ทีมชาติไทย ชุดฟีฟ่าเดย์ พฤศจิกายน 2024 อาจจะไม่ใช่ชุดที่ดีที่สุด แต่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการทดลองนักเตะใหม่ โดยเกมที่เสมอเลบานอน 0-0 มีหลายจุดที่ 'SIAMSPORT' สังเกตเห็นและได้สรุปออกมาเป็น 5 ประเด็น เพื่อแบ่งปันให้คุณได้อ่านกัน!
1. อิชิอิกับการลองของใหม่
มาซาทาดะ อิชิอิ จัดทัพผู้เล่น 11 คนแรก โดยให้โอกาสนักเตะใหม่ลงสนามพร้อมกันถึง 3 คน ได้แก่ ศฤงคาร พรมสุภะ, ทิตาธร อักษรศรี และพันธมิตร ประพันธ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นพวกเขาแสดงศักยภาพและปรับตัวเข้ากับแท็กติกของโค้ชชาวญี่ปุ่น
ผลที่ออกมาน่าพอใจ เนื่องจากทั้งสามคนเล่นได้ตามหน้าที่ แม้จะมีบางจังหวะติดขัด แต่โดยรวมยังถือว่าดี
ในแดนกลาง อัครพงษ์ พุ่มวิเศษ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ทำให้เขาได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในชีวิต และทำผลงานได้ดี โดยประสานงานในแดนกลางอย่างลงตัวกับพีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และวรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ
2. ครึ่งหลังแก้เกมเร็ว
ในครึ่งแรก แนวรุกริมเส้นอย่างพันธมิตรและอนันต์ ไม่สามารถสร้างจังหวะส่งบอลไปถึงศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ซึ่งยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าได้ชัดเจนนัก จึงทำให้การบุกไม่เฉียบขาด
ด้วยความเฉียบแหลมของอิชิอิ เขาจึงตัดสินใจส่งธีรศักดิ์ เผยพิมาย ศูนย์หน้าที่มีรูปร่างแข็งแกร่ง และรุ่งรัตน์ ภูมิจันทึก ลงมาแทนพันธมิตรและอนันต์ พร้อมทั้งขยับศุภณัฏฐ์ไปด้านข้าง
การปรับสองตำแหน่งนี้ช่วยให้ทีมไทยดูดีขึ้น โดยมีธีรศักดิ์ช่วยบดบี้แนวรับของทีมเยือน และใช้ความคล่องตัวของศุภณัฏฐ์และรุ่งรัตน์ในการโจมตี
3. ปิดจุดแข็งของเลบานอน
อิชิอิแสดงให้เห็นถึงการวางหมากที่ยอดเยี่ยม โดยปิดจุดแข็งด้านข้างของเลบานอนได้อย่างสมบูรณ์ สถิติหลังจบ 90 นาทีชี้ชัดว่าแท็กติกการป้องกันของเขาทำให้เลบานอนได้โอกาสยิงเพียง 5 ครั้ง และไม่ตรงกรอบเลย ทำให้สรานนท์ อนุอินทร์ ผู้รักษาประตูแทบไม่ต้องออกแรง
เลบานอนเองหวังพึ่งความแข็งแกร่งของมาเล็ค ฟาโกร้ ดาวยิงจากดรุ๊ยส์บวร์ก แต่สุดท้ายกลับไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้
4. ศฤงคารเด่นสุดในกลุ่มหน้าใหม่
ศฤงคาร พรมสุภะ ที่เคยเป็นกัปตันทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ได้รับโอกาสลงสนามร่วมกับเอเลียส ดอเลาะ ในตำแหน่งปราการหลังตัวชน ซึ่งศฤงคารทำหน้าที่ได้ดีมาก โดยเก็บกวาดเกมรุกของคู่แข่งได้อย่างหมดจดและมีช็อตสกัดสำคัญให้เห็น ถือเป็นเกมประเดิมสนามที่ยอดเยี่ยม
5. แม้จะไม่ใช่ชุดเต็ม แต่ก็มีอนาคตที่ดีรออยู่
ทีมชาติไทยชุดฟีฟ่าเดย์ พฤศจิกายน 2024 นี้ไม่ได้เรียกตัวหลักมาหลายคน เนื่องจากอิชิอิต้องการเปิดโอกาสให้นักเตะใหม่ เพื่อเตรียมทีมสู้ศึกอาเซียนคัพปลายปี
แม้เลบานอนจะมีแรงกิ้งต่ำกว่า แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คู่แข่งที่ง่าย โดยครั้งสุดท้ายที่พบกันในคิงส์คัพ 2023 ไทยต้องออกแรงอย่างหนัก ดังนั้น เดอะ เซดาร์ส จึงเป็นทีมที่แข็งแกร่ง
ถึงแม้การจบสกอร์จะน้อย แต่ต้องชื่นชมการวางหมากของอิชิอิ ที่ทำให้ทีมไทยสามารถครองเกมได้ดีกว่า และนักเตะใหม่หลายคนทำผลงานได้ดี รวมถึงคนที่เคยติดทีมชาติแต่มีโอกาสลงสนามน้อย ต่างก็แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เช่น
สรานนท์ อนุอินทร์ แม้จะเป็นมือสอง แต่เมื่อได้เฝ้าเสาแทน รับรองว่าไม่ก่อความผิดพลาดง่ายๆ แน่นอน
ศฤงคาร พรมสุภะ บู๊ดุดัน ไม่ปล่อยให้กองหน้าฝั่งตรงข้ามพลิกบอลได้ง่ายๆ
ทิตาธร อักษรศรี เกมรับเหนียวแน่นจนเลบานอนไม่สามารถเจาะเข้ามาทางฝั่งซ้ายได้
อัครพงษ์ พุ่มวิเศษ พิสูจน์แล้วว่าเรียนรู้จากอิชิอิได้ดี และพัฒนาตนเองจนกลายเป็นกองกลางระดับแถวหน้า
นักเตะใหม่แต่ละคนยังมีข้อผิดพลาดบ้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผู้เล่นที่ยังขาดประสบการณ์ในเกมนานาชาติ แต่หากพวกเขากลับไปพัฒนาและปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ ทัพช้างศึกจะมีนักเตะให้เลือกใช้อีกมากมายในอนาคต