10 สิ่งที่มี "โอกาส" เกิดขึ้นในเกม ทีมชาติไทย เจอ สิงคโปร์

10 สิ่งที่มี "โอกาส" เกิดขึ้นในเกม ทีมชาติไทย เจอ สิงคโปร์
จากความพ่ายแพ้ต่อจีน 1-2 ทำให้หลายๆ ฝ่ายออกมาวิพากษ์-วิจารณ์ผลงานของทีมชาติไทย ที่ชักจะดิ่งลงเหวลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม หนทางการเข้าสู่รอบต่อไปยังไม่หมดไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น "ความเปลี่ยนแปลง"จำเป็นจะต้องเกิดขึ้น

และนี่คือ 10 สิ่งที่ "SIAMSPORT" คิดว่าน่าจะมี "โอกาส" เกิดขึ้นกับทัพช้างศึกก่อนเจอสิงคโปร์

[ 1 ] กัมพล กลับมาเฝ้าเสา

แม้ว่าเกมนัดปราชัยต่อจีน 1-2 ปฏิวัติ คำไหม จะไม่ได้ก่อความผิดพลาดหรือผลงานไม่ตามเป้า แต่ผลพวงจากการทัวร์ยุโรป ที่ กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม น่าจะทำให้เขากลับมาเฝ้าเสานัดเผชิญหน้าสิงคโปร์ 

ผู้รักษาประตูชาวภูเก็ต ยังรักษามาตรฐานของตนเองไว้ได้อย่างต่อเนื่อง และด้วยวัยวุฒิ บวกกับฝีมือ ยังไงเสีย เขาก็ควรที่จะมีส่วนร่วมกับทีมชาติไทย ชุดฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย 

[ 2 ] สุพรรณ คืนทัพช้างศึก

ด้วยความที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ พรรษา เหมวิบูลย์ ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งอาจจะไม่ทันเกมกับสิงคโปร์ ทำให้มีที่ว่างสำหรับผู้เล่นใหม่เข้ามาทดแทน

ชื่อของ สุพรรณ ทองสงค์ ยังไงก็ต้องมาแน่ๆ เพราะนี่คือเซนเตอร์ฮาล์ฟชาวไทย ที่ฟอร์มเจิดจรัสที่สุดในลีก แต่กลับถูกหั่นออกจากทีมชุดเจอกับจีน แบบงงกันทั้งบาง

นอกจากจะบินไปสิงคโปร์ เผลอๆ กองหลังจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด คนนี้อาจจะได้ลงสนามทันทีด้วย เพราะเห็นๆ กันอยู่ว่า มานูเอล ทอม บีร์ห นั้นมีความเหวอพอสมควร แถมยังดวลลูกกลางอากาศแพ้นักเตะจีนเกือบทุกจังหวะอีกต่างหาก 

ดังนั้นถ้ายังทู่ซี้ใช้แนวรับลูกครึ่งเยอรมัน แบบต่อเนื่อง มีหวังคงได้เห็นเสียงแซ่ซ้องในทางลบแน่ๆ แต่ในทางกลับกัน หากให้โอกาส สุพรรณ ลงมาโชว์ฟอร์ม แฟนๆ ก็คงจะให้อภัยเช่นกัน

[ 3 ] แผงมิดฟิลด์ต้องมี วีระเทพ 

อีกหนึ่งนักเตะที่มาตรฐานอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติคือ วีระเทพ ป้อมพันธ์ ซึ่งเขาเองก็ติดทัพช้างศึกแบบต่อเนื่อง รวมถึงชุดที่ไปตะลุยยุโรป ด้วย แต่เกมคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 โซนเอเชีย กับจีน ดันไม่ได้เล่นซะอย่างนั้น

เข้าใจได้ว่า ปกเกล้า อนันต์ มิดฟิลด์เชิงสูงมีผลงานดีมากๆ กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด จึงได้โอกาสลงเล่นในนัดแพ้ขุนพลมังกร 1-2 ทว่าตำแหน่งจริงๆ ของเขาคือกองกลางตัวรุก หาใช่คนที่คอยยืนแปะบอลไป-มา ซึ่งพอใช้คนไม่ถูกจุด มันก็ไม่สามารถดึงศักยภาพของนักเตะออกมาใช้ได้สูงสุด

ดังนั้น แดนกลางในเกมดวลสิงคโปร์ จึงมีการปรับแน่ๆ และผู้ที่น่าจะมีโอกาสมากที่สุดคือ วีระเทพ นี่แหละ 

