ทีมชาติไทย พบ กัมพูชา! จับตา 5 สิ่ง "น่าจะ" เกิดขึ้น!?

ทีมชาติไทย พบกัมพูชา ณ ราชมังคลากีฬาสถาน วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2024 เวลา 20:00 น.  ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐ ทีวี, AIS PLAY, Youtube BG SPORTS  และ True Sports 2

[ 1 ] พักแข้งมีใบเหลืองคาดโทษ

ผ่านเกมที่ 3 ของ อาเซียน คัพ 2024 รอบแบ่งกลุ่ม ปรากฏว่ามีนักเตะไทย 6 ราย ที่ถูกผู้ตัดสินจดชื่อ พร้อมกับรับใบเหลืองไปตามระเบียบ นำโดย นิโคลัส มิคเคลสัน ที่โดนไปคนแรกในแมตช์ชนะมาเลเซีย 1-0 ตามด้วย เฉลิมศักดิ์ อักขี, อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ, โจนาธาร เข็มดี กับ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ในนัดพลิกแซงสิงคโปร์ 4-2

ตามกฎของทัวร์นาเมนต์ ระบุว่า 'ใบเหลือง' จะถูกหักล้างหลังจบรอบแบ่งกลุ่ม 'แต่' ผู้เล่นสะสมใบเหลืองครบ 2 ใบพอดี จะติดโทษแบน 1 นัด ในรอบต่อไป

ด้วยเหตุนี้เองทำให้นักเตะทั้ง 6 คน มีโอกาสที่จะได้รับการ 'พัก' เพื่อปลดใบเหลือง โดยเฉพาะ มิคเคลสัน, ศุภนันท์ และ วีระเทพ ที่ยังไงก็ต้องเก็บไว้ใช้ในรอบรองชนะเลิศ เนื่องจากคู่ต่อสู้ไม่ว่าจะเวียดนาม, อินโดนีเซีย หรือ ฟิลิปปินส์ นั้นต่างก็แข็งแกร่ง จึงจำเป็นต้องใช้นักเตะที่ดีที่สุดลงห้ำหั่น

เชื่อว่าในรอบรองชนะเลิศ ตำแหน่งฟูลแบ็ก มาซาทาดะ อิชิอิ อาจจะขยับ มิคเคลสัน ไปยืนทางซ้าย เพื่อสร้างความดุลให้ทีม เนื่องจากตลอด 3 เกม ก่อนหน้านี้เป็น 'จุดด้อย' ของทีมอย่างแท้จริง ดังนั้นกองหลังเชื้อสายนอร์เวย์ น่าจะตอบโจทย์ที่กุนซือชาวญี่ปุ่น ต้องการได้ไม่ยาก ส่วนฟากขวาให้ ศุภนันท์ รับผิดชอบไป

ส่วนอีก 3 ราย เฉลิมศักดิ์, โจนาธาร และ อัครพงศ์ ยังมีสิทธิ์ที่จะได้ลงสนาม แต่คงไม่มากนัก เนื่องจากการหักล้างใบเหลืองน่าจะเป็นหนทางที่ดีที่สุดของไทย ในรอบรองชนะเลิศ

[ 2 ] อิชิอิ ใช้ชุดที่ดีที่สุด

โทษฐานที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์ของกลุ่ม เอ แน่นอนแล้ว มันจึงทำให้ มาซาทาดะ อิชิอิ สามารถพักผู้เล่นตัวหลัก เพื่อเก็บสภาพร่างกายให้พร้อมที่สุดในรอบต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผลงาน 2 นัดหลังสุด ยังไม่ค่อยน่าประทับใจนัก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะเขาต้องการลองแท็กติกหลากหลายรูปแบบ รวมไปถึงการสร้างทีมขึ้นมาใหม่ โดยมีเป้าหมายใหญ่คือรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2030

ดังนั้นแม้จะผ่านเข้ารอบไปแล้ว แต่กุนซือชาวญี่ปุ่น ยังมีการบ้านให้ต้องทำต่อ ซึ่งเขาเองก็พยายามหาจุดลงตัวสำหรับทีมชาติไทย

