ทีมชาติไทย เตรียมลงสนามเผชิญหน้า เวียดนาม กับนัดชิงชนะเลิศ อาเซียน คัพ 2024 ในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า ณ เวียต ตรี สเตเดี้ยม สนามเหย้าของทัพดสวทอง และนี่คือ 5 สิ่งที่ทัพ "ช้างศึก" เตรียมต้องเจอ เพราะว่าทัพดาวทองชุดนี้ปรารถนาเหลือเกินที่จะกลับมาครองความยิ่งใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้อีกครั้ง!!
โปรแกรมอาเซียน คัพ 2024 รอบชิงชนะเลิศ เวียดนาม พบ ทีมชาติไทย วันพฤหัสบดีที่ท 2 มกราคม 2025 เวลา 20.00 น. ณ เวียต ตรี สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี (ช่อง 32), AIS PLAY, Youtube BG SPORTS , Facebook นกพลัส และ True sports 2 (ช่อง 667)
[ 1 ] ความเก่งกาจของ เหงียน ซวน ซอน
ณ วินาทีนี้ ไม่มีแฟนฟุตบอลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนใด ไม่รู้จะ เหงียน ซวน ซอน หรือ 'ราฟาเอลซอน' หัวหอกชาวบราซิล ที่โอนสัญชาติมาเล่นให้เวียดนาม ใน อาเซียน คัพ 2024 เป็นทัวร์นาเมนต์แรก
แค่นัดเปิดตัว พี่แกก็พาทัพดาวทองถล่มเมียนมาร์ ไปเละเทะ 5-0 โดยที่ตนเองยิงไป 2 และแอสซิสต์อีก 2
จากนั้นรอบรองชนะเลิศก็รัวกระสุนไม่หยุด จนสถิติการถล่มตาข่ายแซงไปเป็นผู้นำดาวซัลโวของรายการนี้ด้วยจำนวน 5 ประตู
แข็งแกร่ง, ว่องไว, ครองบอลเหนียวแน่น, ไหวพริบดี, ฉลาดเป็นกรด, ลูกกลางอากาศก็ไว้ใจได้, รู้จังหวะในการระหว่างเกมและที่สำคัญคือง้างไกเมื่อใด ได้เรื่องเมื่อนั้น นี่คือคุณสมบัติของศูนย์หน้าวัย 27 ปี
เขาอาจจะยังใหม่สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน แต่พะยี่ห้อบราซิล แถมยังการันตีด้วยรางวัล 'ดาวซัลโว' วี ลีก 2 ฤดูกาลติดต่อกันนั้นย่อมบ่งบอกถึงความอันตรายของหมอนี่ได้เป็นอย่างดี
แนวรับ ทีมชาติไทย ไม่ว่าจะมิดฟิลด์ตัวสุดท้าย, ฟูลแบ็กหรือคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ จะต้องระมัดระวังอย่าปล่อยพื้นที่ให้ เหงียน ซวน ซอน ได้เล่นกับบอลง่ายๆ เพราะถ้าเขามีส่วนร่วมกับเกมมากเท่าไหร่ โอกาสที่เวียดนาม จะกลับมาผงาดสู่ความเป็นหนึ่งก็จะมีสูงตามไปด้วยนั่นเอง
[ 2 ] ความคล่องแคล่วของ เหงียน กวง ไฮ และ บุ๋ย วี ห่าว
อาเซียน คัพ 2024 เวียดนาม มีสถิติส่งบอลสู่ก้นตาข่ายเป็นรอง ทีมชาติไทย เพียงชาติเดียวเท่านั้น โดยพวกเขายิงไปแล้ว 16 ประตู ตลอดทั้ง 6 เกมของทัวร์นาเมนต์ ซึ่งเฉลี่ยเกมละ 4 ลูก เลยทีเดียว
เกินกว่าครึ่งหนังมาจากความเฉียบขาดของ เหงียน เทียน ลินห์ และ เหงียน ซวน ซอน (ราฟาเอลซอน) สองกองหน้าที่ซัดรวมกันไป 9 ประตู
อย่างไรก็ตาม นอกจากหัวหอกจะคมกริบ ทัพดาวทองก็ยังมีกำลังสนับสนุนที่ทรงพลังเอามากๆ โดยเฉพาะ เหงียน กวง ไฮ และ บุ๋ย วี ห่าว แนวรุกที่จัดจ้านเหลือร้าย
เหงียน กวง ไฮ คือซูเปอร์สตาร์เบอร์หนึ่งของประเทศ ความเก่งกาจของหมอนี่เป็นที่ประจักษ์ต่อแฟนฟุตบอลชาวไทย เป็นอย่างดี เนื่องจากโด่งดังมาตั้งแต่ยังเป็นดาวรุ่ง แถมเคยไปเล่นในลีกฝรั่งเศส มาแล้ว แม้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่สำหรับเวทีอาเซียน ทุกคนต่างก็ยอมรับว่าจอมทัพวัย 27 ปี คือผู้เล่นที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ทุกวินาที
ขณะเดียวกัน บุ๋ย วี ห่าว เป็นดาวเตะแห่งอนาคต เขาคือเพชรที่รอการเจียระไน ลีลาการเล่นพลิ้วไหวไปพร้อมเทคนิคอันแพรวพราวจนได้ถูกผู้คนในประเทศยกให้เป็น 'ชนาธิป แห่งเวียดนาม' เนื่องจากมีสไตล์คล้ายคลึงเพลย์เมเกอร์ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
ทั้งคู่คือคีย์แมนในเกมรุกของทัพดาวทอง เพราะบอลของพวกเขาจะขึ้นทางสองคนนี้เป็นหลัก โดยมีเป้าหมายคือ เหงียน ซวน ซอน ที่รับหน้าที่ปิดสกอร์
หากว่าแนวรับ ทีมชาติไทย ไม่สามารถหยุดการลำเลียงบอลจาก เหงียน กวง ไฮ และ บุ๋ย วี ห่าว ได้สำเร็จ โอกาสที่จะตกเป็นฝ่ายลำบากซะเองก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
[ 3 ] เตะติดดาบ
แม้ว่าความหนักหน่วงของเวียดนาม ยุคปัจจุบันจะลดลงกว่าสมัยที่มี พัก ฮัง-ซอ เป็นกุนซือ ทว่าพวกเขาก็ยังไม่ทิ้งลายการเล่นที่ดุดันเหมือนวันวาน
อาจจะจริงที่ อาเซียน คัพ 2024 ทัพดาวทองครองสถิติเรื่องการทำฟาวล์น้อยกว่าทั้งสิงคโปร์ (74) และ ฟิลิปปินส์ (70) แถมยังได้รับไปเพียง 7 ใบเหลือง มากที่สุดเป็นอันดับ 5 จาก 10 ประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เหลือเชื่อมากๆ ผิดกลับยุคก่อนที่โดนผู้ตัดสินจดชื่อเป็นว่าเล่น
อย่างไรก็ตาม การเผชิญหน้ากับทีมชาติไทย ไม่มีหนใดที่ไม่ดุเดือด เพราะนี่คือศึกแห่งศักดิ์ศรี แถมมีถ้วยแชมป์ที่พวกเขาปรารถนารออยู่อีกต่างหาก ดังนั้นความพลุ่งพล่านทางด้านอารมณ์ร่วมในเกมของบรรดานักเตะเวียดนาม จะพวยพุ่งถึงขีดสุดแน่นอน
โชคดีที่ เค ง็อก ไฮ กองหลังขาโหดไม่อยู่ในทีมชุดนี้ มิเช่นนั้นหมอนี่นี่แหละจะเป็นเชื้อเพลิงที่นำคนอื่นๆ ให้ปะทุไปด้วย
แต่ถึงอย่างนั้น เชื่อได้เลยว่าแข้งช้างศึกเตรียมตัวโดนการยั่วยวนและการเตะติดดาบได้เลย เพราะเวียดนาม หมายมั่นปั้นมือมากๆ ที่จะทวงบัลลังก์เบอร์หนึ่งของอาเซียน ดังนั้นพวกเขาจึงพร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งโทรฟี่อันทรงเกียรติอีกครั้ง
[ 4 ] เกมรับอันแข็งแกร่ง
นอกจากเกมรุกของเวียดนาม จะเก่งกาจและเฉียบขาดเป็นเบอร์ต้นๆ ของทัวร์นาเมนต์ อีกสิ่งหนึ่งที่พวกเขาทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ คือ 'เกมรับ' ที่เสียประตูน้อยที่สุดใน อาเซียน คัพ 2024
6 เกม ทัพดาวทองโดนเจาะตาข่ายไปเพียง 3 ครั้ง โดยหนึ่งในนั้นคือมาจากลูกจุดโทษอีกต่างหาก
เหงียน ดินห์ ตรือ และ ฟิลิป เหงียน สองผู้รักษาประตูที่สลับกันลงเล่น ทำคลีนชีตไปทั้งหมด 3 เกม ซึ่งก็เป็นตัวเลขที่มากที่สุดของทัวร์นาเมนต์เช่นกัน
นอกจากปราการด่านสุดท้ายจะเซฟช่วยทีมได้หลายจังหวะ บรรดาแนวรับที่ใช้ระบบกองหลัง 3 คน อย่าง บุ๋ย เทียน ดุง, เหงียน เธียนห์ ชุง และ โด ดุย มาน ก็สอดประสานกันอย่างลงตัว โดยมี ฟาม ซวน มันห์ กับ เหงียน ธันห์ บินห์ คอยสแตนด์บาย
ส่วนแดนกลาง โดน ง็อก ตัน ที่อาจจะไม่หวือหวา แต่หมอนี่เป็นจิ๊กซอว์ที่คอยชะลอเกมรุกฝั่งตรงข้าม โดยมี เหงียน ฮง ดึ๊ก อีกหนึ่งแข้งที่ผ่านเวทีนานาชาติมาคอยช่วยกำกับ มันจึงทำให้แผงมิดฟิลด์มีความสมดุลเอามากๆ
เท่านั้นไม่พอ เวลาเล่นเกมรับ บรรดานักเตะที่อยู่ข้างบนก็จะลงมาช่วยเพื่อนอยู่เสมอ หรือจะเพรสซิ่ง พวกเขาก็จะปรี่เข้าไปรุมทึ้งเพื่อเอาบอลให้ได้ ซึ่งก็ทำสำเร็จในหลายๆ ครั้งเสียด้วย
เมื่อองค์ประกอบทุกอย่างลงตัว บวกกับแท็กติกที่ คิม ซัง-ซิก วางไว้สัมฤทธิผล ผลการแข่งขันที่เวียดนาม ต้องการก็จะตามมา โดยมี 'เกมรับ' เป็นจุดตั้งต้นแห่งแรกนั่นเอง
[ 5 ] แท็กติกที่ยืดหยุ่นของ คิม ซัง-ซิก
นับตั้งแต่หมดยุคของ พัก ฮัง-ซอ ผลงานของเวียดนาม ตกต่ำลงไปอย่างชัดเจน แม้จะใช้บริการ ฟิลิปป์ ทรุสซิเยร์ ผู้โชกโชนประสบการณ์แบบเข้มคลั่ก แต่กุนซือชาวฝรั่งเศส ก็ไม่สามารถสานงานต่อจากเฮดโค้ชเกาหลีใต้ ได้ดีเท่าที่ควร
กระทั่งการมาของ คิม ซัง-ซิก เทรนเนอร์ชาติเดียวกันกับ 'อาจารย์ ฮัง-ซอ' ที่แสงสว่างค่อยๆ เผยออกมาทีละนิด
ช่วงแรกของการเริ่มทำงาน เขาอาจจะยังไม่สามารถช่วยให้ทีมดาวทองดีขึ้นทันตาเห็น แถมการแข่งขันก็ยังดูย่ำแย่ เพราะว่า 5 นัดแรกในการคุมทัพนั้นชนะเพียงแมตช์เดียว โดยเป็นความพ่ายแพ้ถึง 3 เกม
อย่างไรก็ตาม พอมีเวลาได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ภายในเวียดนาม คิม ซัง-ซิก ก็เริ่มฉายแสงขึ้นเรื่อยๆ
อาเซียน คัพ 2024 คือตัวอย่างชั้นดีกับการเป็นชาติเดียวที่ยังไม่แพ้ใครเลย ทั้งยังกำชัยไป 5 จาก 6 เกมอีกด้วย ซึ่งเป็นสถิติที่ดีกว่าไทย เสียด้วยซ้ำ
สไตล์การทำทีมของ คิม ซัง-ซิก ก็ไม่แตกต่างจาก พัก ฮัง-ซอ เท่าใดนัก คือเน้นในเรื่องของระเบียบวินัยและใช้ความเข้าฟิตเป็นหลัก ดังจะเห็นได้จากการวิ่งเพรสซิ่งแบบไม่มีหยุดตลอด 90 นาที ในสนาม
ทว่าสิ่งที่ดูจะเพิ่มมิติเข้ามาคือเรื่องของความยืดหยุ่นในแง่ของแท็กติกที่มีรูปแบบหลากหลายมากขึ้น ด้วยความที่เป็นโค้ชรุ่นใหม่ ดังนั้นเขาจึงปรับแก้เกมตามสถานการณ์ได้ดีเอามากๆ
ฝั่งไทย - มาซาทาดะ อิชิอิ ก็ปราดเปรื่องในเรื่องกลยุทธ์ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นวิธีการพลิกกลับมาเอาชนะให้เห็นแล้วทั้งนัดที่เจอสิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ แต่ทางเวียดนาม ก็มี คิม ซัง-ซิก กุนซือหนุ่มที่พร้อมจะท้าทายความสามารถ
นัดชิงชนะเลิศ อาเซียน คัพ 2024 นอกจากจะเป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีของสองยอดทีมแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถมยังเป็นการวัดฝีมือกันระหว่างเทรนเนอร์จากเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ห้ำหั่นกันมาอย่างยาวนานอีกด้วย