อ่า.....นานาทัศนะ "เอกฉันท์" หลังไทยเสมอ สปป.ลาว 1-1
บ้างก็บอกว่าดูไปหลับไป
สะดุ้งตื่นมาก็ได้ยินเสียงผู้บรรยายตะโกนดีใจคือยิงได้
จากนั้นก็กลับมาหลับต่อ
บ้างก็โจมตีว่าขาดความมุ่งมั่นในการเล่น
หนักข้อกว่านั้นคือบอกนักฟุตบอลชุดนี้ "คลาสไม่ถึง"
งานนี้ความกดดันตกมาอยู่กับ มาซาทาดะ อิชิอิ
รวมทั้งนายกสมาคมฟุตบอลคงนั่งไม่ติดเก้าอี้
ให้ความเป็นธรรมกับ อิชิอิ และนักเตะชุดฟีฟา เดย์ ชุดนี้ครับ
ถ้านั่งดูรายชื่อนักเตะทีมชาติชุดเสมอ เลบานอน และ สปป. ลาว
คงพอมองเห็นปัญหาที่ค้างคามาในทุกยุคสมัยของบอลไทย
โดยเฉพาะช่วง10 ปีที่ผ่านมา นับจากยุค บิ๊กอ๊อด ต่อด้วยมาดาม
นั่นคือ การเตรียมทีมและผลประโยชน์ทับซ้อนของสโมสรและทีมชาติ
เรามาถึงจุดที่สโมสรไม่ส่งนักเตะตัวหลักมาเล่นทีมชาติได้
เที่ยวนี้ก็มองเห็นว่าไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิม
โดยอิชิอิ พยายามแก้ปัญหาด้วยการตระเวณดูฟอร์มนักเตะไทยลีก
รวมทั้งลีกสองและสามเพื่อสร้างตัวเลือกใหม่ๆขึ้นมา
กระนั้นงานใหญ่อย่าง "อาเซียน คัพ"
ที่วัดความล้มเหลวได้ง่ายๆหากพลาดแชมป์
ถ้าคุณไม่มีนักเตะขาประจำ ตัวหลัก ตัวเก๋า มันก็ไม่ง่าย
ทุกชาติจ้องล้มทีมชาติไทยอยู่แล้ว
ถ้าให้มองประเด็นปัญหาตอนนี้....มีสองเรื่องชัดเจน
1 ตัวผู้เล่นที่ถูกเลือกไปอาเซียน คัพ
2 เวลาในการเตรียมทีม
ปัญหาเรื่องโปรแกรมบอลไทยวุ่นวายมาตั้งแต่ยังไม่เปิดซีซั่น
สุดท้ายก็ส่งผลกระทบกับทีมชาติ ด้วยเพราะจำนวนแมตช์เยอะ
แถมยังไม่สามารถเคลียร์ให้ลงตัวกับประเทศชาติได้
ไม่เหมือนฟากยุโรป ที่มันลงล็อค ระหว่างสโมสรกับทีมชาติ
กระนั้นทางยุโรปก็มีปัญหากับโปรแกรมที่มีเยอะเกินไปอีก
จนนักเตะเริ่มออกมาโวยวายกันบ้างแล้ว
กลับมาที่บอลไทยนะครับ
ผมมองว่า....นักเตะทีมชาติชุดที่ อิชิอิ เลือกมาฟีฟ่า เดย์
ไม่ได้แย่อย่างที่เราจะวิจารณ์กัน หลายคนก็ฟอร์มดีต่อเนื่อง
กระนั้นการเล่นสโมสรแล้วขึ้นทีมชาติมันไม่ง่าย
มันบอกถึง "คลาส" ด้วยเมื่อถึงเวทีใหญ่ไหวมั้ย
ถ้าสังเกตให้ดี....ว่าหลายชาติจะเลือกนักเตะฝีเท้าดีเสริม
คือเสริมในทีมชุดใหญ่ที่มีขาประจำอยู่แล้ว
มันต้องมีโครงสร้างทีม ตัวหลักไว้ก่อน
หากเล่นเปลี่ยนทั้งทีม ทั้งแผงหลัง, กลางและหน้า