ทว่าการที่ฟอร์มยังดูขาดๆ เกินๆ ซึ่งสวนทางกับจำนวนเกมที่ค่อยๆ ลดลง เพราะเข้าถึงช่วงโค้งสุดท้ายกับรอบลึกๆ มันจึงทำให้การทดลองแท็กติกและปรับเปลี่ยนผู้เล่นอาจจะดูไม่เหมาะเท่าไรนัก

กลุ่มที่ถูกคาดโทษใบเหลืองคงจะได้พัก เพื่อเก็บความสดของร่างกายไว้ใช้ในนัดต่อไป แต่คนที่ยังไม่เคยถูกจดชื่อ แล้วเป็นนักเตะตัวหลัก น่าจะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงตั้งแต่นาทีแรก

ผู้รักษาประตู ปฏิวัติ คำไหม ยืนหนึ่ง ส่วนแนวรับฝั่งขวา นิโคลัส มิคเคลสัน กับ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ มีใบเหลืองติดตัว จึงเป็น เจมส์ เบเรสฟอร์ด ที่รับบทแทน ส่วนฝั่งซ้ายคือ ทิตาธร อักษรศรี ขณะที่คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟน่าจะ พรรษา เหมวิบูลย์ และ ศฤงคาร พรหมศุภะ

มิดฟิลด์ 3 คนกลางสนามจะไม่มี วีระเทพ ป้อมพันธ์ ที่จะได้พัก โดยคนที่จะทำหน้าที่แทนคือ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ขนาบด้วย วิลเลียม ไวเดอร์สเฌอ และมี วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่จะลงตัวจริงเป็นหนแรกในทัวร์นาเมนต์

แดนบน พาตริก กุสตาฟส์สัน ยืนหัวหอกตัวเป้า ส่วนกองหน้าด้านขวาเป็น ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ฟากซ้าย มีลุ้นที่ สุภโชค สารชาติ อาจจะได้คัมแบ็ก

ทั้งนี้อาจจะมีเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่คาดว่าคงไม่เกิน 2-3 ตำแหน่ง

ดังนั้นต่อให้เข้ารอบแน่ๆ ในฐานะแชมป์กลุ่ม แต่ดูเหมือนว่า อิชิอิ จะใช้เกมกับกัมพูชา เป็นการลองผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดของทัวร์นาเมนต์เพื่อใช้ในรอบรองชนะเลิศนั่นเอง

[ 3 ] กัมพูชา มาเซอร์ไพรส์

นับตั้งแต่ได้ เคซึเกะ ฮอนดะ กับ ริว ฮิโรเสะ สองโค้ชชาวญี่ปุ่น เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนารากฐานฟุตบอลในกัมพูชา พวกเขาก็ค่อยๆ มีกราฟที่ดีขึ้นตามลำดับอย่างชัดเจน ซึ่งผลงานใน อาเซียน คัพ 2022 ก็บ่งชี้ได้ชัดเจนว่าทุกๆ อย่างกำลังเดินหน้าไปในทิศบวก

ศึกชิงแชมป์แห่งชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2024 ก็เช่นกันที่ทีมนักรบอังกอร์ทำผลงานได้น่าประทับใจกับการมี 4 คะแนน จาก 3 เกม ซึ่งทำให้มีโอกาสลุ้นเข้ารอบรองชนะเลิศอยู่ แต่ก็ต้องลุ้นคู่ระหว่างสิงคโปร์ และมาเลเซีย เช่นกัน

ดังนั้นในเกมสุดท้ายกับไทย พวกเขาจะจัดเต็มอย่างแน่นอน แม้จะเป็นรองทุกด้าน แต่เชื่อได้เลยว่า โคจิ เกียวโตคุ กุนซือคนปัจจุบันจะวางหมากมาเพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน

อย่าลืมว่ากัมพูชา ชุด อาเซียน คัพ 2024 มีนักเตะโอนสัญชาติมากถึง 6 คน โดยในจำนวนนั้นมี 3 รายที่เป็นชาวญี่ปุ่น ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นแอฟริกาใต้, โคลอมเบีย และไอวอรี่โคสต์ ไม่นับรวมลูกครึ่งสหรัฐอเมริกา อีกหนึ่งหน่วย 

