ทีมชาติไทย เฉือนมาเลเซีย พร้อมกับเก็บ 3 คะแนน ได้ตามเป้าหมาย ทว่ายังมีหลายสิ่งที่ยังดูไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ซึ่งเป็นการบ้านโจทย์ใหญ่ที่ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือช้างศึกต้องนำกลับไปปรับปรุงโดยด่วน และนี่คือ 5 ประเด็น หลังเกมที่ 'SIAMSPORT' อยากแชร์ให้คุณได้อ่านกัน!!
[ 1 ] เสกสรรค์เซอร์ไพรส์
เกมแรกที่ถล่มติมอร์ เลสเต ขาดลอย 10-0 มาซาทาดะ อิชิอิ รู้ดีว่านี่คือการลองผู้เล่นใหม่ รวมไปถึงวิธีการใหม่ๆ แต่กับมาเลเซีย ซึ่งเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งที่จะแย่งตั๋วรอบรองชนะเลิศในฐานะแชมป์กลุ่มนั้นย่อมยากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ดังนั้นจึงต้องเน้นเป็นพิเศษ
ว่าแล้วกุนซือชาวญี่ปุ่น จึงเปลี่ยนนักเตะแทบยกชุด โดยเหลือเพียง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, พาตริก กุสตาฟส์สัน, อัครพงศ์ พุ่มวิเศษ และ นิโคลัส มิคเคลสัน ที่ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงต่อเนื่อง นอกนั้นอีก 7 ราย คือปรับใหม่
แต่คนที่ลงมาในนัดสองกับมาเลเซีย นั้นเป็นขุมกำลังหลักในยุค อิชิอิ ล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็น วีระเทพ ป้อมพันธ์ หรือ ปฏิวัติ คำไหม เรียกได้ว่าเหลือแค่ สุภโชค สารชาติ กับ เอกนิษฐ์ ปัญญา เท่านั้นก็น่าจะเป็นชุดที่ดีที่สุดของ อาเซียน คัพ 2024
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อดีตเฮดโค้ช คาชิมะ แอนท์เลอร์ส สร้างความฉงนใจให้แฟนๆ คือการส่ง เสกสรรค์ ราตรี ลงในตำแหน่งกองหน้าฝั่งซ้าย
แม้เด็กหนุ่มจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเก่งกาจและมีอนาคตสดใสรออยู่ แต่นี่หาใช่พื้นที่ที่จะรีดศักยภาพของแข้งวัย 21 ปี ออกมาใช้งานได้อย่างเต็มเหนี่ยว
ผลงานตลอดทั้ง 90 นาทีกว่าๆ ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน จึงไม่มีอะไรพิเศษหรือผิดพลาดมากนัก แต่จังหวะยิงเหน่งๆ ในครึ่งแรกจังหวะนั้นควรจะเป็นประตูจริงๆ
เข้าใจได้ว่าส่วนหนึ่งที่ อิชิอิ เลือกใช้ เสกสรรค์ นั่นก็เพราะผู้เล่นในตำแหน่งนี้ยังไม่พร้อม เอกนิษฐ์ เพิ่งจะเจ็บ, เบน เดวิส ก็ไปคุยกับคุณหมอตั้งแต่เกมที่แล้ว ส่วนตัวความหวังอย่าง สุภโชค ก็กำลังเรียกความฟิต ขณะที่ อนันต์ ยอดสังวาลย์ ยังดูขาดความมั่นใจ
หวยเลยมาลงที่มิดฟิลด์หมายเลข 25 ที่ออกสตาร์ตัวจริงแบบเซอร์ไพรส์นั่นเอง
[ 2 ] รูปเกมน่าผิดหวัง
แม้ทีมชาติไทย ชุด อาเซียน คัพ 2024 จะไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด แต่อย่างน้อยการที่มาตรฐานของลีกสูงกว่ามาเลเซีย อยู่พอสมควร อีกทั้งผู้มาเยือนเองก็ไร้ซูเปอร์สตาร์จาก ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม รวมไปถึง เซลังงอร์ สองยักษ์ใหญ่ของประเทศ
ข้อได้เปรียบของทัพช้างศึกยังมีอีกหลายปัจจัยไล่ตั้งแต่...
