5 ข้อหลังเกม ทีมชาติไทย ปราชัยคาถิ่นต่อจีน

5 ข้อหลังเกม ทีมชาติไทย ปราชัยคาถิ่นต่อจีน
ทีมชาติไทย ประเดิมสนามฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ได้อย่างน่าผิดหวัง หลังพ่ายแพ้ต่อจีน 1-2 ซึ่งทั้งก่อน, ระหว่างและหลังการแข่งขันมีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย

และนี่คือสิ่งที่ "SIAMSPORT" อยากแชร์ให้คุณได้อ่านกัน!! 

[ 1 ] เสียงโห่ระงมก่อนเกมการแข่งขัน

นี่คือเกมแรกในรอบเกือบๆ 5 ปี ที่ทีมชาติไทย ได้กลับมาใช้ ราชมังคลากีฬาสถาน แข่งขัน โดยหนล่าสุดที่ทัพช้างศึกได้เล่นที่นี่คือทัวร์นาเมนต์ อาเซียน คัพ 2018 ที่เสมอมาเลเซีย 2-2

แน่นอนว่าสนามแห่งนี้คือฟุตบอลสเตเดี้ยมที่เป็นหน้าเป็นตาของสยามประเทศ แต่ด้วยเหตุบางประการ ทำให้ต้องขยับปรับเปลี่ยนไปเล่นที่อื่นตามวาระ

อย่างไรก็ตาม การได้กลับมาสู่ ราชมังคลากีฬาสถาน อีกครั้ง มันทำให้แฟนฟุตบอลหลายๆ ท่านต้องหงุดหงิดกับการต่อแถวรอคิวเพื่อเข้าชมการแข่งขัน เพราะแทนที่จะเปิดประตูครบทั้ง 4 ฟากฝั่ง กลายเป็นมีเพียง "ทางเดียว" เท่านั้น 

ผู้ชมหลายหมื่นพันต้องรอเข้าสนามแบบเบียดเสียด ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อว่านี่คือ "ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก" หาใช่รายการเล็กๆ ที่ไร้คนสนใจ

เสียงโห่ระงมจึงก้องสะท้านบริเวณหน้าทางเข้า และแทนที่เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะช่วยจัดการ กลับเป็นเพียงคำอธิบายเรื่องโปรโมชั่นของการขายตั๋ว

มีไม่น้อยเลยทีเดียวที่กว่าจะได้เข้าไปยืนบนอัฒจันทร์ ก็นาทีที่ 30 ผ่านไปแล้ว ซึ่งถ้าเกมต่อๆ ไปยังเป็นเช่นนี้อยู่ รับรองเลยว่าแฟนฟุตบอลที่ตั้งใจมาชมเกมในสนาม จากหลักหมื่น จะเหลือเพียงพันเท่านั้น

[ 2 ] "ความศรัทธา" ยังไม่จางหาย

แม้จะไปอุ่นเครื่องแพ้จอร์เจีย เละเทะ 0-8 แถมยังยกพลเยือนด้วยผู้เล่นชุดผสมผสาน หาใช่ตัวหลักอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งมันถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในโลกฟุตบอลยุคปัจจุบัน

ผลงานจากการทัวร์ยุโรป ส่งเสียงสะท้อนถึงหลายสิ่งอย่าง โดยเฉพาะแฟนๆ ที่เริ่มเหนื่อยหน่ายกับการบริหารที่ไม่ค่อยจะเข้าท่านัก จนทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์กันว่าฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 2026 รอบสอง คงจะมีผู้ชมเดินทางเข้าสู่สนามน้อยลง

แต่กลับผิดคาด เพราะสาวกช้างศึกยังคงให้การสนับสนุนทีมชาติไทย แบบเต็มเหนี่ยว แม้จะไม่ถึงกับเต็มความจุของ ราชมังคลากีฬาสถาน แต่อย่างน้อยๆ ก็มีไม่ต่ำกว่า 30,000 คน แน่ๆ

มันคือ "ศรัทธา" ที่แฟนฟุตบอลยังคงเชื่อมั่นว่าจะกลับมาทำผลงานที่ดีได้ แม้จะเหลวเป๋วที่ยุโรป ก็ตาม แต่พวกเขาก็ยังตามมาเป็นกำลังใจให้นักเตะแบบชิดติดขอบ โดยที่ไม่สนว่าการจราจรจะสาหัสเพียงไหน หรือฝนฟ้าที่พร้อมจะเทกระหน่ำลงมาหรือเปล่า

ทุกคนมาเชียร์ทีมชาติไทย ด้วย 'ใจ' ล้วนๆ

"ศรัทธา" คือสิ่งที่สร้างขึ้นได้ยากยิ่ง แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งมันหมดลง ก็เป็นเรื่องลำบากที่จะกู้มันกลับมาอีกครั้ง

 [ 3 ] ทัวร์ยุโรป มีผลจริงๆ

ในขณะที่เกาหลีใต้ เลือกจะอุ่นเครื่องกับเวียดนาม เพราะรู้ว่าต้องเจอไทย ในฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เนื่องจากทัพดาวทองคือหนึ่งในชาติที่ต้องเผชิญหน้า พวกเขาจึงจิ้มมาทีมจากอาเซียน เพื่อประลองแข้งทดสอบผู้เล่น

ญี่ปุ่น ที่ชนะทั้งเยอรมัน ใน เวิร์ล คัพ 2022 ต่อเนื่องถึงเกมกระชับมิตร และปัจจุบันถูกจัดอยู่ในหมวดทีมชั้นนำของปฐพี แต่พวกเขาก็ไม่ประมาท เนื่องจากมีเวียดนาม เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม ว่าแล้วจึงส่งหนังสือเทียบเชิญสู่ทัพช้างศึกให้ไปแข่งกันที่โตเกียว ในวันแรกของปี 2024

นี่คือ 2 ชาติมหาอำนาจของวงการลูกหนังเอเชีย และถีบตัวเองไปสู่ระดับโลกได้สำเร็จ ทว่าพวกเขากลับไม่ประมาทต่อคู่แข่งที่แรงกิ้งต่ำกว่าเลยสักนิด

ในทางกลับกัน ทีมชาติไทย ซึ่งรู้ดีอยู่แล้วว่าจะต้องเผชิญหน้ากับจีน ในเดือนพฤศจิกายน แถมเป็นนัดแรกของฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง

แทนที่จะไปลับแข้งกับเกาหลีเหนือ, ฮ่องกง, ไต้หวัน, มาเก๊า หรือแม้กระทั่งกวม แต่กลับดันไปทัวร์ยุโรป เสียอย่างนั้น

ไปตะลุยดินแดนตะวันตกไม่พอ ยังถูกจอร์เจีย กระหน่ำซะยับเยินอีกต่างหาก แถมผู้เล่นยังไม่ฟูลทีมอีกต่างหาก

ขนาดญี่ปุ่น กับเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นขาประจำใน เวิร์ล คัพ รอบสุดท้าย ยังไม่ทำเช่นนั้นเลย ทั้งยังเรียกนักเตะชุดที่ดีที่สุดมาเพื่อทดสอบระบบและแผนการเล่นให้ออกมาชัวร์ที่สุด เพราะนี่คือทัวร์นาเมนต์ที่ทุกคนต่างถวิลหา

ดังนั้นการที่ไทย ไม่ได้อะไรจากการไปแข่งขันเกมกระชับมิตรที่ยุโรป จึงส่งผลต่อเนื่องถึงความพ่ายแพ้ต่อจีน จริงๆ

[ 4 ] ศุภโชค ต้องยืนฝั่งซ้าย

ศุภโชค อาจจะเล่นเป็นศูนย์หน้าในสมัยฟุตบอลเยาวชน แต่พอเติบใหญ่ เขาขยับออกไปด้านข้าง และก็ทำผลงานได้เจิดจรัสเสียด้วย ทั้งกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และรวมไปถึง คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ที่เวลานี้กลายเป็นผู้เล่นหลักของทีมแล้ว

ริมเส้นฝั่งซ้ายคือตำแหน่งที่แนวรุกชาวศรีสะเกษ ระเบิดฟอร์มออกมาได้เปรี้ยงปร้างที่สุด เพราะเขาเป็นนักเตะที่มีทักษะและความคล่องตัวสูง อีกทั้งยังมีลูกยิงอันเฉียบขาดเป็นเครื่องหมายการค้า

ทว่ากับทีมชาติไทย ศุภโชค ถูกจับมายืนอยู่ฟากขวามาโดยตลอด

เข้าใจว่า บดินทร์ ผาลา คือนักเตะที่มีเก่งกาจ ทะลุทะลวงดี แถมมีจังหวะสอดขึ้นไปทำประตูได้บ่อยๆ แต่เมื่อเทียบมาตรฐานระหว่าง ไทยลีก กับ เจลีก - คำตอบคงเป็นเอกฉันท์ว่าที่ไหนสูงกว่ากัน

นอกจากนี้ อาจจะเป็นเพราะปีกของ การท่าเรือ เอฟซี สามารถถอยลงมาเล่นเกมรับเพื่อแบ่งเบาภาระของ ธีราทร บุญมาทัน ได้เช่นกัน อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาจองสัมปทานทางฝั่งซ้าย

แต่ถ้าไม่สามารถใช้ศักยภาพของผู้เล่นที่อันตรายอย่าง สุภโชค ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็คงต้องย้อนมองกลับไปว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น

เกมกับจีน ก็เช่นกันที่แข้งเบอร์ 49 จาก ซัปโปโร ถูกสั่งให้ประจำการทางฝั่งขวา และก็เหมือนเดิมคือแทบไม่มีบทบาทอะไรเลย ราวกับว่าลงสนามให้ครบ 11 คน เท่านั้น

พอครึ่งหลัง ค่อยดีหน่อย เพราะได้ไปโลดแล่นทางกราบซ้าย ซึ่งก็มีหลายๆ จังหวะที่สร้างสรรค์โอกาสได้สวยงาม 

นัดต่อๆ ไป หากว่า สุภโชค ยังคงอยู่ตำแหน่งเดิม เห็นทีว่าเขาคงไม่ได้สำแดงฤทธิ์เดชให้เป็นที่ประจักษ์ได้เหมือนเดิมๆ ในทุกๆ เกม

[ 5 ] โอกาสเข้ารอบ 3 ยากยิ่ง

ฟุตบอลโลก 2026 ที่จะแข่งขันกัน ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา, เม็กซิโก และแคนาดา นั้นเพิ่มจำนวนทีมจาก 32 เป็น 48 ซึ่งเท่ากับว่าทุกทวีปจะได้โควตาเข้าแข่งขันมากกว่าเดิม

เอเชีย นั้นได้ 8.5 ทีม เลยทีเดียว

โดยโซนนี้แบ่งรอบคัดเลือกทีละสเต็ป ไล่ตั้งแต่...

รอบ 2 - มี 9 กลุ่ม - อันดับ 1 และ อันดับ 2 ได้ไปเล่นรอบ 3

รอบ 3 - มี 3 กลุ่ม - อันดับ 1 และ อันดับ 2 ได้ตั๋ว 'เวิร์ล คัพ' อัตโนมัติ

รอบ 4 - มี 2 กลุ่ม - โดยเอา อันดับ 3 และ อันดับ 4 ที่ตกจาก รอบ 3 มาแข่งกัน แล้วให้ แชมป์กลุ่ม ได้ตั๋ว  เวิลด์ คัพ

นี่คือการแบ่งโควตาของโซนเอเชีย โดยย่อ ซึ่งเกมที่ไทย เปิดบ้านพบจีน นั้นคือนัดแรกของรอบ 2

รอบนี้คือ "อันดับ 1" และ "อันดับ 2" ของกลุ่มเท่านั้นที่จะได้ไปต่อ และในกรุ๊ปเดียวกับทัพช้างศึกนั้นมีเกาหลีใต้, จีน และสิงคโปร์ เป็นด่านที่ขวางหน้า

เกาหลีใต้ แทบจะปิดประตูชนะได้เลย แค่เสมอก็ยากมากๆ แล้ว เพราะพวกเขามีมาตรฐานห่างจากไทย แบบไกลโพ้น ดังนั้นจีน จึงเป็นคู่ต่อสู้ที่ "ต้องวัดกัน" ว่าใครดีพอจะตามขุนพลจากแดนโสมขาวเข้าสู่รอบ 3

แต่นี่แค่แมตช์ประเดิมสนาม แถมยังเล่นในบ้านตัวเองต่อหน้าผู้ชมหลายหมื่น กลับปราชัยไปด้วยสกอร์ 1-2

แน่นอนว่ายังมีเกมให้แก้มืออีกถึง 5 นัด แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าขนาดเล่นที่ ราชมังคลากีฬาสถาน เรายังไม่สามารถเอาชนะจีน ได้เลย แล้วไปแข่งขันกันที่ดินแดนมังกร โอกาสที่จะคว้า 3 คะแนน กลับมาก็คงเลือนรางยิ่งนัก

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ 'ฟุตบอลไทย ไปฟุตบอลโลก' ก็คงจะต้องรอต่อไปอีกอย่างน้อยๆ 4 ปี

หรือบางที ถ้าทุกอย่างยังวนลูปเช่นเดิมอยู่ ก็คงฝันกันไปอีกแสนนาน


ที่มาของภาพ : Siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport