5 เหตุผลที่คุณ 'ห้ามพลาด' ศึกชิงแชมป์เอเชีย ยู-23

5 เหตุผลที่คุณ 'ห้ามพลาด' ศึกชิงแชมป์เอเชีย ยู-23
นอกจาก คิงส์ คัพ ครั้งที่ 49 ที่มีความสำคัญระดับ 'A-Match' และก็อยู่ในความสนใจของแฟนฟุตบอลชาวสยาม ทว่ายังมีอีกหนึ่งเวทีที่ 'ห้ามพลาด' เป็นอันขาด นั่นคือทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือก เพราะถ้าทีมชาติไทย สามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมาย เราก็จะคว้าตั๋วไปโลดแล่นในที่กาตาร์ ซึ่งถือเป็นรายการใหญ่ของทวีป ดังนั้นระหว่างวันพุธที่ 6 ถึงวันอังคารที่ 12 กันยายน ขอเชิญทุกท่านมาเชียร์ทัพช้างศึกจูเนียร์พร้อมๆ กัน!!

[ 1 ] วัดคุณภาพระดับทวีป

   แม้ว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์อายุไม่เกิน 23 ปี ทว่าฟุตบอลในยุคปัจจุบันนั้นวัดมาตรฐานกันตั้งแต่เยาวชน ซึ่งทีมชุดเด็กนี่แหละ จะบ่งชี้อนาคตว่าประเทศของคุณจะไปไกลได้เพียงใดในอนาคต

   นับตั้งแต่ศึกยู-23ชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย เริ่มแข่งขันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2013 ทัพช้างศึกพลาดการมีส่วนร่วมเพียงหนเดียวเท่านั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี และมาตรฐานก็ยกระดับขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในปี 2020 ที่ผ่านเข้าไปถึงรอบ 8 ทีม สุดท้าย 

   แน่นอนว่าชาติใหญ่อย่างญี่ปุ่น หรือเกาหลีใต้ รวมไปถึงทีมในเอเชียตะวันตกก็ยังคงครองความเป็นเบอร์ต้นๆ ของทวีปตามมาตรฐานของพวกเขา แต่ถ้าไทย ต้องการจะขยับเข้าใกล้กลุ่มเหล่านี้ ก็ต้องผ่านรอบคัดเลือกให้ได้เสียก่อน เพื่อไปวัดคุณภาพกันในรอบสุดท้ายในปี 2024 ที่ประเทศกาตาร์

[ 2 ] ทีมชุดรวมดาวรุ่งที่ดีที่สุดของประเทศ

   ด้วยความที่ทัวร์นาเมนต์นี้มีความสำคัญมากๆ เพราะมีตั๋ว 'ยู-23 เอเชียน คัพ' ที่ประเทศกาตาร์ ในปี 2024 เป็นเดิมพัน มันจึงทำให้ต้องเรียกผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดมารวมตัวกัน

   ปัจจุบันนักเตะที่อายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งข้ามไปเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่ของไทย นั้นมีมากมาย ไล่ตั้งแต่ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร (23), เอกนิษฐ์ ปัญญา (23), ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว (22), ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (21), ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (21) หรือ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย (19) รวมไปถึง เบนจามิน เดวิส (22) ที่เพิ่งถูกเรียกตัวแทนที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์

   ทว่าในรายของ ธนวัฒน์ นั้นยังอยู่ในช่วงเรียกความฟิต ส่วน เอกนิษฐ์ กับ ศุภณัฏฐ์ นั้นเล่นอยู่ต่างประเทศ เลยอยากให้โฟกัสกับการทำหน้าที่ตรงนั้นมากกว่า 

   แต่คนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ชาญณรงค์, ฉัตรมงคล และ ธีระศักดิ์ ซึ่งผ่านเกมกับทัพช้างศึกชุดใหญ่มาแล้ว ทว่าถูกดึงตัวมาเล่นในชุดยู-23 เพื่อเป้าหมายคือการผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย

   ดังนั้นทีมชาติไทย ชุดนี้จึงถือเป็นการเรียกผู้เล่นที่ดีที่สุดของประเทศมารวมตัวกันจริงๆ ซึ่งแต่ละรายก็เป็นตัวหลักให้กับต้นสังกัดอีกด้วย 

[ 3 ] แผงกลาง-แนวรุกปึ๊กทุกสัดส่วน

   หากเล่นในระบบ 4-3-3 แผงมิดฟิลด์ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี น่าจะประกอบไปด้วย ลีออน เจมส์, อิรฟาน ดอเลาะ และ ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท โดยให้กองหน้าตัวเป้าเป็น ธีรศักดิ์ เผยพิมาย เป็นศูนย์หน้าตัวเป้า ขนาบข้างด้วย ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว กับ อนันต์ ยอดสังวาลย์

   นี่คือทีมชุดในฝันชัดๆ

   แต่ถ้าปรับระบบมาใช้ 4-4-2 ก็จะมี ธีรศักดิ์ กับ ยศกร บูรพา เพชฌฆาตที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของยุคเป็นคู่ ซึ่งดูโอ้สองคนนี้มีความแข็งแกร่งและดุดัน มันจึงเป็นสิ่งที่คู่ต่อสู้ของไทย ต่างต้องหวาดหวั่น

   ย้อนกลับมาที่กองกลาง ทัพช้างศึกชุดนี้มีแผงมิดฟิลด์คุณภาพคับแก้ว ไม่ว่าจะ อิรฟาน หรือ เจมส์ นั้นแสดงให้เห็นแล้วว่าเก่งกาจเกินวัย รวมไปถึง ปุรเชษฐ์ ที่อาจจะไม่ค่อยได้รับโอกาสกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด สักเท่าไหร่ แต่สำหรับทีมชาติ เขาคือตัวเลือกลำดับต้นๆ เสมอ

   นอกจากนี้ บรรดาตัวรุกริมเส้นก็จี๊ดจ๊าดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น อนันต์, เศรษฐสิทธิ์ สุวรรณเศรษฐ์ หรือ พันธมิตร ประพันธ์ และอย่าลืมว่า ชาญณรงค์ ดาวรุ่งพรสวรรค์สูงก็เล่นได้ทั้งบทบาทเพลย์เมเกอร์หรือจะขยับออกไปด้านข้าง ซึ่งบอลจากเท้าของเขาแต่ละครั้งนั้นสร้างความแตกต่างได้ในชั่วพริบตา

   หากว่าพวกเขาเหล่านี้สอดประสานงานกันอย่างลงตัว รับประกันเลยว่าประตูสู่กาตาร์ นั้นเปิดอ้าแขนรอรับอยู่ไม่ไกล

[ 4 ] เสือเหลือง-เสือร้ายสุดอันตราย

    ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หากนับเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คงจะมีเพียงไทย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่ห้ำหั่นชิงความเป็นที่หนึ่งในภูมิภาค

   นับตั้งแต่ทัวร์นาเมนต์ยู-23 จัดแข่งขันกันในปี 2005 - เวียดนาม คือทีมที่ครองแชมป์อาเซียน มากที่สุด ตามมาด้วยไทย และอินโดนีเซีย ขณะที่มาเลเซีย นั้นอาจจะไม่เคยทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ทว่าพวกเขาก็ยังเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ซึ่งไม่อาจจะประมาทได้เลย

   ทีมเสือเหลืองแห่งมาลายันชุดนี้ก็จัดเต็มรุ่นเหมือนกับไทย เพราะเรียกผู้เล่นอายุน้อยที่ไปแจ้งเกิดกับทีมชุดใหญ่มาด้วยหลายราย ไล่ตั้งแต่ รูเวนธิราน เวนกาเดซาน (แบ็กซ้าย), อาซาม อัซมี่ (แบ็กขวา), อาลิฟฟ์ อิซวาน (กองกลาง), ลุคมาน ฮาคิม ชามซูดิน (ปีก), ฮาคิมี่ อาซิม (กองหน้า) และ มูไครี่ อัจมาล วันเดอร์คิดแห่งวงการลูกหนังเอเชีย

   เท่านั้นไม่พอ พวกเขายังมีแข้งลูกครึ่งอย่าง นออา เลน (กองกลาง) กับ เฟอร์กัส เทียร์นี่ย์ (กองหน้า) อีกต่างหาก

   จากขุมกำลังของมาเลเซีย คงต้องบอกว่านักเตะหลายคนของพวกเขามีประสบการณ์ในทีมชาติชุดใหญ่มากกว่าไทย เพราะหลายๆ คนนั้นคือประเภทตัวจริงของทีมชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เวนกาเดซาน, อัซมี่, ชามซูดิน และ อัจมาล

   ดังนั้นเสือเหลืองทีมนี้ จึงเป็นเสือร้ายสุดอันตรายสำหรับทัพช้างศึกจริงๆ

[ 5 ] อิสระ ศรีทะโร

   ในช่วงขวบปีที่ผ่านมา อิสระ ถูกตั้งคำถามมากมายว่า 'ดีพอ' สำหรับทีมชาติไทย ชุดยู-23 หรือไม่ กับผลงานที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย พ่วงด้วย 'ความอื้อฉาว' ในนัดชิงชนะเลิศ ซีเกมส์ ที่ประเทศกัมพูชา

   นับตั้งแต่กุนซือชาวสุพรรณบุรี เข้ามานั่งตำแหน่งเฮดโค้ชช้างศึกชุดเล็กเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 ก็ยังไม่ได้มีอะไรที่ทำให้ชาวไทย ได้เชยชมกันจริงๆ

   สถิติการคุมทีม 17 นัด - ชนะ 9, เสมอ 3 และแพ้ 5 นับว่าน่าผิดหวังพอสมควร โดยเฉพาะกับ ซีเกมส์ ที่แพ้อินโดนีเซีย ในรอบชิงชนะเลิศ แต่กลับมีเหตุบานปลายจนเป็นเรื่องเป็นราวกระฉ่อนไปทั้งทวีป

    ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2023 ที่เพิ่งจบลงไป การได้อันดับ 3 อาจจะกล่าวโทษ อิสระ มากนักก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้ใช้ทีมชุดที่ดีที่สุด แถมยังมีศึกใหญ่รออยู่ในเดือนกันยายน แต่กระนั้น ด้วยมาตรฐานของลีก ด้วยคลาสของผู้เล่น แถมยังเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน มันจึงน่าจะทำได้ดีกว่านี้

   ดังนั้นทัวรนาเมนต์ชิงแชมป์แห่งชาติเอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบคัดเลือกครั้งนี้ จะเป็น 'บททดสอบ' ครั้งใหญ่ว่าเขาจะนำทีมไปในทิศทางใด

   องค์ประกอบรอบด้านครบครัน เพราะมีทั้งนักเตะที่ดีที่สุดของรุ่นมาติดทีม หรือการได้เล่นต่อหน้าแฟนฟุตบอลชาวไทย เพราะเป็นเจ้าภาพทั้ง 3 นัด แถมคู่แข่ง ก็เห็นจะมีเพียงมาเลเซีย เท่านั้นที่น่าจะสร้างความลำบากให้ได้มากที่สุด

    หากไม่สามารถนำทัพช้างศึกผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้สำเร็จ ความเปลี่ยนแปลงคงจะมาถึงหลังจบทัวร์นาเมนต์ในทันที


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport