เคบียู สปอร์ต โพล เผยผลสำรวจ เรื่อง "ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ความหวังและโอกาสของทีมชาติไทย" เผยแฟนกีฬามองแม้ทีมชาติไทยจะทำผลงานได้ดีเข้าถึงรอบ 16 ทีมในศึกเอเชียนคัพ 2023 แต่กับโอกาสเข้ารอบต่อไปหรือรอบที่ 3 ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ยังไม่แน่ใจว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ เหตุมีโปรแกรมหนักต้องดวลกับเกาหลีใต้ ทั้งการบุกไปเยือน ในวันที่ 21 มี.ค.นี้ ก่อนกลับมาเล่นในบ้านวันที่ 26 มี.ค.นี้ ซึ่งผลแข่งขันทั้ง 2 เกมจะเป็นตัวชี้วัดว่าไทยจะมีโอกาสมากน้อยแค่ไหนในการเข้ารอบ
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต รายงานผลการสำรวจความคิดเห็นเรื่อง “ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ความหวังและโอกาสของทีมชาติไทย” ซึ่งในการสำรวจดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่นักฟุตบอลทีมชาติไทยจะลงสนามพบกับทีมชาติเกาหลีใต้ในรายการฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก รอบ 2 โซนเอเซีย วันที่ 21 และ 26 มี.ค.นี้
ทั้งนี้เพื่อเป็นการสะท้อนมุมมองตลอดจนสร้างการมีส่วนร่วมของแฟนกีฬาที่มีต่อความหวังและโอกาสของทีมชาติไทย KBU SPORT POLL (เคบียู สปอร์ต โพล) โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ร่วมกับหลักสูตรการบริหารนวัตกรรมการสื่อสาร คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตจึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง "ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ความหวัง และโอกาสของทีมชาติไทย"
สำหรับการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์และสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ระหว่างวันที่ 16-18 มี.ค. 2567 โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจข่าวสารทางการกีฬาซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,203 คน โดยแบ่งเป็นเพศชาย 705 คน คิดเป็นร้อยละ 58.60 เพศหญิง 498 คน คิดเป็นร้อยละ 41.40 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆโดยภาพรวมพบว่า
ความหวังและโอกาสในการเก็บชัยชนะเหนือเกาหลีใต้ ส่วนใหญ่ร้อยละ 28.90 ไม่แน่ใจ รองลงมาร้อยละ 22.06 มีโอกาสค่อนข้างมาก, ร้อยละ 18.00 มีโอกาสค่อนข้างน้อย, ร้อยละ 14.50 มีโอกาสมาก, ร้อยละ 12.18 มีโอกาสน้อย และร้อยละ 4.36 ไม่มีโอกาสเลย
ด้านความคาดหวังและโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย ส่วนใหญ่ร้อยละ 29.30 ไม่แน่ใจ รองลงมาร้อยละ 24.90 มีโอกาสค่อนข้างน้อย, ร้อยละ 20.58 มีโอกาสน้อย, ร้อยละ 16.10 มีโอกาสค่อนข้างมาก, ร้อยละ 6.80 มีโอกาสมาก และร้อยละ 2.32ไม่มีโอกาสเลย
ด้านปัจจัยที่นำไปสู่โอกาสและความสำเร็จ ส่วนใหญ่ร้อยละ 26.50 ศักยภาพและความสามารถของนักกีฬา รองลงมา ร้อยละ 25.72 ศักยภาพความและความสามารถของหัวหน้าผู้ฝึกสอน, ร้อยละ 18.46 ระยะเวลาในการเตรียมทีม, ร้อยละ 12.98 แรงเชียร์จากแฟนกีฬา, ร้อยละ 11.52 การสนับสนุนของสมาคมกีฬาฟุตบอล และอื่นๆร้อยละ 4.82
ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ที่ทีมชาติไทยจะพบกับทีมชาติเกาหลีใต้ ทั้ง 2 นัดนั้น หากพิจารณาถึงการมีส่วนร่วมหรือการสะท้อนมุมมองในมิติที่เกี่ยวข้องของแฟนกีฬาจะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ ไม่แน่ใจว่าทัพนักเตะไทยจะชนะเกาหลีใต้และผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายได้หรือไม่ ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะด้วยศักยภาพและดีกรีหรืออันดับโลกของทีมเกาหลีใต้เหนือกว่านักเตะไทยก็เป็นได้
ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาถึงผลงานของทีมชาติไทยผนวกกับฝีมือของ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนที่ได้ฝากผลงานไว้ในศึกเอเชียนคัพ 2023 กลับพบว่ากลุ่มตัวอย่างหรือแฟนกีฬาก็ยังเชื่อมั่นในระดับค่อนข้างมากว่าทีมชาติไทย ภายใต้ศักยภาพและความสามารถของนักกีฬาตลอดจนผลงานของหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมช้างศึกไทยก็มีโอกาสเก็บชัยเหนือคู่แข่งได้เช่นกันและเหนืออื่นใดการที่นักเตะทีมชาติไทยพบกับโสมขาวเกาหลีใต้ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการประกาศศักดิ์ดาเพื่อแย่งการเข้ารอบกันแล้ว ในทางกลับกันก็จะพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของหัวหน้าโค้ชจากแดนปลาดิบว่าฝีมือการทำทีมอยู่ในระดับที่จะส่งผลให้คอบอลไทยคาดหวังและมีความสุขกันมากน้อยแค่ไหนอีกทางหนึ่งด้วย