เหงียน ซวน ซอน คีย์แมนเวียดนามทวงบัลลังก์อาเซียน

แน่นอนว่าการที่ทัพดาวทองได้ผู้เล่นฝีเท้าดีเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ย่อมทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม เพราะนี่คือนักเตะประเภท 'ของจริง' ที่ใช้โอกาสในสนามเพียงน้อยนิด แปรเปลี่ยนให้เป็นสกอร์ได้ทันที

รางวัล 'ดาวซัลโว' วี ลีก 2 ฤดูกาลติดต่อกัน (2023 และ 2023-24) การันตีถึงคุณภาพความเฉียบขาด ทั้งยังพา นัม ดินห์ กลับมาคว้าแชมป์ได้เป็นหนแรกในรอบกว่า 39 ปี อีกด้วย

เท่านั้นไม่พอ ในฤดูกาล 2023-24 ที่พี่แกคว้ารองเท้าทองคำ ซีซั่นนั้นกระหน่ำไปถึง 31 ประตู กลายเป็นตัวเลขประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยมีแข้งคนใดเคยทำได้มาก่อนบนแผ่นดินเหงียน

ด้วยศักยภาพระดับนี้ จึงไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเวียดนาม จึงพยายามผลักดันให้ ราฟาเอลซอน มาเล่นทีมชาติให้จงได้ ซึ่งในที่สุดก็สำเร็จสักที

ก่อนหน้านี้พวกเขาเองก็มีความอนุรักษ์นิยมพอสมควรทีเดียว แม้จะมีผู้เล่นอย่าง  ฟาบิโอ ดอส ซานโตส, เคสลี่ย์ อัลเวส, แซมซัน คาโยเด้ (เคยมาเล่นให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2018), แกสตัน เมโล่ และอีกหลายๆ ราย แต่ถึงอย่างนั้น พอถึงทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ ปรากฏว่าบรรดาชื่อเหล่านี้กลับไม่ถูกเรียกตัวติดทีมเลย

ส่วนใหญ่จะเป็นแข้งแอฟริกา หรือไม่ก็บราซิล เป็นหลัก

กระทั่ง ราฟาเอลซอน นี่แหละที่ทลายกำแพงนี้ลงสักทีกับการมีชื่อเป็นหนึ่งในขุนพลชุดทวงบัลลังก์ อาเซียน คัพ 

ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาอาจจะมาร่วมทัพช้ากว่าใครเพื่อน เนื่องจากติดภารกิจกับต้นสังกัดอย่าง นัม ดินห์ ที่ต้องเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 แถมตามกฎของ ฟีฟ่า นักเตะที่โอนสัญชาติได้ จะต้องอยู่ในประเทศที่โอนสัญชาติอย่างน้อย 5 ปี ซึ่งเขาจะอยู่ครบตามเกณฑ์ในวันที่ 20 ธันวาคม จึงไม่พร้อมลงเล่นใน 3 นัดแรกของรายการ

ทว่าพอได้ลงสนามพี่แกก็เฉิดฉายทันทีกับการทำ 2 ประตู และ 2 แอสซิสต์ พาเวียดนาม ปูพรมถล่มเมียนมาร์ เละเทะ 5-0

แข็งแรง, ว่องไว, ครองบอลเหนียว, ไหวพริบดี, ฉลาดเป็นกรด, ลูกหัวได้เรื่อง, รู้จังหวะในการเล่นและที่สำคัญคือปิดสกอร์สุดเฉียบคม นี่คือคำนิยามสั้นๆ ของศูนย์หน้าเจ้าของสัดส่วน 1.85 เมตร

แบงค็อก ยูไนเต็ด เคยเผชิญหน้ากับเพชฌฆาตรายนี้มาแล้วในถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ทั้งสองเกม ซึ่งบียูที่มี ปฏิวัติ คำไหม ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติไทย คนปัจจุบันเฝ้าเสาก็โดนหมอนี่ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายไป 2 ประตู

"เอแวร์ตอน ที่ว่าใหญ่ๆ ยังเอาไม่อยู่เลย" ภานุพงศ์ วงศ์ษา อดีตกัปตันช้างศึกที่เป็นผู้ช่วยเฮดโค้ชทีมแข้งเทพกล่าวถึงความยอดเยี่ยมของ ราฟาเอลซอน

ฤดูกาล 2024-25 เขาลงเล่นให้ นัม ดินห์ ไปแล้ว 7 เกม พร้อมสถิติซัดไป 7 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ พาทีมรั้งรองจ่าฝูงของตารางคะแนน วี ลีก ซึ่งแน่นอนว่าถ้าฟอร์มของพี่แกยังอยู่ในระดับนี้ โทรฟี่แห่งความสำเร็จคงไม่หนีไปไหนแน่นอน

ทว่า ณ ปัจจุบัน เขากำลังโฟกัสที่การช่วยทัพดาวทองให้กลับมาผงาดง้ำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกครั้ง เพราะนี่คือเป้าหมายของสมาคมฟุตบอลเวียดนาม ที่ปรารถนาจะทวงความยิ่งใหญ่คืนจากไทย จากใจที่ตั้งมั่น

ตอนนี้พี่แกเพิ่งเล่น อาเซียน คัพ 2024 ไปแค่ 3 นัดกลับถล่มตาข่ายแซงหน้ากองหน้าทุกหมู่เหล่าไปแล้วด้วยจำนวน 5 ประตู แถมมีอีก 2 แอซิสต์ อีกต่างหาก

เขาคือ 'เครื่องจักรสังหาร' ที่พร้อมจะชำแหละคู่ต่อกรทุกวินาที

นี่คือฟันเฟืองสำคัญของทีมอย่างแท้จริง เพราะระบบการเล่นที่ คิม ซัง-ซิก ก็เริ่มเซ็ตเป็นรูปเป็นร่างกับเกมรับที่เหนียวแน่นและโดดเด่นในเรื่องระเบียบวินัย ไม่ต่างจากสมัยที่ พัก ฮัง-ซอ เป็นกุนซือ

เมื่อเติมความเฉียบขาดและความแข็งแกร่งของศูนย์หน้าหมายเลข 12 เข้าไป มันจึงเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่จะพาทัพดาวทองหวนคืนความสำเร็จอีกครั้ง

ราฟาเอลซอน คือคีย์แมนทัพดาวทองกับภารกิจทวงบัลลังก์อาเซียน อย่างแท้จริง