1. ได้เล่นในบ้าน แถมแฟนๆ ก็เข้ามาให้กำลังใจกันหลักหมื่น
2. เวลาแข่งขันก็เข้าทาง เพราะคิ๊ก-ออฟกัน 2 ทุ่มในช่วงฤดูหนาว อากาศกำลังดี นักเตะหายใจสะดวก
3. มาเลเซีย แข่งติดๆ กันมา 2 เกม แถมเดินทางบ่อยกว่าอีกต่างหาก
ดังนั้นสิ่งที่แฟนๆ คาดหวัง สิ่งที่บรรดานักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญฟุตบอลไทย ต่างก็ค่อนข้างมั่นใจว่าทัพช้างศึกจะทำได้ดีแน่ ส่วนผลการแข่งขันจะตามมาในภายหลัง
ทว่าตลอดทั้ง 90 นาที ดูเหมือนเสือเหลืองแห่งมาลายาจะมีความกระตือรือร้นมากกว่า ในทางตรงกันข้าม ทีมชาติไทย พอเจอเกมบดบี้หนักๆ ก็ออกอาการเป๋ให้เห็นชัดเจน โดยเฉพาะแดนกลางที่ตกเป็นรองอาคันตุกะอยู่พอสมควร
เท่านั้นไม่พอ สถิติต่างๆ ก็บ่งบอกว่ารูปเกมของเจ้าบ้านไม่ได้เหนือกว่าผู้มาเยือนสักเท่าไหร่ ตัวเลขต่างๆ ใกล้เคียงกันหมด จะมากกว่า ก็มากเพียงนิดเดียว
ส่วนประตูที่ได้มานั้น หากว่ามาเลเซีย ไม่พลาดเอง ทัพศึกก็คงจะหางทางเจาะเข้าไปทำในพื้นที่สุดท้ายไม่ได้ สกอร์คงจะจบ 0-0 แบบจืดชืด
นี่คือ 'การบ้าน' ข้อใหญ่ที่ มาซาทาดะ อิชิอิ ต้องกลับไปแก้ไขโดยด่วน เพราะถ้ายังฟอร์มฝืดแบบนี้ รอบแรกน่ะผ่านได้ แต่เข้าไปเจออินโดนีเซีย หรือเวียดนาม ในรอบรองชนะเลิศคงจะรอดยาก แล้วลูปเก่าๆ กับการก้าวข้ามอาเซียน ก็จะวนมาอีกครั้ง
[ 3 ] ฝั่งซ้ายบอดสนิท
หากไม่นับ ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายระดับเอเชีย ที่ยังไงเสียก็จองตัวจริงแน่นอน หากมีชื่อติดทีมมาด้วย ทว่าคนอื่นๆ ที่อยู่ในข่ายอย่าง ศศลักษณ์ ไหประโคน กับ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา นั้นไม่ถูกเรียกตัว ขณะที่ เควิน ดีรมรัมย์ ก็ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน มันจึงเป็นโอกาสของแข้งหน้าใหม่ที่จะได้พิสูจน์ตัวเอง
สองคนที่ มาซาทาดะ อิชิอิ ที่เรียกมาคือ ทิตาธร อักษรศรี และ อภิสิทธิ์ โสรฎา ซึ่งก็ถือว่าฟอร์มการเล่นใน ไทยลีก กับต้นสังกัดทำได้ดีทีเดียว จึงไม่แปลกที่พวกเขาจะได้ตะลุย อาเซียน คัพ เป็นหนแรกในชีวิต
อย่างไรก็ตาม ในเกมกับมาเลเซีย ครึ่งแรกที่เป็น อภิสิทธิ์ นั้นเงียบเชียบมากๆ ยิ่งต้องประสานงานกับ เสกสรรค์ ราตรี ซึ่งไม่ใช่นักเตะริมเส้นธรรมชาติอีก มันจึงไปกันใหญ่ มิติในเกมรุกของไทย ขาดหายไปชัดเจน
พอครึ่งหลัง ทิตาธร ลงมา อาจจะได้เรื่องความชัวร์ในเกมรับ แต่ส่วนอื่นๆ ก็ถือว่าทำได้ตามหน้าที่ของตนเอง
อาจจะไม่ผิดที่ทั้งคู่สามารถตอบโจทย์ของ อิชิอิ ได้ตามใบสั่ง แต่กระนั้น ถ้าจะไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ เกมทางฝั่งซ้ายของไทย ควรจะต้องดีกว่านี้ โดยเฉพาะเมื่อ สุภโชค สารชาติ กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง เพราะถ้าบุกแต่ฟากขวาทางเดียว คู่แข่งจับทางได้แน่
นี่เป็นอีกหนึ่งจุดที่กุนซือชาวญี่ปุ่น ต้องเร่งปรับจูนให้สมดุลโดยด่วน
[ 4 ] ธีรศักดิ์ ยังต้องใช้เวลา
ธีรศักดิ์ เผยพิมาย อาจจะเป็นนักเตะไทย ที่ยิงประตูได้มากที่สุดในลีกด้วยตัวเลข 6 ประตู ทว่ากับทีมชาติ เขาก็ยังไม่สามารถงัดฟอร์มอันเปล่งประกายเหมือนที่ทำได้กับสโมสรออกมาให้แฟนๆ ได้ชื่นชม
2 ประตู ที่ซัดใส่ติมอร์ เลสเต น่าจะเพิ่มความมั่นใจให้หัวหอกวัย 22 ปี เพราะมันคือสกอร์แรกในนามทัพช้างศึก หลังจากก่อนหน้านี้ 12 เกม ที่ได้รับโอกาส เขาไม่เคยเอาบอลไปกองอยู่ก้นตาข่ายได้เลยสักครั้ง
เกมกับมาเลเซีย ก็เช่นกัน โอกาสเหน่งๆ จากจังหวะโต้กลับควรจะเป็นประตูที่สองของไทย เพื่อตอกฝาสู่ชัยชนะที่งดงาม แต่หัวหอกจาก การท่าเรือ เอฟซี กลับยิงไปติดเซฟผู้รักษาประตูมาทีมเยือนแบบหน้าผิดหวัง
นอกจากจะขาดความเฉียบคมแล้ว การมีส่วนร่วมกับเกมของ ธีระศักดิ์ ก็ถือว่าน้อยนิด เพราะไม่สามารถเก็บบอลได้เลย เบียดแย่งกับแนวรับเสือเหลืองแห่งมาลายาอย่างยากลำบาก
เขาเป็นศูนย์หน้าอนาคตไกล พรสวรรค์และฝีเท้าของหมอนี่ยังเก่งได้กว่านี้อีกเยอะ แต่เจ้าตัวก็ต้องพยายามพัฒนาร่างกายให้แข็งแรงกว่าที่เห็นอยู่ อีกทั้งต้อง 'นิ่ง' กว่านี้ยามรับใช้ชาติ เพราะด้วยวัยเพียง 22 ยังมีเวลาให้ขัดเกลา รวมทั้งเก็บเกี่ยวอีกมากมาย
[ 5 ] ศุภณัฏฐ์ แบกภาระ
ณ วินาทีนี้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้ก้าวมาเป็น 'ความหวัง' ของทีมชุด อาเซียน คัพ แบบเต็มตัว ด้วยผลงานตลอดสองเกมที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับมาเลเซีย ที่ทำได้ยอดเยี่ยมทั้งรุกและรับจน 3 คะแนน ยังอยู่ที่ ราชมังคลากีฬาสถาน
อดีตศูนย์หน้า โอเอเช ลูเวิน เรียก 2 ใบเหลืองจากทีมเยือน อีกทั้งยังปั่นป่วนกองหลังเสือเหลืองแห่งมาลายาจนหัวหมุนไปหลายต่อหลายหน
ประตู 1-0 ที่ถวายพานให้ พาตริก กุสตาฟส์สัน ก็บ่งบอกได้ชัดเจนว่าเขาให้ความสำคัญกับคำว่า 'ทีม' เป็นลำดับแรก เพราะถ้าเป็นผู้เล่นแนวรุกคนอื่นๆ จังหวะนั้นคงม้วนตัวพร้อมซัลโวด้วยตนเองไปแล้ว
แต่ ศุภณัฏฐ์ เลือกที่จะให้เพื่อน ซึ่งเห็นช่องในการทำประตูมากกว่า
เท่านั้นไม่พอ เรื่องเกมรับ เขาเองก็วิ่งห้อลงมาสไลด์เพื่อป้องกันไม่ให้มาเลเซีย ลำเลียงบอลไปถึงพื้นที่อันตรายหลายต่อหลายครั้ง แถมยังช่วย นิโคลัส มิคเคลสัน ได้ในยามที่แบ็กขวาลูกครึ่งนอร์เวย์ ทะยานไปข้างหน้า
แม้จะไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ด แต่อย่างน้อย ศุภณัฏฐ์ ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขากำลังจะก้าวมาแทนรุ่นพี่ในอนาคตอันใกล้นี้ และในวัยเพียง 22 ปี รับประกันเลยว่าโอกาสที่จะได้ไปค้าแข้งในลีกต่างประเทศยังเปิดกว้างเสมอ
ขอเพียงไม่หลงระเริงกับชื่อเสียงและเงินตราที่เข้ามาเท่านั้น เขาจะประสบความสำเร็จ รวมทั้งกลายเป็นอีกหนึ่งตำนานของวงการลูกหนังไทย ได้ไม่ยากเลย