"ก้องศักด" มั่นใจแข้งช้างศึกดาวรุ่งพร้อมล่าทองศึกฟุตบอลซีเกมส์

"ก้องศักด" มั่นใจแข้งช้างศึกดาวรุ่งพร้อมล่าทองศึกฟุตบอลซีเกมส์
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท.มั่นใจแข้งช้างศึกไทยที่แม้จะเป็นกลุ่มดาวรุ่งหน้าใหม่ มีศักยภาพดีพอจะคว้าเหรียญทองฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2025 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ

 ความเคลื่อนไหวการแข่งขันฟุตบอลในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค.นี้ โดยจัดแข่งครบทั้ง 4 ประเภท ได้แก่ ฟุตบอลชาย, ฟุตบอลหญิง, ฟุตซอลชาย และฟุตซอลหญิง โดยในส่วนของฟุตบอลชายนั้น ทีมชาติไทยประสบความสำเร็จได้เหรียญทองครั้งสุดท้าย คือกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2017 หรือ 8 ปีที่แล้ว ซึ่งผลงานที่ดีที่สุดหลังจากนั้นคือการเข้าชิงชนะเลิศใน 2 ครั้งล่าสุด ในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม รอบชิงชนะเลิศ แพ้ในช่วงต่อเวลาพิเศษให้เวียดนาม 0-1 และในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา แพ้ในช่วงต่อเวลาพิเศษให้กับอินโดนีเซีย 2-5

 เกี่ยวกับการเตรียมพร้อมจัดการแข่งขันฟุตบอลในซีเกมส์นั้น  ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มากเท่าไหร่นัก แต่เท่าที่ทราบคือครั้งนั้นเราเน้นใช้นักเตะดาวรุ่งอยู่แล้ว ซึ่งตนก็เชื่อมั่นว่านักเตะไทยหลายคนมีศักยภาพและอายุยังน้อยๆอยู่ เชื่อว่ามีโอกาสจะคว้าเหรียญทองได้ 

 ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าในเรื่องของการจัดการแข่งขัน จะเปลี่ยนระบบจากเดิมที่แบ่ง 2 กลุ่ม กลุ่มละ 5-6 ทีม เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 ทีม เพื่อลดโปรแกรมของนักเตะและรักษาสภาพร่างกายหรือไม่นั้น ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ทางกกท.ในฐานะฝ่ายเทคนิคได้มอบให้กับทางสมาคมกีฬาเป็นคนพิจารณาวางแผนในการจัดการแข่งขันต่างๆ อยากแข่งขันแบบใด จะให้ทีมชาติไทยเดินทางน้อยๆ ก็เปิดโอกาสให้สมาคมฯ ได้จัดการอย่างเต็มที่ 

 "ไม่ใช่แค่สมาคมฟุตบอลฯ แต่ตอนนี้ทุกสมาคมมีสิทธิในการวางแผนจัดการแข่งขันเต็มที่ หลังจากมีการวางอีเวนต์ที่จะใช้แข่งขันไว้หมดแล้ว สามารถวางแผนการจัดการแข่งขันเพื่อให้นักกีฬาไทยมีความพร้อมมากที่สุด เพื่อมีโอกาสได้รับชัยชนะได้ทั้งหมด"

 ดร.ก้องศักด กล่าวปิดท้ายว่า ในส่วนของสนามแข่งขันนั้น มีคุยๆ กันบ้าง แม้ว่าในรอบแรกจะมีแผนกระจายออกไปแข่งในจังหวัดอื่นๆ แต่ทางสมาคมฯ มีร้องขอเอาไว้ว่าในรอบท้ายๆ จะขอกลับมาเล่นที่ราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งกกท.ก็มีหน้าที่ในการเตรียมสนามแข่งขันเอาไว้ให้พร้อมเท่านั้น

 ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดระบบการแข่งขันฟุตบอลชายนั้น ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะต้องรอข้อมูลจากคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ถึงจำนวนทีมที่เข้าแข่งขันก่อน จึงจะสามารถทำแผนเสนอระบบการจัดการแข่งขันได้ว่าจะใช้รูปแบบใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องขึ้นอยู่กับงบประมาณในการจัดการแข่งขันด้วย อย่างไรก็ตามจากการประชุมสภากรรมการ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ล่าสุดเมื่อต้นเดือนมกราคม มีมติยืนยันว่าจะสำหรับฟุตบอลชาย จะใช้นักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี โดยไม่มีโควตาอายุเกินแต่อย่างใด


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport