"มาดามแป้ง" ยุติบทบาททำหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติไทย ปิดฉาก 2 ปีครึ่ง หมดเงินอัดฉีดเฉียด 60 ล้านบาท ซิว 2 โทรฟี่อาเซียนใน 2 ครั้งติด ก่อนเดินหน้าลุยชิงตำแหน่งประมุขบอลไทยคนต่อไป ที่กำหนดเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้
นวลพรรณ ล่ำซำ เตรียมลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดใหญ่ อย่างเป็นทางการ หลังทัพ "ช้างศึก" เสร็จสิ้นภารกิจจอดป้ายไว้ที่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2567 โดย "มาดามแป้ง" เข้ามานั่งเก้าอี้ผู้จัดการทีมชาติไทย ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2564 ถือเป็นการปิดฉาก 2 ปีครึ่งในตำแหน่งดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ "มาดามแป้ง" หนึ่งในแคนดิเดตชิงนายกบอลไทย ได้ประกาศอำลาจากตำแหน่งประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 ในศึกฟุตบอลไทยลีก 1 ฤดูกาล 2023/24 นัดที่ 15 ที่สนามแพท สเตเดี้ยม เกมที่ "สิงห์เจ้าท่า" เปิดรังชนะ ราชบุรี เอฟซี 3-0 เพื่อเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567
โดยนับตั้งแต่ "มาดามแป้ง" เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์อาเซียน 2 สมัยติดต่อกันปี 2020 และปี 2022 โดยมีการเปลี่ยนการใช้กุนซือ 2 คน ประกอบด้วย มาโน่ โพลกิ้ง (แต่งตั้งวันที่ 28 กันยายน 2564) และมาซาทาดะ อิชิอิ (แต่งตั้งวันที่ 12 ธันวาคม 2566)
ทั้งนี้ ไฮไลท์สำคัญของ "มาดามแป้ง" คือการปลุกขวัญกำลังใจให้กับทัพนักเตะช้างศึก เพื่อยกระดับความสำเร็จ และสร้างความสุขให้กับแฟนบอลชาวไทย โดยตลอด 2 ปีครึ่งได้มีการอัดฉีดให้กับทีมชาติไทยตามที่เป็นข่าว ไปทั้งหมด 55,850,000 บาท ซึ่งยังไม่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกนอกสนามทั้งที่พัก, การเดินทาง และจิปาถะต่าง ๆ
สำหรับเงินอัดฉีดที่ นวลพรรณ ล่ำซำ จ่ายไปให้ทีมชาติไทย ประกอบด้วย แชมป์อาเซียนคัพ ปี 2020 และปี : 40 ล้านบาท, อุ่นเครื่องชนะ เนปาล 2-0, ชนะ ซูรินาม 1-0 : 1,350,000 บาท, เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก : 2 ล้านบาท, จบอันดับ 3 คิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ที่ จ.เชียงใหม่ : 2 ล้านบาท, เข้ารอบชิงชนะเลิศ คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 ที่ จ.เชียงใหม่ : 1 ล้านบาท, รองแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 ที่ จ.เชียงใหม่ : 5 แสนบาท, อุ่นเครื่องบุกชนะฮ่องกง : 1 ล้านบาท,คัดฟุตบอลโลก 2026 : 3 ล้านบาท และล่าสุดเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่กาตาร์ : 5 ล้านบาท