เท่ากับนักรบอังกอร์จะมีแข้งต่างชาติมากถึง 7 คนเลยทีเดียว

3 เกมที่ผ่านมา พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่ใช่สมันน้อยของภูมิภาคนี้อีกต่อไป นัดแรกเสมอมาเลเซีย 2-2 ก่อนจะแพ้ต่อสิงคโปร์ แบบน่าเจ็บปวด เพราะสองประตูที่เสียไปนั้นมาจากความผิดพลาดของนายทวารทีมตนเองล้วนๆ

จากฟอร์มการเล่นของกัมพูชา มันจึงทำให้ทัพช้างศึกห้ามประมาทเป็นอันขาด เพราะถ้าพลาดเพียงนิดเดียว กัมพูชา ก็สามารถลงโทษได้ในทันที

[ 4 ] สุภโชค มีลุ้นเคาะสนิม

สุภโชค สารชาติ คือหนึ่งในนักเตะประเภท 'แมตช์ วินเนอร์' ของทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน ซึ่งพัฒนาการฝีเท้าของเขากำลังไต่ขึ้นสูงในทุกๆ ปี แต่น่าเสียดายที่มักจะมีอาการบาดเจ็บมาเป็นตัวชะลออยู่เป็นระยะ

กระนั้นผลงานใน เจลีก กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าหมอนี่เก่งกาจจนเป็นที่ยอมรับเรียบร้อยแล้ว ซึ่งจริงๆ ถ้าทีมนกเค้าแมวแห่งแดนเหนือมีเขาอยู่ในสนามแบบสม่ำเสมอ คงไม่ต้องหล่นไปเล่น เจลีก 2 แน่นอน

เกมล่าสุดที่แนวรุกชาวศรีสะเกษ ได้โลดแล่นบนฟลอร์หญ้าคือเดือนตุลาคม ก่อนจะหายหน้าหายตาไปจนถึงตอนนี้ก็ 2 เดือนเต็มๆ ซึ่งเป็นเวลาที่นานทีเดียว

จากรายงานข่าวระบุว่า สุภโชค ลงซ้อมได้แล้ว แม้จะยังไม่เต็มรูปแบบ แต่ถ้าจะให้เขาโชว์ฟอร์มในรอบรองชนะเลิศเป็นอย่างน้อย ก็ต้องให้นักเตะวัย 26 ปี ได้ลงสนามไปเคาะสนิมบ้าง ซึ่งเกมกับกัมพูชา ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ เนื่องจากไม่มีผลแล้ว

หากว่าไทย ได้ตัวรุกฉกาจฉกรรจ์เพิ่มอีกคน มิติการเข้าทำในแดนจะน่ากลัวอีกหลายเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจังหวะสุดท้ายที่จะเป็นอาวุธลับให้ทัพช้างศึกไปถึงเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ เอกนิษฐ์ ปัญญา นั้นเจ็บยาว เผลอๆ อาจจะไม่ได้เล่นใน อาเซียน คัพ 2024 เลยด้วยซ้ำ 

[ 5 ] พลังของผู้เล่นคนที่ 12

เกมแรกที่ได้เล่นที่ ราชมังคลากีฬาสถาน ปรากฏว่าวีแฟนฟุตบอลมากถึง 25,619 คน เข้ามาให้กำลังใจทีมชาติไทย แบบชิดติดชอบสนาม ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดี เนื่องจากทำให้เกิดกระแสด้านบวกที่จะส่งต่อหลายๆ สิ่งให้ตามมาในอนาคต

กองเชียร์คือสิ่งสำคัญมากๆ ในโลกลูกหนัง เพราะถ้านักเตะลงเล่นโดยไร้ซึ่งผู้ชม อะไรต่อมิอะไรก็จะดูย่ำแย่ไปหมด

ทว่าพลังจากแฟนๆ เกินกว่า 25,000 ที่นั่งนั้นช่วยให้ทัพช้างศึกมีจิตใจฮึกเหิมที่จะเอาชนะผู้มาเยือน

การเผชิญหน้ากัมพูชา ในนัดสุดท้าย แม้มันจะไม่ใช่เกมใหญ่เหมือนกับเจอมาเลเซีย ก่อนหน้านี้ แต่ด้วยผลงานที่ค่อยๆ ดีขึ้น บวกด้วยการเล่นในบ้านตนเอง เชื่อว่าน่าจะมีคอลูกหนังหลั่งไหลสู่ ราชมังคลากีฬาสถาน พอสมควร