สรุป 10 ข้อ ! ทีมชาติไทย เฉือนปินส์ เข้าชิงฯ อาเซียน คัพ หืด

[ 1 ] ความฟิตยังต้องเติม

ตลอดทั้ง 90 นาทีที่ ราชมังคลากีฬาสถาน มีเพียงครึ่งแรกเท่านั้นที่ทีมชาติไทย สามารถเพรสซิ่งฟิลิปปินส์ ได้สำเร็จ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการที่ยังเริ่มต้นเกม บวกด้วยความกระหายต่อชัยชนะ ทว่าหลังจากนั้นค่อนข้างชัดเจนว่า 'ความฟิต' สร้างปัญหาให้การขับเคลื่อนเกมไม่สามารถบดบี้ขยี้คู่แข่งได้ต่อเนื่อง

ด้วยเหตุนี้เอง เกมในครึ่งหลังจึงออกไปทางเนือยๆ ทั้งๆ ที่แฟนๆ ต่างก็พยายามส่งเสียงเชียร์เพื่อกระตุ้นนักเตะตลอดเวลา ซึ่งนั่นมาจากการที่ความฟิตของผู้เล่นไม่เพียงพอที่จะวิ่งเต็ม 90 นาที 

[ 2 ] ตัวสำรองเหลื่อมล้ำ    

การเปลี่ยนตัวของ มาซาทาดะ อิชิอิ อาจจะเป็นผล เพราะทั้ง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ลงมาในฐานะตัวสำรองต่างก็มีส่วนในประตูสู่ชัยชนะ

ทว่าถ้ามองโดยรวม ไม่ว่าจะ อัครพงษ์ พุ่มวิเศษ, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย, โจนาธาร เข็มดี และ วิลเลียม ไวเดอร์สเฌอ ต่างก็ไม่สามารถยกระดับการแข่งขันได้ ซึ่งมันทำให้เกมรุกของไทย ไร้มิติในการเข้าทำโดยสิ้นเชิง

เข้าใจได้ว่านี่คือทีมชาติชุดที่ไม่ได้เรียกนักเตะที่ดีที่สุดมาป้องกันแชมป์ แต่ด้วยมาตรฐานของลีก รวมไปถึงศักยภาพหลายๆ ด้าน ทัพช้างศึกควรจะต้องทำได้ดีกว่านี้

[ 3 ] ซื้อเกมรับไม่ได้

พลันที่ไทย ได้ประตูขึ้นนำ 2-0 ดูเหมือนว่า มาซาทาดะ อิชิอิ จะสั่งให้ลูกทีมของตนเองลงมาตั้งรับมากขึ้น เพราะถ้าจบด้วยสกอร์นี้ ทัพช้างศึกจะเข้ารอบชิงชนะเลิศทันที

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กุนซือชาวญี่ปุ่น ต้องการกลับผิดคาด เมื่อถูก บยอร์น มาร์ติน คริสเตนเซ่น ศูนย์หน้าของฟิลิปปินส์ ยิงอย่างเฉียบขาดจากนอกกรอบ ตีตื้นให้ฟิลิปปินส์ ไล่มา 1-2 พร้อมด้วยผลประตูรวม 3-3

นับตั้งแต่เกมแรกกับติมอร์ เลสเต กระทั่งถึงรอบรองชนะเลิศ - อิชิอิ ยังไม่เจอแผงหลังที่ลงตัวสำหรับทัวร์นาเมนต์นี้เลย โดยเฉพาะคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟที่สลับกันเล่นทุกๆ เกม ซึ่งผลที่ออกมาคือการที่นักเตะยังไม่อาจสื่อสารกันได้ลงตัว และมันก็มาซึ่งการถูก ดิ อัซกัลส์ ทำให้เหนื่อยในบั้นปลาย 

[ 4 ] พาตริก ควรจะอยู่ในสนามนานกว่านี้

พาตริก กุสตาฟส์สัน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขามีประโยชน์ต่อทีมมากเพียงใด เพราะไม่ใช่เพียงแค่ทำสกอร์เท่านั้น หากแต่สมาชิกใหม่ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังคอยปะทะกับกองหลังฝั่งตรงข้ามได้แบบไม่เป็นรอง ทั้งเคลื่อนที่จนเปิดช่องว่างให้เพื่อนได้เติมเกมอยู่เสมอ

64 นาที ในสนามกับโอกาสสับไก 3 ครั้งและได้มาซึ่ง 1 ประตู ทว่าเป็นอีกครั้งที่ มาซาทาดะ อิชิอิ ตัดสินใจถอดศูนย์หน้าเชื้อสายสวีเดน ออกจากสนาม 

นับเป็นครั้งที่ 5 ใน 6 เกม ของ อาเซียน คัพ ที่ กุสตาฟส์สัน เล่นไม่ครบ 90 นาที ซึ่งอาจจะมาจากการที่กุนซือชาวญี่ปุ่น ต้องการรักษาสภาพร่างกายของหัวหอกหมายเลข 9 ให้สดที่สุด เพราะเขาคงมั่นใจว่าสามารถปิดเกมได้

แต่กระนั้นพอไม่มีกองหน้าตัวเป้าที่พอจะฝากความหวังได้ มันจึงทำให้แนวรับฟิลิปปินส์ ไม่ต้องพะวง ยิ่งการที่ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ซึ่งลงมาแทน ดันได้รับบาดเจ็บอีก สถานการณ์จึงยิ่งไปกันใหญ่

ดังนั้นถ้า กุสตาฟส์สัน อยู่ในสนามนานกว่านี้ บางทีทีมชาติไทย คงไม่ต้องเหนื่อยเพิ่มอีก 30 นาที  

[ 5 ] เสกสรรค์ ขยันอย่างเดียว

แม้จะมีจังหวะไปเกี่ยวบอลจากสุดเส้น จนเป็นที่มาซึ่งประตู 1-0 แต่ผลงานโดยรวมของ เสกสรรค์ ราตรี ยังดีไม่พอสำหรับจะยืนตัวจริงยาวๆ ให้ทีมชาติไทย

ดาวรุ่งจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือหนึ่งในนักเตะแห่งอนาคตของทีมชาติไทย อย่างแท้จริง ทว่า ณ เวลานี้ดูเหมือนว่าเขาจะยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกพอสมควร ซึ่งฟอร์มใน อาเซียน คัพ 2024 อาจจะมีเกมที่ดีอยู่บ้าง แต่ถ้าเกมสำคัญภายใต้ความกดดัน ยังถือว่าเขาสอบไม่ผ่าน

มาซาทาดะ อิชิอิ อาจจะชื่นชอบกองกลางรายนี้เป็นการส่วนตัว เพราะมีความขยันเป็นจุดนำ บวกกับการที่คนอื่นๆ ในตำแหน่งเดียวกันไม่สามารถทำตามแท็กติกที่ต้องการ เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น จึงส่ง เสกสรรค์ ลงเล่นเป็นประจำ

อนาคตข้างหน้า ยังไงชื่อของเขาก็จะเป็นหนึ่งในทำเนียบขาประจำทีมชาติไทย แน่ๆ แต่ถ้านับเฉพาะ อาเซียน คัพ 2024 ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกยาวไกล

[ 6 ] ไร้มิดฟิลด์ บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ มีผล

กองกลางทีมชาติไทย ชุด อาเซียน คัพ 2024 อาจจะมีสง่าราศีพอสมควร เพราะชื่อของ วีระเทพ ป้อมพันธ์ และ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี คือผู้เล่นระดับท็อปของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทว่าทั้งสองคนมีสไตล์คล้ายคลึงกันคือเป็นตัวคุมจังหวะของเกม ซึ่งมันทำให้การเคลื่อนเกมของทัพช้างศึกดูช้าไปหนึ่งจังหวะ เพราะขาดคนมาคอยเชื่อมให้บอลขยับไปข้างหน้าได้ไวขึ้น

เมื่อไอเดียตีบตัน ดังนั้นมิดฟิลด์ประเภท บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ จึงสามารถตอบโจทย์ที่ขาดไหายได้ ทว่าทัพช้างศึกชุดนี้ไร้กองกลางไดนาโม เลยเป็นเหตุให้บอลจากกลางไปแดนหน้าไม่ค่อยจะต่อเนื่อง และมันทำให้หลายๆ เกมใน อาเซียน คัพ 2024 รูปเกมของไทย ไม่สามารถข่มคู่แข่งได้เหมือนที่ผ่านมา 

[ 7 ] ซ้ายบอดสนิท

ด้วยความที่ มาซาทาดะ อิชิอิ เรียก อภิสิทธิ์ โสรฎา กับ ทิตาธร อักษรศรี มาเพียงสองคนในตำแหน่งแบ็กซ้าย ซึ่งทั้งคู่ก็ได้รับโอกาสไปพอสมควร แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นที่ประทับใจเท่าใดนัก มันจึงเป็นเหตุให้ต้องขยับ นิโคลัส มิคเคลสัน มาเล่นแทน

อาจจะจริงที่ฟูลแบ็กลูกครึ่งนอร์เวย์ เคยประจำการฝั่งซ้ายมาแล้ว อีกทั้งในระดับสโมสรเขาเองก็ยืนตำแหน่งนี้บ่อยๆ แต่ทุกคนก็เห็นอยู่ว่าถ้าจะเค้นศักยภาพสูงสุดของเขาออกมา ยังไงก็ต้องให้หมอนี่เล่นทางขวา

ตลอด 120 นาที ของ มิคเคลสัน ในฐานะแบ็กซ้ายจำเป็น เขาไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งออกมาได้เลย และนั่นเองก็เห็นๆ กันอยู่ว่าตลอดทั้ง 6 แมตช์ใน อาเซียน คัพ 2024 นี่คือตำแหน่งที่เป็น 'จุดอ่อน' ของทีมชาติไทย โดยแท้จริง 

[ 8 ] ต้องหาคู่ปราการหลังให้ได้สักที

ตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟของทีมชาติไทย ชุด อาเซียน คัพ 2024 มีการเปลี่ยนแปลงในทุกเกม โดยในรอบแรกสลับใช้ พรรษา เหมวิบูลย์ - ศฤงคาร พรหมสุภะ กับ โจนาธาร เข็มดี - เฉลิมศักดิ์ อักขี คู่ละ 2 เกม 

พอมาถึงรอบรองชนะเลิศเลกแรก มาซาทาดะ อิชิอิ ให้ ศฤงคาร ลงเล่นร่วมกับ โจนาธาร ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น พรรษา และ เฉลิมศักดิ์ ในเลกที่สอง

จากสิ่งที่เกิดขึ้น เห็นได้ชัดว่ากุนซือชาวญี่ปุ่น ยังคงทดลองอยู่ ซึ่งคงไม่ใช่ผลดีแน่ๆ เพราะรอบชิงชนะเลิศกับเวียดนาม นั้นคือปลายทางแล้ว อีกทั้งทัพดาวทองยังมี ราฟาเอลซอน ศูนย์หน้าพระกาฬที่ฟอร์มร้อนแรงมากๆ รออยู่

หากยังไม่เจอคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟที่ลงตัวสักที การป้องกันแชมป์คงจะเป็นไปได้ยากมากทีเดียว

[ 9 ] วรชิต ต้องเป็นตัวหลักได้แล้ว

เป็นอีกครั้งที่ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ลงมาทำให้สถานการณ์ของการแข่งขันแปรเปลี่ยนไป แมตช์แรกคือการทำแอสซิสต์ให้ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ยิงแซงสิงคโปร์ ในรอบแบ่งกลุ่ม และอีกครั้งกับการวางบอลอย่างแม่นยำไปที่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ก่อนจะนำชัยชนะสู่รอบชิงชนะเลิศ

6 เกม ใน อาเซียน คัพ 2024 มิดฟิลด์ชาวเชียงใหม่เพิ่งจะลงเป็นตัวจริงแค่นัดชนะกัมพูชา 3-2 เท่านั้น ส่วนที่เหลือคือแค่มีส่วนร่วมเท่านั้น ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่แปลกทีเดียว เนื่องจากผลงานของเจ้าตัวก็ประจักษ์ต่อสายตาว่าสามารถทำประโยชน์ให้ทีมได้มากมาย แต่กลับถูก มาซาทาดะ อิชิอิ เมินเฉยซะอย่างนั้น

เหลืออีก 2 เกม ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นสองนัดชี้วัดว่าทีมชาติไทย จะยังคงสถานะเบอร์หนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่หรือไม่

คลาสบอลของกองกลางจาก การท่าเรือ เอฟซี สามารถสร้างความแตกต่างได้ชัดเจน ซึ่งถ้าหาก วรขิต ยังต้องนั่งอยู่ข้างสนามเช่นเคย บันไดสู่ฝั่งฝันกับการป้องกันแชมป์ ก็น่าจะยากขึ้นอีกเท่าตัว

[ 10 ] ศุภณัฏฐ์ 'เดอะแบก'

เหตุผลหลักที่ 11 ผู้เล่นชุดแรกของทีมชาติไทย ไร้ชื่อของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เชื่อว่าน่าจะมาจากการที่อดีตศูนย์หน้า โอเอช ลูเวิน ไม่ฟิตสมบูรณ์ หลังจากถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมที่บุกพ่ายฟิลิปปินส์ 1-2

การที่ไม่มีแนวรุกชาวศรีสะเกษ เห็นได้ชัดเลยว่าการเข้าทำของทีมชาติไทย ไม่ไหลลื่นเหมือนที่ผ่านๆ มา เนื่องจากขาดนักเตะประเภท 'แมตช์ วินเนอร์' นั่นเอง

เป็นอีกครั้งที่ ศุภณัฏฐ์ แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติของ 'ซูเปอร์สตาร์' กับการโขกประตูชัยให้ทัพช้างศึกในช่วงต่อเวลาพิเศษ

6 เกม 4 ประตู 4 แอสซิสต์ และพาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศ นี่แหละที่เรียกว่า 'เดอะแบก' ของทีมชาติไทย อย่างแท้จริง