ไม่ง่าย! 5 สิ่งที่ ทีมชาติไทย ต้องระวัง สิงคโปร์ ให้ดี

ทีมชาติไทย พบ สิงคโปร์ ณ สนามกีฬาแห่งชาติ วันอังคารที่ 16 ธันวาคม 2024 เวลา 19:30 น.  ถ่ายทอดสดทางไทยรัฐ ทีวี, AIS PLAY, Youtube BG SPORTS และ  True Sports 2

[ 1 ] สนามหญ้าเทียม

'หญ้าจริง' กับ 'หญ้าเทียม' แค่ชื่อก็แตกต่างแล้ว ยิ่งในระดับสากล ไม่มีที่ใดในโลกที่ใช้หญ้าเทียมเป็นสนามหลักสำหรับจัดการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ

ทว่ากับสิงคโปร์ คือข้อที่แตกต่างออกไป พวกเขาใช้สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งเป็นหญ้าเทียมไว้รับมือกับอาคันตุกะอย่างสม่ำเสมอ และก็ได้ผลในหลายๆ เกมเช่นกัน อย่างล่าสุดคือการเสมอจีน 2-2 ในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย

กับ อาเซียน คัพ 2024 ที่พวกเขาประเดิมด้วยการเฉือนกัมพูชา 2-1 เกมนี้เห็นได้ชัดเลยว่าเรื่องของหญ้าเทียมสร้างปัญหาให้กับผู้มาเยือนจริงๆ เพราะสองประตูที่เกิดขึ้น นั่นเพราะทีมขุนพลอังกอร์จะบิวต์-อัป แต่ผู้รักษาประตูกะจังหวะผิด มันเลยทำให้ถูกฉกไปยิงดื้อๆ

นี่คือสิ่งที่ไทย ต้องระวังมากๆ เพราะทัพช้างศึกก็เน้นการสร้างเกมจากแดนหลัง แม้ว่า ปฏิวัติ คำไหม จะเป็นจอมหนึบที่ใช้เท้าได้ยอดเยี่ยม แต่อย่าลืมว่านี่คือ 'หญ้าเทียม' ที่สิงคโปร์ ถนัด และกองหน้าของเมอร์ไลอ้อนส์ก็จ้องเขม็งที่จะฉวยความผิดพลาด 

ดังนั้นเรื่องของสภาพพื้นสนามจึงเป็นสิ่งที่น่ากังวลมากทีเดียว

[ 2 ] ทีเด็ดแนวรุก

ไตล์การทำทีมของ สึโทมุ โอกูระ อาจจะเน้นหนักไปในเรื่องของแท็กติกและระเบียบวินัย เพราะศักยภาพของสิงคโปร์ ณ ปัจจุบัน ยังต้องค่อยๆ พัฒนาในหลากมิติ แต่สิ่งหนึ่งที่เด่นชัดคือจังหวะฉาบฉวยที่ทำได้ดีบ่อยๆ

นับตั้งแต่คุมทัพเมื่อช่วงต้นปี 2024 เขาพาทีมลงเล่นไป 8 นัด พร้อมกับยิงไปทั้งหมด 14 ประตู ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมากๆ

เวลานี้ผู้นำดาวซัลโวของ อาเซียน คัพ 2024 ก็เป็น ชาวาล อานัวร์ ที่กดไป 3 ประตู ซึ่งความมั่นใจของเขาคงจะสร้างปัญหาให้แผงหลังไทย ไม่น้อยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีตัวจี๊ดอย่าง ฟาริส รามิล ปีกวัย 32 ปี ที่ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของประเทศ หมอนี่เป็นพวกคล่องแคล่ว, สปีดต้นจัดจ้าน, ลากเลื้อยเก่ง แถมยังแอสซิสต์ให้เพื่อนได้บ่อยครั้งอีกด้วย

เมื่อบวกเข้ากับ เกล็นน์ คเวห์, เตาฟิก ซูปาร์โน่ พร้อมทั้งกำกับจังหวะโดย เคียวงะ นากามูระ กองกลางชาวญี่ปุ่น ที่โอนสัญชาติมา มันจึงทำให้เกมรุกของสิงคโปร์ ดูวูบวาบและอันตรายจริงๆ

[ 3 ] ความเขี้ยวลากดินของแข้งเก๋า

ทีมชาติไทย ชุด 2024 มีสมาชิกใหม่มากมาย อีกทั้งหลายๆ รายก็เพิ่งจะติดทีมชาติเป็นหนแรก ไม่ก็เล่นให้ทัพช้างศึกยังไม่ถึง 3 เกม เลยด้วยซ้ำ ซึ่งนั่นหมายความว่าประสบการณ์ที่จะเผชิญหน้ากับประเทศอื่นน้อยน้อยนิดเหลือเกิน

อาจจะจริงที่มาตรฐานของลีกห่างกันอยู่หลายช่วงตัว แต่ในเกมระดับชาติ มันเอามาวัดกันได้ยาก ยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยิ่งชัด เพราะไม่เช่นนั้นมาเลเซีย, อินโดนีเซีย หรือเวียดนาม คงไม่สร้างความลำบากใจได้ถึงเพียงนี้

ในขณะที่ไทย อุดมไปด้วยขุนพลหน้าใหม่ ซึ่งแตกต่างกับสิงคโปร์ ที่มีนักเตะเก๋าเกมเต็มไปหมด ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปจนถึงกองหน้า ทุกตำแหน่งของพวกเขาคือแข้งที่เคยประจันหน้ากับช้างศึกมาแล้วทั้งสิ้น

โดยเฉพาะ ฮาริส ฮารุน กัปตันทีมนี่ไม่มีเกรงกลัวศักดิ์ศรีผู้เล่นจากสยามประเทศเลยแม้แต่นิด รวมไปถึงก๊วน อิซวาน มาบัด,  นาซรูล นาซารี่, ซาฟูวาน บาฮารูดิน, ชาดาน ซูไลมาน, ฟาริส รามิล และ ชาวาล อานัวร์

รูปเกมระหว่างสิงคโปร์ กับไทย คงจะเดินหน้าไปด้วยความอึดอัด ซึ่งทางเจ้าถิ่นคงจะงัดกลยุทธ์เล่นหนักใส่แน่ๆ เพราะรู้ตัวดีว่าเป็นรอง ซึ่งด้วยความเจนเวที อาเซียน มันจึงทำให้แข้งช้างศึกจำเป็นต้องระงับอารมณ์ไว้ให้ดี มิเช่นนั้นอาจจะหลงเหลี่ยมพวกเขาก็เป็นได้

[ 4 ] ความกดดันตัวเอง

แม้ว่าไทย จะเก็บไป 6 คะแนนเต็ม จากสองแมตช์ที่ผ่านมา ทว่าในนัดเฉือนมาเลเซีย 1-0 ทุกคนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า มาซาทาดะ อิชิอิ ยังไม่สามารถรีดศักยภาพนักเตะออกมาได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เห็นจะมีเพียง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา คนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในฟอร์มอันพอจะพึ่งพาได้

เวลานี้นอกจากคว้าชัยให้ได้แล้ว รูปแบบการเล่นก็ต้องทำให้แฟนๆ ประทับใจด้วยเช่นกัน ยิ่งเป็นในทัวร์นาเมนต์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชนะอย่างเดียวไม่เพียงพอ เพราะเสียวิพากษ์-วิจารณ์รออยู่เพียบ

เหตุนี้เอง การบุก จาลัน เบซาร์ จึงเป็นอะไรที่น่ากังวลไม่น้อย อาจจะดูไม่มีอะไร สบายๆ แต่จริงๆ แล้วนี่คือเกมที่กดดันไม่น้อยเลย เนื่องจากเพิ่งผ่านความยากลำบากจากมาเลเซีย ไหนจะมีเรื่องราวดรามามาหมาดๆ 

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า อิชิอิ เองก็คงจะคำนวณตรงจุดนี้ไว้แล้ว เพียงแต่ลูกทีมของเขาจะสามารถเล่นได้ตามแท็กติกที่วางไว้หรือเปล่าเท่านั้นเอง เพราะเท่าที่ผ่านๆ มา ยังมีหลายจุดที่ต้องปรับปรุงโดยด่วน ซึ่งถ้าผ่านสิงคโปร์ ไปได้สวยๆ มันจะเพิ่มความมั่นใจได้อีกเยอะทีเดียว

แต่ถ้าผลการแข่งขันไม่เป็นไปดั่งหวัง ทีนี้แหละเรื่องใหญ่ เพราะมันจะยิ่งเป็นการกดดันตนเองไปเรื่อยๆ กระทั่งล้มเหลวในที่สุด

[ 5 ] ความมุ่งมั่นของสิงคโปร์

ด้วยชัยชนะ 2 เกมติดต่อกัน แน่นอนว่ามันทำให้สิงคโปร์ มีความมั่นใจเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว อีกทั้งยังเก็บชัยพร้อมรูปเกมที่เป็นไปตามที่เฮดโค้ชต้องการ มันจึงยิ่งส่งผลในแง่บวกขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อในทีมมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สิ่งต่างๆ ก็จะค่อยๆ ออกมาดีเอง ซึ่งมันจะสะท้อนด้วยการเล่นในสนามที่ดูแล้วเพลินตา ถึงจะเป็นรอง แต่ก็สามารถสู้กับทีมที่เหนือกว่าได้อย่างสมศักดิ์ศรี

ในเมื่อเวลานี้สิงคโปร์ มีทั้งความมั่นใจ แถมยังได้เล่นในบ้านตนเอง เสียงเชียร์บนอัฒจันทร์ทั้งสี่ฟากฝั่งอึกทึกครึกโครมแน่ๆ เพราะฟอร์มแจ่ม พร้อมด้วยสนามหญ้าเทียมที่จะเป็นอุปสรรคสำคัญของทีมชาติไทย - นั่นเองที่ทำให้พวกเขาคงจะหวังสร้างเซอร์ไพรส์ในเกมวันอังคารที่ 17 ธันวาคม

เท่านั้นไม่พอ แรงกระตุ้นสำหรับแข้งเจ้าถิ่นยังมีเรื่องของที่ต้องการเอาชนะไทย ให้สำเร็จ เนื่องจากทุกประเทศในย่านอาเซียน ต่างก็ปรารถนาที่จะล้มช้างศึกให้จงได้

จากปัจจัยหลากหลาย มันคือความมุ่งมั่นของสิงคโปร์ ที่หมายมั่นปั้นมือกับเกมนี้มากๆ

หากพวกเขาทำสำเร็จ นี่จะเป็นการต่อยอดไปสู่ความยิ่งใหญ่ได้เลย เพราะมันจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังที่จะทำให้ทัพเมอร์ไลอ้อนส์คัมแบ็กสู่ความเป็นเบอร์หนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกครั้งนั่นเอง