ฟุตบอลทีมชาติไทยซ้อมครั้งแรกที่สงขลา เอเลียส หวังคว้าแชมป์มาครอง

 ฟุตบอลทีมชาติไทยซ้อมครั้งแรกที่สงขลา เอเลียส หวังคว้าแชมป์มาครอง
มาซาทาดะ อิชิอิ นำแข้งทีมชาติไทย ลงซ้อมมื้อแรกแล้ว ท่ามกลางชาวสงขลาให้การต้อนรับอบอุ่น ขณะที่ เอเลียส ดอเลาะ หวังทำผลงานให้ดีที่สุด โดยเป้าหมายหลักคือการคว้าแชมป์

 ความเคลื่อนไหวนักฟุตบอลชายทีมชาติไทยลงฝึกซ้อมครั้งแรกหลังเดินทางถึงจังหวัดสงขลาเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนทำศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2567 ได้ลงฝึกซ้อมหนแรก ที่ สนามกีฬามหาวิทยาลัยสงขลาศรีนครินทร์  โดยในการฝึกซ้อมครั้งนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำผู้เล่น 22 คน ลงฝึกซ้อมเพื่อปรับสภาพร่างกาย ด้าน ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จะตามสมทบกับทีมในลำดับต่อไป

 ก่อนการฝึกซ้อม เอเลียส ดอเลาะ กองหลังทีมชาติไทย กล่าวว่า "ผมดีใจมากครับ ที่คิงส์ คัพ ปีนี้ มาแข่งที่สงขลา ผมมีครอบครัว เพื่อนๆ และคนสนิทที่ภาคใต้ ผมอยากเชิญชวนทุกคนมาช่วยเราคว้าแชมป์ คิงส์ คัพ ในปีนี้ ในส่วนของฟอร์มการเล่นตอนนี้ถือว่าดี ทั้งส่วนตัวทำผลงานได้ดี แต่มีความตื่นเต้นเหมือนกันที่ได้กลับมาเล่นที่สงขลาอีกครั้ง"

 "ฟิลิปปินส์ คู่แข่งทีมแรก เรารู้จักนักเตะของเขาหลายคน เพราะว่าหลายคนเล่นในไทยลีก รวมถึง อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และในอาเซียน เรารู้จักหลายคน เขามีคุณภาพที่ดี หลายคนมีประสบการณ์ในยุโรป  เขาเป็นทีมที่ดี แต่เราพร้อม เป้าหมายของเราคือต้องเอาชนะ และคว้าแชมป์มาครองให้ได้ ผมดีใจมากที่เห็นแฟนบอลจำนวนมากมาชมการฝึกซ้อมของเรา ขอบคุณที่ให้การต้อนรับเราอย่างดีที่สงขลา นี่เป็นโอกาสดี หลังจากที่เราได้ไปเก็บตัวที่กรุงเทพหลายครั้ง และนี่น่าจะเป็นครั้งแรกๆ ที่เราได้มาที่ภาคใต้"

 สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ทุกนัดจะแข่งขันที่สนามกีฬา ติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา โดยมีโปรแกรมการแข่งขัน มีดังนี้

 วันที่ 11 ตุลาคม 2567 

วันที่ 16.30 น.  ซีเรีย (92) พบ ทาจิกิสถาน (103)

วันที่ 20.00 น. ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ) (100) พบ ฟิลิปปินส์ (148)

 ผู้ชนะจะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2567 ส่วนผู้แพ้ก็จะแข่งขันกันในนัดชิงอันดับ 3 ในวันเดียวกันโดยมีกำหนดการดังนี้

วันที่ 16.30 น. รอบชิงชนะเลิศ อันดับ 3

วันที่ 20.00 น. รอบชิงชนะเลิศ

 โดยทุกนัดที่ทีมชาติไทย ลงทำการแข่งขันจะถ่ายทอดสดผ่านทาง ไทยรัฐ ทีวี HD ช่อง 32 และ Facebook,Youtube Changsuek Official



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport