ฟุตบอลโลก 2030 : ผังช้างศึกนิวเจน! อีก 5 ปี ทีมชาติไทย จะไปบอลโลกได้หรือไม่?

ผู้รักษาประตู: ปฏิวัติ คำไหม (34 ปี)

ในรอบคัดเลือกหนหน้า ปฏิวัติ จะอายุ 34 ปี ซึ่งถือเป็นวัยปกติสำหรับตำแหน่งนายด่านปราการสุดท้าย และถ้าเขาสามารถรักษามาตรฐานของตนเอง รวมถึงต่อยอดฝีมือไปเรื่อยๆ รับประกันเลยว่ายังไงมือหนึ่งช้างศึกก็จองยาวๆ 

แบ็กขวา: นิโคลัส มิคเคลสัน (29 ปี)

ด้วยวัย 24 ปี ในปัจจุบัน บวกกับฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม มิคเคลสัน คงจะรับสัมปทานตำแหน่งแบ็กขวาแบบยาวๆ โดยมี วาริส ชูทอง, สุขสันต์ บุญตา และ เจมส์ เบอร์เรสฟอร์ด เป็นแคนดิเดตที่น่าจับตามอง

เซนเตอร์ฮาล์ฟ: ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ (28 ปี)

ตำแหน่งนี้มีผู้เล่นมากหน้าหลายตาที่แววดี ไล่ตั้งแต่ ชนภัช บัวพันธ์, ทรงชัย ทองฉ่ำ และ จักรพงษ์ แสนมะฮุง ที่สามารถพัฒนาไปได้ไกล ทว่าคนที่น่าสนใจที่สุดคือ ทรงวุฒิ จาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังดีวันดีคืน กระทั่งถูกรับเลือกให้ลงเล่นกับกิเลนผยองบ่อยครั้งในฤดูกาล 2023-24

เซนเตอร์ฮาล์ฟ: โจนาธาน เข็มดี (27 ปี)

ไม่มีใครกล้าปฏิเสธถึงความเก่งกาจของปราการหลังเชื้อสายเดนมาร์ก คนนี้ เขามีคุณสมบัติของการก้าวไปสู่การเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟชั้นยอด ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่ง, ดุดัน, สกัดหนักหน่วงและยังอ่านเกมได้เฉียบขาด หากพัฒนาตนเองแบบต่อเนื่อง ยังไงหมอนี่ก็จองตัวจริงทีมชาติแน่นอน

แบ็กซ้าย: ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (27 ปี)  

พอหมดยุคของ ธีราทร บุญมาทัน ทีมชาติไทย น่าจะต้องเฟ้นหานักเตะฝั่งซ้ายกันพอสมควร ซึ่งจริงๆ แล้วตำแหน่งนี้มีผู้เล่นที่น่าสนใจหลายราย ไล่ตั้งแต่ พลเอก มณีกร เจนเซ่น, ซาราลัมโปส ซาราลัมโปส รวมไปถึง เควิน ดีรมรัมย์ ที่เวลานั้นจะอายุ 31 ปี ทว่าถ้า ฉัตรมงคล ร่างกายฟิตสมบูรณ์และกลับมาเข้าร่องเข้ารอย เขาน่าจะเป็นตัวเลือกแรกที่จะมาแทนที่อดีตแชมป์ เจลีก 2019 ได้เช่นกัน

กองกลาง: ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร (29 ปี)

ทัพช้างศึกไม่เคยขาดแคลนกองกลางชั้นยอด และแน่นอนว่า ธนวัฒน์ คือหนึ่งในนั้น โดยปัจจุบันเขาอาจจะยังไม่อยู่ในโผทีมชาติ แต่ถ้าหมอนี่ฟิตปั๋งเมื่อไหร่ รับประกันเลยว่ายังไงก็จองตัวจริงแบบถาวรเลยล่ะ เพราะการเล่นที่ชาญฉลาด บวกด้วยสปีดบอลที่ว่องไว ซึ่งจะทำให้แผงมิดฟิลด์มีความไหลลื่นดูเพลินตาทีเดียว

กองกลาง: คคนะ คำยก (25 ปี)

เป็นอีกตำแหน่งที่เลือกยากมากๆ เพราะมีผู้เล่นเก่งกาจมากมาย ซึ่งแต่ละคนก็แตกต่างกันไป กฤษดา กาแมน ก็อยู่ในข่าย, อิรฟาน ดอเลาะ ก็โตขึ้นเรื่อยๆ, ลีออน เจมส์ ก็ดี, เสกสรรค์ ราตรี ก็กำลังรุ่งโรจน์, วีระเทพ ป้อมพันธ์ กับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ก็จะอายุ 30 ต้นๆ รวมไปถึงคนอื่นๆ อีกมากมาย ทว่าถ้าจะมองให้ลึกถึงความเปล่งประกาย ต้องยอมรับว่า คคนะ กำลังเจิดจรัสที่รั้ว ธันเดอร์โดม และเชื่อได้เลยว่าหมอนี่จะพัฒนาได้อีกเยอะ กระทั่งย้ายไปโลดแล่นในต่างประเทศเลยทีเดียว

กองกลางตัวรุก: ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (28 ปี)

รายชื่อนักเตะในตำแหน่งนี้มีหลายรายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เอกนิษฐ์ ปัญญา, ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท, ธนกฤต โชติเมืองปัก และอาจรวมไปถึง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่จะอายุ 35 เมื่อถึงปี 2029 แต่ผู้เล่นที่น่าจะสุกงอมที่สุดคงหนีไม่พ้น ชาญณรงค์ กับความแก่กล้าสามารถขึ้นในทุกๆ วัน โดยเฉพาะเซ้นส์ฟุตบอลอันร้ายกาจที่สามารถพลิกเกมได้ในชั่วพริบตา

กองหน้าฝั่งขวา: เอราวัณ การ์นิเยร์ (23 ปี)

นี่เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่เลือกยากไม่น้อย เพราะมีเด็กหนุ่มที่พร้อมจะสอดแทรกสู่ทีมชาติเสมอ ไม่ว่าจะเป็น อนันต์ ยอดสังวาลย์, สยาม แยปป์, วรากร ทองใบ, จิระพงษ์ พึ่งวีระวงศ์ แถม ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ก็สามารถขยับมายืนฟากขวาได้ด้วย แต่ถ้าใครเห็นฟอร์มของ เอราวัณ ในทัวร์นาเมนต์ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย ก็คงร้องเป็นเสียงเดียวว่ายังไงเขาก็ต้องเป็นตัวเลือกแรกแน่ๆ ทว่าต้องลุ้นให้เขาไม่ถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศส ชุดใหญ่ไปก่อนอีกต่างหาก

กองหน้า: ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (26 ปี)

เมื่อถึงเวลานั้น ศุภณัฏฐ์ จะอายุ 26 ซึ่งถือเป็นวัยที่กำลังพีกสำหรับผู้เล่นศูนย์หน้า แต่มีข้อแม้ว่าพี่แกต้องได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอในระดับสโมสร เพราะถ้ายังจำนวนนาทีน้อยนิดที่ โอเอช ลูเวิน เหมือนปัจจุบัน มีหวังพัฒนาการทางด้านฝีเท้าจะก้าวไปได้ไม่ไกลนัก โดยตำแหน่งนี้ยังมีชื่อของ ศุภชัย ใจเด็ด, ปรเมศย์ อาจวิไล, ธีรศักดิ์ เผยพิมาย และ ยศกร บูรพา ที่อยู่ในข่าย รวมไปถึง จู๊ด เบลล์ หัวหอก สเปอร์ส ที่มีเชื้อสายไทย ด้วยเช่นกัน 

กองหน้าฝั่งซ้าย: สุภโชค สารชาติ (31 ปี)

แม้ว่าเมื่อถึงเวลานั้น สุภโชค จะอายุ 31 แต่ด้วยร่างกายและความมันสมอง ยังไงเขาก็จะเป็นหนึ่งในแนวรุกทีมชาติไทย อย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องสปีดคงจะลดลงไปบ้าง แต่สิ่งที่เข้ามาแทนคือประสบการณ์กับจังหวะทีเด็ดทีขาดที่สามารถชี้ชะตาการแข่งขันได้ด้วยจังหวะเดียว