เลือก เซนเตอร์ฮาล์ฟ ทีมชาติไทย คนไหนดี!?

[ 1 ] พรรษา เหมวิบูลย์

อายุ: 33

สโมสร: บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ติดทีมชาติ: 40 นัด (6 ประตู)

จุดเด่น: รูปร่าง 1.91 เมตร สามารถเก็บกินลูกกลางอากาศได้หวานเจี๊ยบ แถมการได้เล่นร่วมกับปราการหลังเก่งๆ อย่าง อันเดรส ตูเญซ (2017-2020), เรบิน ซูลาก้า (2020-2022), ดิออน คูลส์ (2022-ปัจจุบัน) และ คิม มิน-ฮย็อก (2023) ทำให้ พรรษา เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟที่พัฒนาตนเองได้อย่างรวดเร็ว

จุดไม่เด่น: ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น บวกกับฟอร์มที่ดร็อปลง ทำให้ฤดูกาล 2023-24 เขามีส่วนกับ บุรีรัมย์ น้อยกว่าเดิม และเสียตำแหน่งตัวจริงในทีม ดังนั้นการที่ไม่ได้ลงสนามสม่ำเสมอ ย่อมกระทบถึงมาตรฐานการเล่นอย่างแน่นอน

โอกาสลงสนาม: 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็ยังเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ในใจ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง 

[ 2 ] มานูเอล ทอม บีร์ห

อายุ: 30

สโมสร: แบงค็อก ยูไนเต็ด

ติดทีมชาติ: 20 นัด (0 ประตู)

จุดเด่น: ด้วยความที่เป็นผู้เล่นเชื้อสายไทย-เยอรมัน แต่รูปร่างหน้าตาค่อนข้างจะไปทางยุโรป ทำให้เขาเป็นกองหลังที่แข็งแรง เข้าบอลหนัก อีกทั้งยังประกบตัวศูนย์หน้าของคู่ต่อสู้ได้ยอดเยี่ยมด้วย 

จุดไม่เด่น: หากมองความเป็นจริง ทอม บีร์ห อาจจะเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟที่มีหน่วยก้านดี แต่เรื่องความผิดพลาด หมอนี่ก็มักจะมีให้เห็นบ่อยๆ เช่นกัน นอกจากนี้ในระยะหลัง เจ้าตัวยังมีปัญหาบาดเจ็บบ่อยครั้ง ซึ่งนั่นส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นแบบชัดเจน

โอกาสลงสนาม: 40 เปอร์เซ็นต์ แม้จะเป็นหนึ่งในนักเตะที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง มีคู่มือการใช้งาน แต่ผลงานยังเป็นรองคนอื่นๆ อยู่พอสมควร

[ 3 ] เอเลียส ดอเลาะ

อายุ: 30

สโมสร: บาหลี ยูไนเต็ด (อินโดนีเซีย)

ติดทีมชาติ: 11 นัด (1 ประตู)

จุดเด่น: อีกหนึ่งนักเตะที่มีเชื้อสายสวีเดน เอเลียส มีสัดส่วน 1.96 เมตร และถือเป็นผู้เล่นที่สูงที่สุดของทีมชาติไทย ชุดปัจจุบัน จากสรีระนี้เอง เขาจึงเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ป้องกันลูกกลางอากาศได้ยอดเยี่ยมเอามากๆ อีกทั้งยังมักจะสอดขึ้นไปโขกทำประตูได้อีกด้วย

จุดไม่เด่น: มันคือปัญหาโลกแตกที่มักจะเกิดขึ้นกับปราการหลังตัวใหญ่ นั่นคือความเชื่องช้า และจุดนี้นี่เองที่มักจะทำให้ เอเลียส มีช็อตเหวออยู่บ่อยครั้ง

โอกาสลงสนาม: 50 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่ว่าคู่แข่งจะโจมตีเช่นไร หากเจอกับทีมที่มีศูนย์หน้ารูปร่างสูง ยังไง เอเลียส ก็เป็นตัวเลือกแรกๆ แน่นอน

[ 4 ] สุพรรณ ทองสงค์

อายุ: 29

สโมสร: แบงค็อก ยูไนเต็ด

ติดทีมชาติ: 11 นัด (0 ประตู)

จุดเด่น: นี่คือเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุดของทีมชาติไทย ในชุดนี้ จากผลงานอันเอกอุกับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่เสียไปเพียง 3 ประตู จาก 8 นัด (5 คลีนชีต) ซึ่งส่วนสำคัญก็มาจากผลงานการสกัดกั้นแบบไม่เกรงใจใครของ สุพรรณ นี่แหละ ที่ทุ่มเทเกินร้อยเพื่อป้องกันให้ทีมตนเองไม่เพลี่ยงพล้ำต่อฝั่งตรงข้าม

จุดไม่เด่น: การร้างสนามในนามทีมชาติไปร่วม 2 ปี ย่อมทำให้ความคุ้นชินในเกมระดับนานาชาติแน่ เพราะมันต่างกับเล่นในลีก ดังนั้นเขาอาจจะต้องนั่งรอโอกาสไปก่อน แล้วค่อยๆ ซึมซับการแข่งขันทีละนิด ก่อนจะก้าวขึ้นสู่การเป็นตัวหลักในอนาคตอันใกล้นี้

โอกาสลงสนาม: 40 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่ที่ว่า อเล็กซานเดร โพลกิ้ง จะกล้าใช้ในเกมกับจีน หรือไม่ แต่นัดเจอสิงคโปร์ ยังไง สุพรรณ ได้มีส่วนร่วมแน่นอน

[ 5 ] เฉลิมศักดิ์ อักขี

อายุ: 29

สโมสร: การท่าเรือ เอฟซี

ติดทีมชาติ: 9 นัด (0 ประตู)

จุดเด่น: อีกหนึ่งแนวรับที่ผลงานโดดเด่นในระยะหลัง ด้วยความที่เป็นคนอ่านเกมเฉียบ อีกทั้งยังค่อนข้างไวในการสกัดกั้น มันจึงทำให้ เฉลิมศักดิ์ มักจะมีส่วนร่วมกับทีมชาติไทย ในยุค อเล็กซานเดร โพลกิ้ง

จุดไม่เด่น: เขาอาจจะเป็นผู้เล่นที่ติดทัพช้างศึกอย่างสม่ำเสมอในปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่ได้เป็นตัวจริงเสียทีเดียว เพราะส่วนมากมักจะลงมาในฐานะสำรองมากกว่า ดังนั้นเรื่องของประสบการณ์ในเกมใหญ่ๆ จึงยังเป็นรองคนอื่นๆ อยู่พอสมควร

โอกาสลงสนาม: 30 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการแข่งขันว่าจะออกมาในรูปแบบใด

[ 6 ] กฤษดา กาแมน

อายุ: 24

สโมสร: ชลบุรี เอฟซี

ติดทีมชาติ: 28 นัด (0 ประตู)

จุดเด่น: เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง ส่งลงสนามแบบนัน-สต็อป เป็นนักเตะสุดแสนจะชาญฉลาด แม้ว่ารูปร่างไม่สูงใหญ่ แต่ใช้สมองอ่านเกมแบบลึกซึ้ง ซึ่งทำให้คนอื่นๆ ในแผงหลังเล่นสบายไปด้วย

จุดไม่เด่น: เรื่องของส่วนสูงนี่แหละที่เป็นปัญหาของ กฤษดา แม้ว่าเขาจะเป็นกองหลังที่กัดไม่ปล่อย แถมเข้าบอลแม่นยำ แต่พอถึงลูกกลางอากาศทีไร เจ้าตัวก็มักจะเป็นรองคู่แข่งแบบสุดกู่

โอกาสลงสนาม: 100 เปอร์เซ็นต์ ยังไงก็ตัวจริงแน่ๆ แต่คู่ขาของเขาจะเป็นใคร ขึ้นอยู่ที่ อล็กซานเดร โพลกิ้ง จะเลือกใช้

[ 7 ] วีระเทพ ป้อมพันธุ์

อายุ: 27

สโมสร: เมืองทอง ยูไนเต็ด

ติดทีมชาติ: 23 นัด (0 ประตู)

จุดเด่น: จริงๆ หมอนี่ไม่ได้เป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ และก็เพิ่งมาเล่นตำแหน่งนี้ในยุคของ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง นี่แหละ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของการแข่งขันว่าจะเป็นเช่นไร ทว่าเมื่อมองถึงข้อดีของ วีระเทพ ในการเป็นปราการหลังตัวกลางนั่นคือการสร้างเกมจากแดนหลัง รวมไปถึงการอ่านจังหวะที่เฉียบขาดนั่นเอง 

จุดไม่เด่น: ด้วยความที่เป็นมิดฟิลด์อาชีพ เรื่องของจังหวะเข้าปะทะหรือสกัดบอลคงไม่ใช่งานถนัดของเขาแน่ ซึ่งถ้าออกสตาร์ตเป็นตัวจริงด้วยการเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ เชื่อเลยว่าแฟนฟุตบอลชาวไทย เตรียมละเลงคีย์บอร์ดกันทั่วทั้งปฐพี ดังนั้นกองกลางจาก เมืองทอง คงจะไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกๆ หรอก หากแต่จะยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟตามแต่สถานการณ์เท่านั้น

โอกาสลงสนาม: 5 เปอร์เซ็นต์ แต่อาจจะถูกถอยลงมาเล่นตำแหน่งนี้ในช่วงท้ายของการแข่งขัน