แบบนี้โค้ชเหนื่อย ยิ่งมีเวลาเตรียมทีมน้อย
จบข่าว
แม้ไทยลีกหยุด 42 วัน ระหว่างเลก (น่าจะลงกินเนสบุ้คได้เลย)
แต่มันไม่ได้เอื้อทีมชาติมากนัก มีโปรแกรมสโมสรเอเชีย
ไทยลีกปิดเลกแรก สิ้นเดือนพ.ย. แต่มีโปรแกรมตกค้าง
วันที่ 1 ธ.ค. ท่าเรือ-หนองบัวพิชญ
เอเอฟซี ชปล อีลิต 3ธ.ค. บุรีรัมย์เยือน JDT ยอดทีมลีกมาเลเซีย
8 ธ.ค. บุรีรัมย์ - ราชบุรี
อาเซียน คัพ เริ่ม 8 ธ.ค. นัดแรกไทยเจออีสต์ ติมอร์
นัดสอง14 ธ.ค. เจอมาเลเซีย
ถ้าดูจากฟีฟา เดย์ 4 แมตช์ ที่ผ่านมา
ทั้งคิงส์คัพและ อุ่นเครื่องสองนัดล่าสุด
มาซาทาดะ อิชิอิ พยายามผสมผสานกลุ่มนักเตะเลือดใหม่
เลือดใหม่หลายคนอายุเกิน 25 ปีติดทีมชาตินับครั้งได้
โปรแกรมที่ไม่เป็นใจ การคัดเลือกนักเตะจะใช้ชุดไหน
การเตรียมทีมครั้งนี้ก็มีเวลาจำกัด
นักเตะรวมตัวกันหลัง 30 พ.ย. บอลเตะนัดแรก 8 ธ.ค.
เท่ากับซ้อมได้ประมาณ 6วัน....แล้วแข่ง
ดีหน่อยแมตช์แรกเหมือนอุ่นเครื่องเจอ อีสต์ ติมอร์
เหมือนมุกตลกสมัย40-50 ปีก่อน....ซ้อมในสนามแข่ง
จังหวะดีที่พอเตะกับ อีสต์ ติมอร์ จบได้พักเพื่อซ้อมอีก 5 วัน
จากนั้นเจอของแข็งมาเลเซีย 14 ธ.ค.
อ้อ....ครั้งก่อน มาโน โพลกิ้ง ก็ซ้อมในสนามแข่ง
จากโปรแกรมที่บอลไทยจัดไงก็ไม่ลงตัว
ทีมชาติเหมือนถูกมัดมือชก.....มีเวลาเข้าทัวร์นาเม้นต์น้อย
ตามหลักมันก็ 14 วัน จะบอลโลกหรือยูโร
หรือว่านี้คือ "บอลอาเซียน" ไม่ต้องเตรียมทีมนานก็ได้
ไงก็ได้แชมป์....555
ทั้ง2 เกมที่เสมอเลบานอนและ สปป.ลาว
โดยเฉพาะแมตช์หลังโดนวิจารณ์เละ
คหสต....ผมมองภาพใหญ่ภาพกว้างครับ
ผมไม่โทษนักเตะหรือโค้ชอิชิอิเลย...
มันปลายเหตุ....ถ้าตำหนินักบอลว่า "ชั้นไม่ถึง"
ทำไมไม่ตำหนิ...สมาคม,บริษัทไทยลีก
รวมทั้งสโมสรสมาชิกละครับ
ทำอะไรกันอยู่ นี่คือยุค "สตรีมมิ่ง" แล้ว
ปัญหาบอลไทยยังเหมือนเดิม
โปรแกรมไม่เอื้อ...เวลาเตรียมทีมมีน้อย
ได้นักเตะชุดที่ไม่ดีที่สุดมาเล่น
ให้เป๊ป กวาร์ดิโอลา มาเป็นโค้ช
ก็คงลาออกตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ทำงานมั้งครับ
อย่าให้มีเสียงวิจารณ์ว่า....ชุด ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง มีการทำงานที่ดีกว่า ชุดปัจจุบัน ซะอีก
JACKIE