โต้ประเด็นดราม่า!กองหน้า ทีมชาติไทย U17 แจงหลังโดนจวกเล่นเห็นแก่ตัว

โต้ประเด็นดราม่า!กองหน้า ทีมชาติไทย U17 แจงหลังโดนจวกเล่นเห็นแก่ตัว
"ศิวกร พลสรรค์" กองหน้า ทีมชาติไทย U17 ตอบประเด็นดราม่าที่เพื่อนร่วมทีมเลือกยิงเองหลายจังหวะ ทำให้โซเชียลรุมจวก เล่นเห็นแก่ตัวเกินไป โดยเจ้าตัวระบุว่า "ผมไปซัพพอร์ตเพื่อนร่วมทีมช้าเกินไป จนทำให้เพื่อนต้องเลือกยิงเอง"

ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย U17 ปี ที่ผ่านการลงสนามเกมแรกในศึก ASEAN U16 Boys' Championship Indonesia 2024 ที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ โดยเกมแรกในสายซี ทีมชาติไทย U17 ปี เสมอ ออสเตรเลีย 0-0 ท่ามกลางกระแสทักท้วงจากแฟนบอลโซเชียลที่ติดตามการถ่ายทอดสดที่ต่างมองเป็นเสียงเดียวกันว่า มีนักเตะเกมรุกของไทยบางรายมักไม่ค่อยส่งในเพื่อนทำประตู โดยส่วนใหญ่เลือกจะยิงเองอย่างเดียว ซึ่งไทยมีโอกาสชนะออสเตรเลียหากบางจังหวะมีการส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้ทำประตู 

ทางด้าน ศิวกร พลสรรค์ กองหน้าทีมชาติไทย U17 ที่ใส่เสื้อเบอร์ 17 ได้กล่าวในช่วงก่อนการซ้อมเตรียมทีมลงเล่นนัดที่สองที่จะพบ ติมอร์ เลสเต้ ในวันพุธที่ 26 มิ.ย.67 ว่า

"สำหรับเกมแรกตัวผมก็รู้สึกว่ายังเล่นได้ไม่ดี ก็ต้องพยายามปรับแก้ ในการหาจังหวะเข้าทำให้ได้มากกว่านี้ ซึ่งผมเชื่อว่าเกมแรก มันยากเสมอ ความกดดันตอนนี้ก็กดดันน้อยลง"

"เกมเมื่อวานเรื่องสภาพร่างกายก็แม้สถิติจะออกมาวิ่งเยอะสุด ที่ 10 กิโลเมตร แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นการวิ่งไล่บอล ก็ต้องพยายามวิ่งให้เป็นประโยชน์กว่านี้ และยังมีตะคริวในช่วงท้ายเกมก็ต้องพยายามปรับสภาพร่างกายให้ดีกว่านี้ เกมต่อไป เราก็ต้องห้ามประมาท และต้องพยายามเอาชนะ และพยายามเปลี่ยนโอกาสเป็นประตูให้ได้มากที่สุด เราต้องพยายามช่วยกันเล่น"

"ก็ต้องยอมรับว่าเราต้องเล่นเกมรุกให้ดีกว่านี้ และพยายามให้กำลังใจเพื่อนร่วมทีมกันเพื่อช่วยเหลือกัน ผมคิดว่าทุกคนก็ทำได้ดีนะ เราทุกคนเข้าใจกัน อาจจะมีการตัดสินใจกัน ผมมองไปที่ตัวเองมากกว่า ว่าผมเองก็ไปซัพพอร์ตเพื่อนร่วมทีมช้าเกินไป จนทำให้เพื่อนต้องเลือกยิงเอง เราก็จะพยายามทำเต็มที่เพื่อที่จะเข้ารอบต่อไปให้ได้ ก็ฝากแฟนบอลเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ"

สำหรับ  ทีมชาติไทย U17 จะทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี นัดที่สอง พบกับ ติมอร์ เลสเต ที่ ศรีเวดารี สเตเดียม ในวันที่ 26 มิถุนายน 2567 เวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสด ทาง เฟซบุ๊ค และ ยูทูป ของ FA Thailand และ ช้างศึก


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport