5 ข้อ! ทีมชาติไทย บุกเก็บ 3 แต้มสำคัญจาก สิงคโปร์

5 ข้อ! ทีมชาติไทย บุกเก็บ 3 แต้มสำคัญจาก สิงคโปร์
ทีมชาติไทย กลับมาเก็บ 3 คะแนน ได้อีกครั้ง กับการบุกคว้าชัยเหนือสิงคโปร์ ถึงถิ่น อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายสิ่งอย่างที่ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องนำไปแก้ไขกันต่อ และนี่คือสิ่งที่ 'SIAMSPORT' อยากแชร์ให้คุณได้อ่านกัน!!

[ 1 ] จัดทัพโดนใจ

   อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ถูกโจมตีอย่างหนักในเรื่องการจัด 11 ตัวจริงที่ในทำนองว่า 'เกรงใจ' ใครหรือเปล่า เพราะมีผู้เล่นบางรายในเกมแพ้จีน 1-2 ที่ถูกมองว่าบรรจุสู่ไลน์-อัพด้วยความเป็นลูกรัก

   ในเมื่อกระแสถาโถมอย่างหนักหน่วง ด้วยเหตุนี้เอง ผังนักเตะชุดแรกในการเผชิญหน้าสิงคโปร์ จึงออกมาค่อนข้างถูกใจแฟนๆ ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูที่ให้โอกาส กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล ลงเฝ้าเสา 

   แนวรับ สุพรรณ ทองสงค์ ซึ่งเป็นตัวจริงในสโมสร แต่กลับถูกหั่นชื่อเอาดื้อๆ ก็ได้ออกสตาร์ตตั้งแต่วินาทีแรก รวมไปถึง เอเลียส ดอเลาะ ที่ได้รางวัลจากการไปทำผลงานดีที่ยุโรป สักที

   ส่วนแดนบน ถือเป็นจุดที่ โพลกิ้ง เลือกนักเตะได้เจ๋งที่สุด เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าตำแหน่งที่ดีที่สุดของ สุภโชค สารชาติ นั้นต้องอยู่ทางฝั่งซ้าย แต่ก่อนหน้านี้กลับใช้แข้ง คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ยืนอยู่ฟากขวา และผลที่ออกมาก็อย่างที่ทุกคนเห็นว่ามันไม่เวิร์คเอาเสียเลย

   ว่าแล้ว แนวรุกชาวศรีสะเกษ จึงได้เล่นเป็นแนวรุกริมเส้นด้านซ้ายตามถนัด เช่นเดียวกับ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริง ซึ่งทั้งคู่ก็ประสานงานจนมาซึ่งประตูแรกของเกมกับสิงคโปร์

[ 2 ] ชนะได้ แต่รูปเกมไม่สวยงาม

   ในเมื่อตั้งเป้าไว้ถึงระดับโลก สิ่งที่ต้องทำให้ได้เป็นสิ่งแรกคือ 'ก้าวข้ามอาเซียน' ทว่าตลอดทั้ง 90 นาที ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ไทย กลับเล่นได้สูสีกับเจ้าถิ่น ซึ่งนั่นบ่งบอกได้ชัดเจนเลยว่าทัพช้างศึกยังคงต้องวนเวียนอยู่ในละแวกนี้

   ตอนที่ขึ้นนำก่อน 1-0 รูปเกมของไทย ดูเหนือกว่าชัดเจน แต่พอเสียประตูตีเสมอเท่านั้นแหละ ภาพเดิมๆ ก็หวนคืนมาอีกครั้ง

   การจ่ายบอลสะเปะสะปะ แผงมิดฟิลด์เก็บจังหวะสองไม่ได้ มันเลยเถิดไปถึงแดนหน้าที่ต้องเหงาเงียบ พอเป็นแบบนี้ ก็เลยถูกสิงคโปร์ บุกกดดัน ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเกิดขึ้นกับทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน 

   ยังดีที่มาตรฐานของขุนพลแห่งดินแดนสุวรรณภูมิสูงกว่าเจ้าบ้านบานเบอะ บวกกับความเฉียบขาดในพื้นที่สุดท้าย มันจึงทำให้เราสามารถเก็บ 3 คะแนน ออกมาได้สำเร็จ

[ 3 ] ธีรศิลป์ คือข้อแตกต่าง

   ในสถานการณ์ที่ตีบตัน ธีรศิลป์ แดงดา ยังคงเป็น 'ฮีโร่' สำหรับทีมชาติไทย ได้เสมอ เพียงสัมผัสบอลครั้งแรกในนาทีที่ 68 เขาก็สร้างความแตกต่างได้ทันที

   อดีตศูนย์หน้า อัลเมเรีย ไม่ได้สัมผัสเกมการแข่งขันเลยนับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม หรือเดือนกว่าๆ ที่หัวหอกวัย 35 ปี ต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บ แต่ด้วยความที่เป็น 'ความหวังของชาติ' เจ้าตัวจึงถูกเรียกให้เป็นหนึ่งในสมาชิกของทัพช้างศึกชุดนี้

   2 ประตู ที่ไทย ยิงขึ้นนำสิงคโปร์ ก็มาจากเซ้นส์ฟุตบอลที่เหลือร้ายของเพชฌฆาตจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับการจ่ายบอลแบบคิลเลอร์พาสให้ ศุภณัฐฎ์ เหมือนตา ยิงแซง ก่อนจะตามมาติดๆ อีกครั้งในนาทีที่ 87 

   ธีรศิลป์ เป็นแสงสว่างของทีมชาติไทย อย่างแท้จริง แต่ในมุมกลับกัน ด้วยอายุที่เพิ่มพูน เวลาที่เขาจะโลดแล่นอยู่บนฟลอร์หญ้าเหลืออีกไม่กี่ปี และวินาทีนี้ ก็ยังไม่เห็นศูนย์หน้าคนไหนในสยามประเทศที่จะมาแทนที่หมอนี่ได้เลย

   หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ บางทีทัพช้างศึกก็คงจะต้องวนเวียนอยู่ในละแวกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เปลี่ยนแปลง

   

[ 4 ] ค้าแข้งต่างแดนยกระดับจริงๆ 

   11 ผู้เล่นตัวจริง มีนักเตะ 4 คน ที่ค้าแข้งในต่างแดน ไล่ตั้งแต่ เอเลียส ดอเลาะ (บาหลี ยูไนเต็ด, อินโดนีเซีย), สุภโชค สารชาติ (คอนซาโดเล่ ซัปโปโร, ญี่ปุ่น), เอกนิษฐ์ ปัญญา (อุราวะ เร้ด ไดม่อนด์ส, ญี่ปุ่น) และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (โอเอช ลูเวิน, เบลเยียม)

   อาจจะรวมไปถึง ธีราทร บุญมาทัน ที่เคยได้แชมป์ เจลีก ด้วยอีกราย

   แม้ว่า บาหลี ยูไนเต็ด ของ เอเลียส จะมาตรฐานด้อยกว่า ไทยลีก แต่คนอื่นๆ ไม่ว่าจะ สุภโชค, เอกนิษฐ์ และ ศุภณัฏฐ์ นั้นโลดแล่นในลีกที่แข็งแกร่งกว่าสยามประเทศ

   สิ่งที่พวกเขาแสดงออกมาในสนามบ่งบอกได้ชัดเจนถึง 'พัฒนาการ' ในทิศบวก โดยเฉพาะสองนักเตะจาก เจลีก ที่ดูเติบโตขึ้นเรื่อยๆ

   สุภโชค กับ เอกนิษฐ์ อาจจะถูกวางตำแหน่งให้อยู่แดนบนก็จริง แต่หลายต่อหลายจังหวะพวกเขาทั้งสองคนก็ลงมาช่วยเกมรับแบบไม่มีอิดออด ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ติดตัวมาจากการซึมซับแท็กติกที่ญี่ปุ่น 

   ขณะที่ ศุภณัฏฐ์ ซึ่งอาจจะยังไม่มีจำนวนเกมมากนักที่ โอเอช ลูเวิน แต่จังหวะการทำประตูของหมอนี่ก็ดูฉลาดขึ้น แถมร่างกายก็กำยำกว่าเก่าก่อน ขาดเพียงเรื่องของการตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายเท่านั้นที่ดูขัดๆ เขินๆ นอกนั้นมาดีหมดแล้ว

   การมีนักเตะส่งออกไปลีกที่มาตรฐานสูงกว่า ทำให้เป็นประโยชน์ต่อทีมชาติจริงๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องวางโครงสร้างเยาวชนในระยะยาว เพื่อให้มีนักเตะดาวรุ่งเติบใหญ่ในอนาคต เพราะถ้าหวังจะเจอ 'เพชร' อย่างเดียว คงไม่มีทางไปไกลกว่านี้แน่นอน

[ 5 ] ขอบคุณ โพลกิ้ง

   แม้ว่าจบการแข่งขัน ไทย จะเอาชนะสิงคโปร์ ได้ตามเป้าหมาย ทว่าสีหน้าของ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง กุนซือทัพช้างศึกนั้นดูจะเคร่งเครียดไม่น้อย โดยมีการจับตาดูปฏิกริยาของเขาว่าไม่ได้เฮฮาทั้งที่ทีมชนะ แถมยังมีน้ำตา และเดินจับมือลูกทีมคล้ายเป็นการบอกลา

   เฮดโค้ชเชื้อสายบราซิล-เยอรมัน คงจะรู้สึกกดดันกับกระแสต่างๆ ที่ถาโถม เพราะนับตั้งแต่การไปทัวร์ยุโรป ด้วยชุดผู้เล่นที่ 'ไม่เต็มสูบ' ต่อด้วยปราชัยต่อจีน คาบ้านตนเอง - เสียงวิพากษ์-วิจารณ์กระหน่ำมาที่เขาไม่เว้นแต่ละวัน

   อย่างไรก็ตาม หากมองให้ลึกถึงแก่นแท้ของ 'ปัญหา' บางที โพลกิ้ง อาจจะไม่ใช่ต้นตอของสาเหตุที่แท้จริงก็ได้ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้เช่นกันถึงความเกรงใจของเขาที่ส่งผลต่อทีมเหมือนกัน

   ทว่าแชมป์ อาเซียน คัพ 2 สมัย ก็น่าจะทำให้ความขุ่นเคืองของแฟนๆ ลดลงไปบ้าง โดยเฉพาะหนล่าสุดที่มีเวลาเตรียมทีมสุดแสนจะน้อยนิด แต่กลับพาช้างศึกป้องกันบัลลังก์ได้สำเร็จ 

   ไม่มีใครหรอกที่อยากเป็น 'ผู้แพ้' ตัวของ โพลกิ้ง ก็เช่นกัน เขามีอะดรีนาลีนยีนแห่งความกระหายชัยชนะอยู่เปี่ยมล้น เพียงแต่บางทีอาจจะโอนอ่อนเอียนตามเสียงกระซิบมากเกินไปจนหลายๆ อย่างสะท้อนออกมาในสนามนั่นเอง

   ไม่ว่าสุดท้ายตัวเขาจะลงเอยเช่นไร เราต้องขอ 'ขอบคุณ' ห้วงเวลา 2 ปี ที่มีทั้งสุขและเศร้าเคล้ากันไป และเชื่อเหลือเกินว่าเขาจะมีอนาคตที่สดใสอยู่ภายภาคหน้าอย่างแน่นอน


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport