"โฟแบร์-อนันต์" ซัดเบิ้ลทีมชาติไทยยู-23 ปี อุ่นอัดสิงคโปร์ 2-0

"โฟแบร์-อนันต์" ซัดเบิ้ลทีมชาติไทยยู-23 ปี อุ่นอัดสิงคโปร์ 2-0
"โฟแบร์ " อนันต์ ยอดสังวาลย์ ยิง 2 ประตูช่วยทีมชาติไทยยู-23 ปี อุ่นชนะ สิงคโปร์ 2-0 ขณะที่ "บิ๊กหยิม" ยุทธนา หยิมการุณ ยืนยันเป้าหมายทีม คือคว้าแชมป์กลุ่ม เพื่อไปกาตาร์ให้ได้

 ความเคลื่อนไหวของทัพ" ช้างศึก" ทีมชาติไทยชุดยู-23 ปี ภายใต้การคุมทัพของ"โค้ชหระ " อิสระ ศรีทะโร ที่กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อร่วมแข่งขันฟุตบอลรายการชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024 รอบคัดเลือก ระหว่างวันที่ 6-12 ก.ย. 66 ที่ จ.ชลบุรี

 โดยล่าสุด ทัพ"ช้างศึก" มีโปรแกรมลงอุ่นเครื่องกับทีมชาติสิงคโปร์ ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ผลปรากฎว่าครึ่งแรกสองทีมทำอะไรกันไมได้เสมอกันอยู่ 0-0  ครึ่งหลังทีมชาติเจาะตาข่ายนำในช่วงท้ายเกม นาที 82 จากจังหวะทำชิ่งธีรศักดิ์ เผยพิมาย จ่ายให้ อนันต์ ยอดสังวาลย์ เข้ายิงประตูทีมชาติไทยนำ1-0 จากนั้นนาที 89 ทีมชาติไทยก็ได้ประตูนำห่าง จากจังหวะการวางบอลยาวกลางสนามของ ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ ให้กับ "โฟแบร์ " อนันต์ ยอดสังวาลย์ จับบอลลงในกรอบเขตโทษ ก่อนจิ้มสวนทางผู้รักษาประตูเข้าไปให้ทีมชาติไทยนำสิงคโปร์ 2-0 และประตูนี้ เป็นเม็ดที่สองของ อนันต์ ยอดสังวาลย์ อีกด้วย และสุดท้ายสองทีมยิงประตุกันอีกไม่ได้ จบการแข่งขันทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติสิงคโปร์ 2-0 

 หลังจบการแข่งขัน "บิ๊กหยิม" ยุทธนา หยิมการุณ อุปนายกสมาคมฯ ได้กล่าว" วันนี้ถือว่าทุกคนทำหน้าที่ได้ดี ทุ่มเท และมีความมุ่งมั่น เราเข้าแคมป์เก็บตัวได้ 3 วัน กับรูปเกมโดยรวมวันนี้ถือทำได้น่าพอใจ ซึ่งเรายังมีเวลาอีก 5 วัน เชื่อว่าทีมงานโค้ชและน้องๆ จะนำข้อผิดพลาดในวันนี้กลับไปปรับแก้ไขให้ทีมพร้อมที่สุดก่อนเข้าสู่ทัวร์นาเมนต์ต่อไป"

 "เป้าหมายของเราคือคว้าแชมป์กลุ่ม เพื่อไปกาตาร์ และอยู่บนเส้นทางสู่โอลิมปิก ที่กรุงปารีส ซึ่งทั้งทีมงานโค้ชและน้องๆ เองก็ทำงานกันอย่างหนัก ทั้งในการฝึกซ้อม และการทำการบ้านวิเคราะห์คู่แข่งร่วมสาย กำชับไปแล้วว่าห้ามประมาทคู่แข่งเด็ดขาด"

 สำหรับทีมชาติไทย ยู-23 ปี จะมีโปรแกรมแข่งขันรายการชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2024 รอบคัดเลือก นัดแรก วันที่ 6 ก.ย.66 พบ ฟิลิปปินส์ เวลา  20.30 น. นัดที่ 2 วันที่ 9 ก.ย. 66 พบ บังคลาเทศ  และนัดที่ 3 พบ มาเลเซีบ  ทุกนัดแข่งขันเวลา 20.30 น. ที่สนามชลบุรี สเตเดี้ยม ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport