็นอิสรภาพในปี 1948 วัฒนธรรม รวมไปถึงความสนใจในฟุตบอลจึงค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ

ความสำเร็จเดียวของพวกเขาคือแชมป์ เอเชียใต้ (SAFF Championship) เมื่อปี 1995 เพียงทัวร์นาเมนต์เดียว นอกนั้นคือร่วงตั้งแต่รอบแรกเป็นประจำ

มันจึงไม่แปลกที่ ฟีฟ่า แรงกิ้ง ณ ปัจจุบันศรีลังกา จะรั้งอันดับ 200 ของโลก โดยอยู่อันดับที่ 45 จาก 46 ชาติในเอเชีย ซึ่งอยู่ต่ำกว่า ติมอร์-เลสเต บ๊วยของอาเซียน เสียอีก

[ 2 ] ผลงานในปี 2025

ในปี 2025 ศรีลังกา เพิ่งลงเล่นในช่วง ฟีฟ่า เดย์ มีนาคม โดยฟอร์มแจ่มจรัสกับการบุกไปเชือด สปป.ลาว ได้ 2-1 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 22 ปี ที่พวกเขามีชัยเหนือทัพล้านช้างได้สำเร็จ

นอกจากนี้ยังเป็นการชนะหนแรกในรอบ 1 ปี ในเกม 90 นาทีของพวกเขาอีกด้วย 

เท่านั้นไม่พอ ตลอดทั้งปี 2024 ทีมกองทัพทอง (ฉายาศรีลังกา) ลงเล่นไปทั้งหมด 8 เกม ปรากฏว่าแพ้ 3, เสมอ 4 และมีชัยเพียงเกมเดียวคือช่วงมีนาคมกับการชนะภูฏาน นั่นเอง

ที่น่าสนใจคือคู่แข่งที่พวกเขาแพ้ทั้ง 3 เกมในปี 2024 นั้นคือทีมจากอาเซียน ทั้งหมด โดยเป็นการพ่ายบรูไน (2 นัด) และเมียนมาร์ อีกหนึ่งแมตช์

[ 3 ] เฮดโค้ช

อับดุลเลาะห์ อัล มูไตรี่ กุนซือชาวคูเวต ผู้มาพร้อมดีกรี เอเอฟซี โปร ไลเซ่นส์ แถมยังประสบการณ์โชกโชนในการคุมทีมชาติ เพราะเคยกุมบังเหียนคีร์กีซสถาน ยู-17, เนปาล และอัฟกานิสถาน มาแล้ว

โดยก่อนที่จะจรดปากกาเซ็นสัญญากับศรีลังกา เมื่อปลายปี 2024 เขาเป็นเฮดโค้ชของ อัล-จาห์ร่า สโมสรในลีกสูงสุดของบ้านเกิดนั่นเอง

สไตล์การทำทีมของ อัล มูไตรี่ คือเน้นบอลเท้าต่อเท้า และแม้จะแรงกิ้งจะอยู่ท้ายๆ ของโลก ทว่าเขาก็พร้อมจะบุกใส่คู่แข่งที่เหนือกว่าแบบไม่เกรงกลัว ซึ่งนั่นเป็นที่มาของชัยชนะเหนือ สปป.ลาว นั่นเอง

[ 4 ] ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

นักเตะศรีลังกา ชุด ฟีฟ่า เดย์ มีนาคม 2025 นั้นเรียกแข้งที่เล่นนอกประเทศติดทีมมามากถึง 17 จาก 23 คน โดย 6 ราย ที่เล่นในลีกยุโรป และอีก 6 นั้นโลดแล่นที่ออสเตรเลีย

ที่น่าสนใจคือการที่ทีมกองทัพทองมีนักเตะลูกครึ่งมากมาย ซึ่งส่วนมากจะเป็นเชื้อสายอังกฤษ กับ ออสเตรเลีย นั่นแหละ ไล่ตั้งแต่ แซม เดอร์แรนต์ (อังกฤษ), แจ็ค ฮินเกิร์ต (อังกฤษ), แกร์เร็ตต์ เคลลี่ (อังกฤษ), เวด เด็คเคอร์ (ออสเตรเลีย), วิลเลียม โธมาสัน (ออสเตรเลีย), โอลิเวอร์ เคลาร์ต (ออสเตรเลีย), เคลาดิโอ กัมเมิร์คเน็ตชต์ (เยอรมัน), ลีออ เปเรร่า (เยอรมัน), อาห์เหม็ด วาซีม ราซีค (เยอรมัน)

แต่ในรายของ เจสัน ธายาปาราน นั้นมีคุณพ่อเป็นชาวศรีลังกา ส่วนคุณแม่เป็นชาวกรีซ แต่ไปเติบและโตที่เยอรมัน จนได้สัญชาติที่นั่น

ขณะที่ อนุจัน ราเจนดรัม กับ อัดหะวัน ราจาโมหัน นั้นมีครอบครัวเป็นชาวศรีลังกา แท้ๆ แต่เกิดที่นอร์เวย์ และสวีเดน ตามลำดับ

[ 5 ] นักเตะเด่น

เคลาดิโอ กัมเมิร์คเน็ตชต์ เซนเตอร์ฮาล์ฟวัย 25 ปี ที่เล่นใน ลีกา 3 เยอรมัน คือผู้เล่นที่มีมูลค่ามากที่สุดของศรีลังกา ชุด ฟีฟ่า เดย์ มีนาคม 2025 ด้วยตัวเลข 400,000 ยูโร (ประมาณ 15 ล้านบาท) จากการประเมินของ ทรานส์เฟอร์มาร์เคที (www.transfermarkt) เว็บไซต์ระดับโลก ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่อยู่ในระดับเดียวกับ ปฏิวัติ คำไหม, ปรเมศย์ อาจวิไล, โจนาธาร เข็มดี และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ของทีมชาติไทย

สำหรับปราการหลังรายนี้เป็นลูกครึ่งเยอรมัน ที่มาพร้อมส่วนสูง 1.87 เมตร เคยเป็นเยาวชนของ ไฟร์บวร์ก สโมสรดังใน บุนเดสลีกา แต่ไม่สามารถสอดแทรกสู่ทีมชุดใหญ่ได้ ก่อนจะย้ายสู่ ดีนาโม เดรสเดน เมื่อฤดูกาล 2022-23 ที่ผ่านมา

กัมเมิร์คเน็ตชต์ เพิ่งถูกเรียกเข้ามาเป็นสมาชิกทีมชาติศรีลังกา ในปี 2024 และก็ปักหลักเป็นผู้บัญชาการในแผงหลังตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

[ 6 ] นักเตะน่าจับตามอง

เวด เด็คเคอร์ แนวรุกลูกครึ่งออสเตรเลีย เพิ่งถูกเรียกติดทีมชาติศรีลังกา เมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา ก่อนจะกลายเป็นตัวหลักของทีมกองทัพทองในทันทีด้วยสไตล์การเล่นอันจี๊ดจ๊าดและจัดจ้าน

หมอนี่เล่นได้ทุกตำแหน่งของแดนบน แต่ในระดับสโมสรที่อยู่กับ แด็นเดน็อง ธันเดอร์ ทีมจากลีกรองของออสเตรเลีย เขามักจะอยู่ทางกราบขวา เพราะหาตำแหน่งดีและมักจะสอดเข้าไปทำประตูได้บ่อยครั้ง

ส่วนในอดีต เด็คเคอร์ เคยเป็นนักเตะจากสถาบันเยาวชน เมลเบิร์น ซิตี้ ซึ่งเป็นทีมในเครือของ ซิตี้ ฟุตบอล กรุ๊ป (เช่นเดียวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, อังกฤษ) นั่นเอง ดังนั้นเรื่องของคุณภาพฝีเท้าจึงการันตีได้เลยว่าของจริงแน่นอน

ที่มาของภาพ : Gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport