ชัยชนะเหนืออิรัก 2-0 ในเกมประเดิมทัวร์นาเมนต์ ยู-23 เอเชียน คัพ 2024 ของ ทีมชาติไทย ต้องยกเครดิตให้กับผู้เล่นและสตาฟฟ์โค้ช เพราะทุกคนทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างเยี่ยมยอด
เกมรับเหนียวแน่น, แดนกลางไหลลื่น, เกมรุกเฉียบขาด และที่สำคัญคือแท็กติกที่ อิสระ ศรีทะโร กุนซือช้างศึกวางไว้นั้นใช้งานได้ดีชะมัดยาด
เทรนเนอร์วัย 47 ปี รู้ดีว่าคู่ต่อสู้มีจุดเด่นที่เกมริมเส้นและจังหวะสวนกลับ เขาจึงไม่ปล่อยให้อิรัก มีโอกาสเข้าทำในพื้นที่อันตรายตลอดทั้ง 90 นาที
มันคือการทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย กระทั่งได้ผลลัพธ์ออกมาตามเป้าหมาย
3 คะแนนแรกของทัวร์นาเมนต์นั้นสุดสำคัญ เพราะจะทำให้เกมต่อๆ ไปไม่ต้องกดดันมากนัก ดังนั้นโอกาสที่จะทะลุถึงรอบ 8 ทีม สุดท้ายของไทย จึงมีเปอร์เซ็นต์สูงพอสมควร แต่ก็ต้องไม่ประมาท เพราะฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
นอกเหนือจากผลการแข่งขันสุดไฉไล ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ตรึงตราสยามชนคนทั้งประเทศคือฟอร์มของ เอราวัณ การ์นิเยร์ แนวรุกเชื้อสายฝรั่งเศส ที่เฉิดฉายจนหลายๆ ฝ่ายยกให้เป็น 'แมน ออฟ เดอะ แมตช์'
เด็กหนุ่มผู้เกิดและโตที่ลียง ซึ่งเจ้าตัวก็เข้ามาเป็นนักเตะเยาวชนของสโมสรประจำเมืองจนค่อยๆ พัฒนาฝีเท้ากระทั่งได้เล่นให้ทีมชุดเล็กทีละขั้น
แต่ด้วยความที่เก่งแบบก้าวกระโดด ปัจจุบันในวัย 18 เอราวัณ ถูกดันสู่ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แน่นอนว่าในยุคโลกาภิวัตน์ การเชื่อมกันระหว่างฟุตบอลย่อมขยับเข้ามาใกล้ชิดมากขึ้น ผลงานของดาวรุ่งจากลียง อยู่ในมอนิเตอร์ของบรรดาสตาฟฟ์ทีมชาติไทย ที่ปรารถนาจะได้ตัวมาร่วมทัพช้างศึก
ในที่สุด ยู-23 เอเชียน คัพ 2024 ก็เป็นทัวร์นาเมนต์แรกของ เอราวัณ กับบ้านเกิดของมารดาจึงได้บรรจบกันสักที
เขาคือหนึ่งเดียวจาก 21 ขุนพลที่ค้าแข้งอยู่นอกประเทศ และแม้จะลัดฟ้าจากฝรั่งเศส สู่กาตาร์ ก่อนจะร่วมซ้อมกับเพื่อนๆ ได้เพียงสัปดาห์เดียว แต่ด้วยภาษาฟุตบอล มันทำให้เด็กหนุ่มวัย 18 ปรับตัวเข้ากับคนอื่นๆ ได้รวดเร็ว
ตลอดทั้ง 90 นาทีที่ อัล จานู๊บ สเตเดี้ยม - เอราวัณ ปั่นป่วนแนวรับอิรัก จนหัวหมุน แถมมีหลายๆ ครั้งที่ล่อหลอกกองหลังซะหลังแทบหัก ก่อนจะประสานงานกับเพื่อนๆ ได้ไหลลื่นเนียนตา กระทั่งทำไป 1 แอสซิสต์ด้วยการตักบอลจากกรบซ้ายไปฟากขวาให้ วาริส ชูทอง เบิกร่องให้ช้างศึก
จังหวะนั้นคือ 'คลาส' ล้วนๆ เพราะแวบเดียวที่สายตาเหยี่ยวเหลือบเห็นแบ็กขวาจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ขยับตัว เขาบรรจงวางบอลไปที่พื้นที่ว่างระหว่างแนวรับคู่ต่อสู้ ก่อนมันจะซึ่งประตูขึ้นนำในที่สุด
ไม่นับจังหวะอื่นๆ ที่ เอราวัณ โชว์สกิลลูกหนังอันเอกอุกับการเอาชนะในการดวลตัวต่อตัวได้ถึง 9 ครั้ง ทั้งยังบวกด้วยวิสัยทัศน์การเล่นที่กว้างไกลด้วยสถิติส่งบอลไปยังพื้นที่สุดท้ายกว่า 19 หน
จาก ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร มาจนถึง นิโคลัส มิคเคลสัน และล่าสุดก็คือเด็กหนุ่มจากลียง ที่ดูจะทำให้คอลูกหนังได้กระชุ่มกระชวยหัวใจ
เส้นทางยังอีกยาวไกล กับอายุเพียง 18 ยังมีสิ่งที่เขาต้องเรียนรู้อีกมากมายบนถนนฟุตบอลอาชีพที่เต็มไปด้วยผู้ที่ทะยานอยาก
รักษามาตรฐาน, พัฒนาตนเองอยู่เสมอ, ไม่หลงระเริงไปกับแสงสีที่สาดส่องและมุ่งหน้าอย่างตั้งใจ รับรองเลยว่าอนาคตอันเรืองรองจะคอยอยู่
ความหวังใหม่ทัพช้างศึก...เอราวัณ การ์นิเยร์