ทีมชาติไทย เจ๊าซาอุฯสุดเร้าใจ เข้ารอบไร้พ่ายแถมไม่เสียซิงชนอุซเบฯ

ทีมชาติไทย เจ๊าซาอุฯสุดเร้าใจ เข้ารอบไร้พ่ายแถมไม่เสียซิงชนอุซเบฯ
ไทยชุดโรเตชั่น สู้อย่างสมศักดิ์ศรี เสมอ ซาอุดิอาระเบีย แบบสนุกตื่นเต้น โดย VAR ริบประตูฝั่งละ 2 เม็ด ซึ่งจากการผลเสมอไร้สกอร์ ทำให้ "ช้างศึก" จบรอบแรกด้วยสถิติยอดเยี่ยม ไร้พ่ายแถมไม่เสียซิง มี 5 คะแนน ฉลุยในฐานะรองแชมป์กลุ่มพบ อุซเบกิสถาน ขณะที่ "เศรษฐีน้ำมัน" แชมป์กลุ่มที่มี 7 แต้มเข้าชน เกาหลีใต้ ต่อไป

ฟุตบอลเอเชียน คัพ รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ นัดสาม

วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม 2567

ซาอุดิอาระเบีย 0-0 ทีมชาติไทย


การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ประจำวันพฤหัสบดีที่ 25 ม.ค.2567 เป็นเกมในกลุ่ม เอฟ นัดที่ 3 ที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดี้ยม, เมืองอัล เรย์ยาน ระหว่าง ซาอุดิอาระเบีย ทีมอันดับ 56 ของโลก พบกับ ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 113 ของโลก 

โดยทัพ "ช้างศึก" ที่มี 4 แต้ม (ผลต่าง +2) หากชนะ "เศรษฐีน้ำมัน" จะเข้าเป็นแชมป์กลุ่มไปดวล เกาหลีใต้ หากเสมอจะเป็นอันดับ 2 ไปพบ อุซเบกิสถาน แต่ถ้าแพ้ และโอมาน (ก่อนลงสนามมี 1 แต้ม ผลต่าง -1) ชนะ คีร์กีซสถาน และหากผลต่างประตูได้เสีย ไทย เป็นรอง ไทย จะจบอันดับ 3 ไปพบ อิรัก ซึ่งเกมนี้ "มาซาทาดะ อิชิอิ"  กุนซือทีมชาติไทยจัดการโรเตชั่นยกชุด

ด้าน "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ที่ให้กำลังใจแข้งช้างศึกจากประเทศไทย ได้โฟนอินมาระหว่างประชุมทีม พร้อมประกาศอัดฉีดแต้มละ 1 ล้านบาทอีกครั้ง หลังจาก 2 เกมที่ผ่านมาทั้งชนะ คีร์กีซสถาน 2-0 และเสมอ โอมาน 0-0 ได้อัดฉีดให้กับทัพนักเตะทีมชาติไทยไปแล้ว 4 ล้านบาท

รายชื่อผู้ตัดสิน : คิม ฮี-กอน (เกาหลีใต้) ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 : ยุน แจยอล (เกาหลีใต้), ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 : ปาร์ค ซัง-จุน (เกาหลีใต้), ผู้ตัดสินห้อง VAR : คิม จอง-ฮยอก (เกาหลีใต้), ผู้ช่วย AVAR : โค ฮยอง-จิน (เกาหลีใต้)

เริ่มเกมมา น.10 ผู้ตัดสิน คิม ฮี-กอน หยุดเกมเพื่อวิ่งไปดูจอ VAR ด้วยตัวเอง จากจังหวะที่ สุพรรณ ทองสงค์ เหมือนไปย่ำเท้าใส่ อับดุลราห์มาน อับดุลลาห์ การีฟ ล้มลงในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าให้ ซาอุดิอาระเบีย ได้จุดโทษในจังหวะนี้ ทว่า อับดุลลาห์ ฮาดี ราดิฟ กองหน้าดาวรุ่งวัย 21 ปี ดันยิงลูกจุดโทษไปติดเซฟ สรานนท์ อนุอินทร์ พลาดโอกาสขึ้นนำทีมชาติไทยอย่างน่าเสียดาย

น.15 ทีมชาติไทย ส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว จากจังหวะที่ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ปาดบอลจากฝั่งขวาเข้ามาในเขตโทษ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โฉบเข้ามาโหม่งตอร์ปิโด ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย ทว่าถูกผู้กำกับเส้นยกธงให้เป็นจังหวะล้ำหน้าของ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย

แต่นาทีต่อมา ซาอุดิอาระเบีย เกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ อับดุลลาห์ ฮาดี ราดิฟ กองหน้าคนเดิมที่ยิงจุดโทษไม่เข้า ได้โอกาสยิงเหน่ง ๆ ส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว แต่ก็ถูกจับล้ำหน้าไปก่อนเช่นกัน

น.27 สรานนท์ อนุอินทร์ มือกาวทีมชาติไทย ได้ออกมาแรงเซฟอีกครั้งจากจังหวะที่ ซาเลม อัล-ดอว์ซารี่ พาบอลตะลุยขึ้นมาตรงกลางหน้าเขตโทษ ก่อนตะบันด้วยขวาเต็มข้อ แต่ถูกนายด่านจากสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ยังยืนตำแหน่งได้ดีทุบบอลทิ้งออกหลังไว้ได้

น.35 ทีมชาติไทย พลาดได้ประตูออกนำอีกแล้วเมื่อ สันติภาพ จันทร์หง่อม เปิดจากฝั่งซ้ายเข้ามาในเขตโทษ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โหม่งชงมาให้กับ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ยิงหนีมือ ราเกด อัลนัจจาร์ ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ทว่าผู้กำกับเส้นยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าอีกครั้ง ซึ่งหากดูจากภาพช้า วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าชัดเจนก่อนยิงประตู

ช่วงท้ายครึ่งแรกไม่มีสกอร์เพิ่ม ก่อนจบ 45 นาทีแรก ทีมชาติไทย ยังเสมอ ซาอุดิอาระเบีย 0-0 ส่วนอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน โอมาน ออกนำ คีร์กีซสถาน 1-0 หากจบแบบนี้ "ช้างศึก" จะเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ส่วนซาอุดิอาระเบียจะเป็นแชมป์กลุ่ม และโอมาน จะเป็นหนึ่งในอับดับ 3 ที่ดีที่สุด

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง น.57 ซาอุดิอาระเบีย ส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายเรียบร้อยจาก อับดุลราห์มาน อับดุลลาห์ การีฟ ที่หลุดขึ้นมาตั้งแต่ครึ่งสนาม ก่อนพาบอลลากเข้าไปยิง แต่ถูกผู้กำกับเส้นยกธงให้เป็นจังหวะล้ำหน้า ก่อนจะมีการเช็ก VAR เพื่อความชัวร์และเป็นจังหวะล้ำหน้าชัดเจน

น.59 ทีมชาติไทย ได้ลุ้นประตูเป็นครั้งแรกในครึ่งหลัง จากจังหวะที่ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ได้บอลทางฝั่งขวา ก่อนแตะบอลเข้าซ้ายและพยายามปั่นบอลโค้ง ๆ แต่บอลดันโค้งไม่พอหลุดออกหลังไป

หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม ซาอุดิอาระเบีย เสมอ ทีมชาติไทย 0-0 แบ่งกันไปทีมละหนึ่งแต้มจูงมือกันเข้ารอบต่อไป โดย "เศรษฐีน้ำมัน" มี 7 แต้มเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มไปดวล เกาหลีใต้ ส่วน "ช้างศึก" มีเพิ่มเป็น 5 แต้ม เข้ารอบเป็นอันดับ 2 ไปพบกับ อุซเบกิสถาน รองแชมป์กลุ่ม อี ซึ่งทั้งคู่จะลงเตะในวันอังคารที่ 30 ม.ค.นี้ 

ส่วนอีกคู่ในกลุ่ม เอฟ โอมาน เสมอ คีร์กีซสถาน 1-1 ทำให้ โอมาน มีแค่ 2 แต้ม ร่วงตกรอบเช่นเดียวกับ คีร์กีซสถาน ที่มีแต้มเดียว

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย : ราเกด อัลนัจจาร์ (ผู้รักษาประตู), ฟาวาซ อัล ยามิ (โมฮาเหม็ด คานโน แทน น.79), อัน อัล-ซาลูลี่, อาลี อัลเบเลฮี, มุคทาร์ อาลี (ซาเลห์ อัล-เชห์รี่ แทน น.87), ซาเลม อัล-ดอว์ซารี่, ฮัสซัน คาเดช (ทาลาล ฮาจิ แทน น.64), อับดุลลาห์ อัล-ไคบารี, อับดุลราห์มาน อับดุลลาห์ การีฟ, อับดุลลาห์ ฮาดี ราดิฟ (นัสเซอร์ อัลเดาซารี แทน น.64), ไฟซาล อัลกัมดี (โมฮัมเหม็ด อัล เบรอิก แทน น.64)

ทีมชาติไทย : สรานนท์ อนุอินทร์ (ผู้รักษาประตู), จักพัน ไพรสุวรรณ, สุพรรณ ทองสงค์, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, สันติภาพ จันทร์หง่อม, กฤษดา กาแมน (วีระเทพ ป้อมพันธุ์ แทน น.65), สารัช อยู่เย็น, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี แทน น.74), ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว แทน น.88), เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ (รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก แทน น.88), ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (ศุภชัย ใจเด็ด แทน น.74)



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport