5 ข้อน่าสนใจหลังทีมชาติไทยประกาศ 75 รายชื่อ

[ 1 ] หน้าใหม่มาเพียบ

   ใน 75 รายชื่อ มีถึง 24 คน ที่ยังไม่เคยลงสนามในนามทีมชาติชุดใหญ่ 

   บางรายนั้นอาจจะถูกเรียกมาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถูกเรียกติดทีม ขณะที่บางคนก็มีชื่อในโผ ทว่าก็หลุดในช่วงโค้งสุดท้าย

   สำหรับผู้เล่นที่ยังไม่เคยลงสนามให้ทัพช้างศึกเลย ประกอบไปด้วย

[ 2 ] การกลับมาของ สรรวัชญ์

   สรรวัชญ์ เดชมิตร หายหน้าไปจากทีมชาติไทย ไปเกือบๆ 3 ปี เต็ม โดยหนล่าสุดที่เขารับใช้ทัพช้างศึกคือ เอเชียน รอบสุดท้าย เมื่อปี 2019 ที่เอาชนะบาห์เรน ไปได้ 1-0

   กองกลางวัย 33 ปี ถือเป็นหนึ่งในนักเตะพรสวรรค์สูงของวงการลูกหนังสยามประเทศ เขามีจุดเด่นที่ทักษะอันเอกอุ บวกกับเซ้นส์ฟุตบอลที่เหลือร้าย ซึ่งมาพร้อมลูกจ่ายแบบ 'คิลเลอร์พาส' ที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ในชั่วพริบตา

   อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ฟุตบอลสมัยใหม่นั้นต้องใช้พละกำลังค่อนข้างสูง ทำให้ผู้เล่นในตำแหน่ง 'เพลย์เมเกอร์' แบบ สรรวัชญ์ ค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไป และนั่นเป็นที่ทำให้เขาหลุดจากทีมชาติไปพักใหญ่

   ทว่าการที่ทีมช้างศึกมีแม่ทัพใหญ่ที่ชื่อ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ซึ่งเป็นลูกพี่เก่าของมิดฟิลด์เชิงสูงคนนี้ จึงเชื่อได้ว่าเฮดโค้ชเชื้อสายเยอรมัน-บราซิล ย่อมมีคู่มือในการใช้งานลูกศิษย์จาก เคดะห์ แน่นอน

   แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขึ้นอยู่กับว่ากุนซือวัย 46 ปี จะเรียก สรรวัชญ์ ให้เป็น 1 ใน 23 คน ในทีมชุดนี้หรือไม่ เพราะคู่แข่งในตำแหน่งเดียวกันก็มีมากมายเหลือเกิน

[ 3 ] ผู้รักษาประตูมือ 1 จะเป็นใคร

   ใน 75 รายชื่อ มี 6 คน ที่อยู่ในตำแหน่งผู้รักษาประตู ไล่ตั้งแต่ ฉัตรชัย บุตรพรม (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), สมพร ยศ (เมืองทอง ยูไนเต็ด), สรานนท์ อุนอินทร์ (เชียงราย ยูไนเต็ด), ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) และ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล (ราชบุรี เอฟซี)

   แน่นอนว่ามือหนึ่งในปัจจุบันนั้น ฉัตรชัย ขับเคี่ยวกับ ศิวรักษ์ มาโดยตลอดในช่วงหลัง ทว่าเวลานี้ทั้งคู่ยังอยู่ในช่วงพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ ทำให้  อเล็กซานเดร โพลกิ้ง คงต้องคิดหนักแน่ๆ

   หากเทียบฟอร์มการเล่นในลีก เวลานี้ต้องยกให้ กัมพล จาก ราชบุรี ที่ยอดเยี่ยมมากๆ กับการทำ 6 คลีนชีต จาก 11 เกม ที่ลงเฝ้าเสา แถมยังเซฟลูกจุดโทษไปอีก 2 ครั้ง อีกต่างหาก

   ขณะที่ กิตติพงษ์ ซึ่งทำหน้าที่แทน ฉัตรชัย ที่ บีจี ปทุม ก็อยู่ในฟอร์มการเล่นระดับมาตรฐาน ไม่ผิดพลาด ทว่าเวลานี้ผลงานของต้นสังกัดนั้นค่อนข้างฝืด

   ส่วน สรานนท์ ที่ยึดมือหนึ่งของ เชียงราย ได้ในฤดูกาล 2022-23 อาจจะโดนทะลวงตาข่ายไป 10 ประตู แต่เขาก็ทำได้ถึง 5 คลีนชีต จาก 11 นัดที่ลงสนาม

   ด้านคนสุดท้ายอย่าง สมพร ที่อาจจะเสียไป 15 ลูก ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในจำนวน 6 คน ที่อยู่ในโผช้างศึก ทว่าผลงานส่วนตัวของจอมหนึบชาวกำแพงเพชร นั้นจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดี 

   ดังนั้นพื้นที่ผู้รักษาประตู จึงเป็นตำแหน่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าสุดท้ายแล้ว โพลกิ้ง จะเลือกใครให้ติดทีมไปบ้าง

[ 4 ] ตัวแทน ชนาธิป

   ปฏิเสธไม่ได้ว่า ชนาธิป สรงกระสินธ์ คือผู้เล่นที่ทัพช้าง จะขาดเสียไม่ได้ เพราะเขาคือนักเตะประเภท 'แมตช์ วินเนอร์' ที่สามารถพลิกเกมได้ในเสี้ยววินาที อีกทั้งยังเป็นผู้เล่นที่เข้าขารู้ใจกับเพื่อนร่วมทีมเป็นอย่างดี

   อย่างไรก็ตาม เพลย์เมเกอร์จาก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ไม่ได้อยู่ในทีมชุดนี้ ดังนั้นตำแหน่ง 'กองกลางตัวรุก' จึงเป็นจุดที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ต้องเฟ้นหาคนที่ดีที่สุดมาทำหน้าที่แทน

   จาก 75 รายชื่อ มีผู้เล่นที่เข้าข่ายอยู่หลายราย ไม่ว่าจะเป็น วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), ปกเกล้า อนันต์ (แบงค็อก ยูไนเต็ด), ศิวกรณ์ เตียตระกูล (เชียงราย ยูไนเต็ด), สุมัญญา ปุริสาย (ชลบุรี เอฟซี), สรวิทย์ พานทอง (โปลิศ เทโร เอฟซี) และ สรรวัชญ์ เดชมิตร (เคดะห์, มาเลเซีย)

   หรือจะกลุ่มที่โดยปกติจะอยู่ด้านข้าง แต่ก็สามารถหุบเข้ามาเล่นตรงกลางได้ นำโดย สุภโชค สารชาติ (คอนซาโดเล่ ซัปโปโร, ญี่ปุ่น) ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), เบนจามิน เดวิส (การท่าเรือ เอฟซี), เอกนิษฐ์ ปัญญา (เมืองทอง ยูไนเต็ด) และ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (ชลบุรี เอฟซี)

   แม้แต่ ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งเป็นศูนย์หน้าธรรมชาติ แต่เขาก็ขยับลงมายืนเล่นเป็นเพลย์เมเกอร์ได้เช่นกัน

   ตำแหน่งนี้ถือว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะคนที่ยืนอยู่หลังแนวรุก จะเป็นนักเตะที่มีบทบาทสร้างสรรค์โอกาสให้กับทีม ดังนั้น 'ตัวแทน ชนาธิป' จึงเป็นอีกสิ่งที่ โพลกิ้ง คงต้องเลือกให้ดีๆ เนื่องจากมันส่งผลต่อการแข่งขันได้เลยทีเดียว

[ 5 ] แบ็กขวาน่าสนใจ

   ทั้ง 75 รายชื่อมีผู้เล่นในตำแหน่ง 'แบ็กขวา' ติดเข้ามาถึง เริ่มจาก ทริสต็อง โด (แบงค็อก ยูไนเต็ด) กับ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (การท่าเรือ เอฟซี) ที่อยู่ในทีมของ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง มาอย่างสม่ำเสมอ 

   ขณะที่หน้าใหม่อย่าง นาคิน วิเศษชาติ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด), ธิติ ทุมพร (ลำพูน วอร์ริเออร์ส) นั้นเพิ่งถูกเรียกมาเป็นหนแรก

   น่าเสียดายที่ไร้ชื่อของ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ซึ่งจองตำแหน่งนี้มาโดยตลอดในขวบปีหลัง เช่นเดียวกับ ฟิลิป โรลเลอร์ ที่พักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ 

   ไม่เช่นนั้นการขับเคี่ยวกันในตำแหน่งฟูลแบ็กฝั่งขวาจะเป็นอะไรที่สนุกมากๆ

   อย่างไรก็ตาม คนที่น่าสนใจที่สุดคือการถูกเรียกเข้ามาของ นิโคลัส มิคเคลสัน กองหลังจาก โอบี โอเดนเซ่ สโมสรในลีกสูงสุดของเดนมาร์ก ที่กำลังจะได้โชว์ผลงานให้ทีมชาติไทย ชุดใหญ่เป็นครั้งแรก

   แนวรับเชื้อสายนอร์เวย์ ทำผลงานได้โดดเด่นกับทัพช้างศึกชุดยู-23 ในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์เอเชีย เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา จนทำให้หลายเสียงเรียกร้องให้ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง เรียกตัวได้แล้ว

   มิคเคลสัน เป็นแบ็กขวาตัวจริงของ โอเดนเซ่ ซึ่งปัจจุบันรั้งอยู่อันดับ 4 ของลีกเดนมาร์ก และก็ครองตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ซีซั่นที่ผ่านมา ด้วยมาตรฐานการเล่นที่สม่ำเสมอ 

   ในเมื่อฝั่งซ้ายมี ธีราทร บุญมาทัน ที่คลาสบอลระดับทวีป ฟากขวาเป็น มิคเคลสัน ซึ่งผ่านประสบการณ์ในลีกเดนมาร์ก มาพอตัว มันจึงทำให้แนวรับของทีมชาติไทย ดูมีสง่าราศีอีกหลายเท่าตัว