[ 4 ] เอกนิษฐ์ ออกสตาร์ตตัวจริง

ด้วยความที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ อาจจะต้องพักอยู่ข้างสนาม เนื่องจากได้รับบาดเจ็บมาจากแมตช์แพ้จีน ทำให้ตำแหน่งกองกลางตัวรุกต้องตกเป็นหน้าที่ของ เอกนิษฐ์ ปัญญา อย่างแน่นอน 

กองกลางที่ อุราวะ เร้ด ไดม่อนด์ส ยืมตัวมาจาก เมืองทอง ยูไนเต็ด กำลังไปได้สวยใน เจลีก เพราะได้เล่นเกมใหญ่ที่ญี่ปุ่น ติดๆ กัน ซึ่งมันส่งผลต่อความมั่นใจของนักเตะเต็มๆ และก็น่าเสียดายที่เขามีเวลาน้อยมากๆ ในนัดแพ้ต่อจีน ไม่เช่นนั้นเราอาจจะได้เห็นอะไรดีๆ กว่านี้ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อโอกาสมาแล้ว แฟนๆ ก็คงจะได้ยลฟอร์มของ เอกนิษฐ์ ที่จะทำหน้าที่สร้างสรรค์เกมอยู่หลังแนวรุก ซึ่งน่าจะมี สุภโชค สารชาติ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา คอยขนาบอยู่ด้านข้าง

[ 5 ] สุภโชค โยกฝั่งซ้าย

สุภโชค สารชาติ เติบใหญ่มาจากตำแหน่งศูนย์หน้า ก่อนที่จะขยับไปเล่นแนวรุกฝั่งซ้าย ตอนที่เลื่อนขึ้นมาเล่นให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดใหญ่ และแน่นอนว่ารวมไปถึงทีมชาติไทย ในช่วงแรกๆ ที่เขาก็มักจะถูกส่งลงสนามในบทบาทนี้

แน่นอนว่าฟากซ้ายได้กลายเป็น "จุดขาย" ของเด็กหนุ่มชาวศรีสะเกษ ไปแล้ว ภาพจำที่ผู้คนมักจะนึกถึงคือการลากเลื้อยตัดจากริมเส้น แล้วปั่นโค้งๆ เข้าประตู คือสิ่งที่เขาทำให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง หรือแม้แต่จังหวะทะลุทะลวงก็ทำได้ดีอยู่เสมอ

แต่ในยุค อเล็กซานเดร โพลกิ้ง นั้น สุภโชค มักจะถูกจับให้ยืนอยู่ฝั่งขวา และก็อย่างที่เห็นโดยทั่วกันว่าเขาไม่ได้แสดงแสนยานุภาพออกมาอย่างเต็มเหนี่ยวสักเท่าไหร่ บางเกมถึงถูกลักพาตัวหายไปจากการแข่งขันเลยเสียด้วยซ้ำ

ดังนั้น หากว่ากุนซือเชื้อสายบราซิล-เยอรมัน กล้าๆ ที่จะดร็อปหรือโยก บดินทร์ ผาลา แล้วให้ สุภโชค มาเล่นแทนในตำแหน่งนี้ เชื่อเลยว่าเราจะได้เห็นฟอร์มที่แท้จริงของแนวรุกจาก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร อย่างแน่นอน

[ 6 ] อาจจะถึงเวลาที่ บดินทร์ ต้องนั่งบ้าง

ผลงานของ บดินทร์ ผาลา อาจจะไม่ได้แย่หรือเสียหาย แต่ด้วยความที่ ณ ปัจจุบัน แนวรุกริมเส้นของทัพช้างศึกนั้นมีทั้ง สุภโชค สารชาติ รวมไปถึง เอกนิษฐ์ ปัญญา ซึ่งเล่นในลีกญี่ปุ่น ลีกที่มาตรฐานสูงกว่าไทย หลายเท่าตัว

ไม่นับรวม ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จาก โอเอช ลูเวิน ที่ก็กลายเป็นนักเตะริมเส้นไปแล้วอีกหนึ่งราย

การที่แนวรุกริมเส้นของไทย อุดมไปด้วยแข้งตัวจี๊ด แถมยังเล่นอยู่ต่างแดนมากถึง 3 คน ดังนั้นอาจจะต้องถึงเวลาที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ต้องกล้าๆ ที่จะให้ บดินทร์ นั่งอยู่ข้างสนาม เพื่อลองใช้อะไรใหม่ๆ ดูบ้างแล้ว

[ 7 ] ศุภชัย ค้ำหน้าเป้า

เกมที่พบกับจีน - ทีมชาติไทย ไม่มี ธีรศิลป์ แดงดา เนื่องจากสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ทำให้ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ได้ลงเล่นในฐานะศูนย์หน้าตัวเป้า แต่ผลที่ออกมานั้นดูไม่ค่อยจะเวิร์กเท่าที่ควร เพราะแนวรุกจาก โอเอช ลูเวิน เก็บบอลไม่ได้เลย

ด้วยเหตุนี้เอง ในเกมกับสิงคโปร์ โอกาสอาจจะไปตกที่ ศุภชัย ใจเด็ด ดาวซัลโว ไทยลีก 2022-23 ที่น่าจะรับบทหัวหอก โดยที่ ศุภณัฏฐ์ จะถูกโยกไปอยู่ฝั่งขวา ส่วนฟากซ้ายเป็นหน้าที่ของ สุภโชค สารชาติ

หากเป็นเช่นนี้จริงๆ จะทำให้เหมือนเป็นการรียูเนี่ยน 3 ประสานของ บุรีรัมย์ ชุดแชมป์ ไทยลีก 2021-22 ที่พวกเขาเฉิดฉายกันสุดๆ และมันน่าจะมาต่อเนื่องถึงทีมชาติเช่นกัน

 [ 8 ] บุกแหลกตั้งแต่นาทีแรก

ด้วยความที่เล่นได้ดี แต่กลับเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในเกมกับจีน ทำให้ทีมชาติไทย ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องบุกไปเอาชนะสิงคโปร์ ให้ได้เท่านั้น

เหตุนี้เอง ทัพช้างศึกจึงเตรียมเปิดโหมดเดินหน้าใส่เกียร์ห้าดาหน้าบุกตั้งแต่วินาทีแรกของการแข่งขัน พร้อมกับเป้าหมาย 3 คะแนนสถานเดียว 

[ 9 ] มุ่งมั่นเกินร้อย

จากความปราชัยต่อจีน จนกระแสต่างๆ เป็นไปในทางลบ และก็แน่นอนว่าเมื่อผลงานไม่เป็นไปตามเป้า ทีมชาติไทย จึงต้องทวีคูณความตั้งใจเพื่อตามหาชัยชนะ รวมถึงเรียก "ศรัทธา" กลับคืนมา

สิ่งที่จะทำให้ได้ 3 คะแนนจากสิงคโปร์ นั้นขอเพียงไม่ประมาทและมุ่งมั่นเพื่อแฟนๆ เพราะสิ่งที่นักเตะแสดงออกมาในสนามจะสะท้อนออกมาเอง

ทว่าด้วยความที่แพ้ตั้งแต่นัดประเดิมสนาม มันจึงทำให้ผู้เล่นไทย มีแรงจูงใจมากยิ่งขึ้น บวกด้วยมาตรฐานที่เหนือกว่าทัพเมอร์ไลอ้อนส์ พวกเขาน่าจะทุ่มเททุกอย่างที่มีเพื่อนำชัยชนะกลับสู่ดินแดนขวานทองให้ได้

[ 10 ] รวมใจไทยหนึ่งเดียว

แม้ว่าความพ่ายแพ้ต่อจีน คาบ้านตัวเองจะทำให้โอกาสเข้าสู่รอบที่ 3 ริบหรี่ลงเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่า "โอกาส" ของไทย จะหมดไปเสียทีเดียว เพราะยังเหลือเกมให้ชิงชัยอีก 5 นัด โดยเริ่มต้นจากสิงคโปร์ 

แน่นอนว่าการเผชิญหน้าเกาหลีใต้ ประตูแห่งชัยชนะแทบหาไม่เจอ แต่อย่างน้อยก็ต้องพยายามสู้ให้สุดใจไว้ก่อน แล้วค่อยไปวัดกับจีน ในเกมที่บุกเยือนดินแดนมังกร 

เขามาชนะเราได้ที่นี่ เราก็ไปชนะได้ที่บ้านของพวกเขาได้เช่นกัน

ผลงานของทัพช้างศึกในระยะหลังจะไม่เป็นไปดั่งหวัง ทว่าในฐานะประชาชนคนสยามประเทศ เราต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน วิจารณ์ได้ แต่ให้อยู่ในกรอบ เพราะถ้าเน้นที่จะโจมตีอย่างเดียว มันไม่ใช่หนทางที่ถูกครรลองเท่าไหร่

เกมกับสิงคโปร์ กลายเป็นนัดสุดสำคัญที่จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว ดังนั้นจึงต้อง 'รวมใจไทยหนึ่งเดียว' เพื่อรักษาโอกาสที่จะไปวัดกันในเกมต่อๆ ไป


ที่มาของภาพ : Siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport