ศึกลูกหนังเอเชี่ยนคัพ 2023 รอบคัดเลือก ซึ่งมีการจับสลากไปแล้ว ปรากฏว่าไทยอยู่ในกลุ่ม เอฟ ร่วมกับ ซาอุดิอาระเบีย, คีร์กิซสถาน และโอมาน ซึ่งถือว่าเป็นสายที่หนักพอตัว โดยจะคัดเอาที่ 1 และ 2 ของกลุ่ม ผ่านเข้ารอบ และอันดับ 3 ที่ดีที่สุด 4 ทีมจาก 6 กลุ่มเข้ารอบด้วย
สำหรับรายการนี้ทีมไทยต้องเจอบทพิสูจน์กับโค้ชใหม่ของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งพกพาดีกรีคุมทีมดังอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษเมื่อฤดูกาล 2011-2012 รวมถึงเป็นผจก.ทีมดังอีกมากมายทั้ง ฟิออเรนติน่า, ลาซิโอ, อินเตอร์ มิลาน รวมถึงล่าสุดคือ การคุมทีมชาติอิตาลี ซิวแชมป์ยูโร 2020 มาครอง ก่อนที่จะอำลามาคุมทีมชาติซาอุดิอาระเบีย พร้อมประกาศเป้าหมายจะพาซาอุฯคว้าแชมป์เอเชี่ยนคัพ ในรอบ 27 ปีให้จงได้
กุนซือซาอุฯ เพื่อนร่วมกลุ่มของไทย เผยว่า เขาไม่ใช่นักมายากล ที่จะเสกชัยชนะได้ แต่เขาจะพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อเป้าหมายคว้าชัยในเอเชี่ยนคัพให้ได้
"เรามีเวลา 4 เดือนในการเตรียมทีม มีแมตช์อุ่นเครื่อง 4 แมตช์ มีเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2 เกม และมีเวลา 20 วันหลังจากนั้นในการเตรียมทีมเพื่อเอเชี่ยนคัพ"
มันชินี่ เผยว่า "เรารู้ดีว่าเอเชียมีทีมระดับท็อปหลายทีมอย่าง ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้ แต่เราจะพยายามคว้าชัยชนะให้ได้ในเอเชี่ยนคัพครั้งนี้"
สำหรับทีมชาติซาอุฯ จะประเดิมแมตช์แรกในการคุมทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ โดยอุ่นเครื่องกรับคอสตาริก้า ในวันที่ 8 ก.ย. ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค ของนิวคาสเซิล จากนั้นอีก 4 วันถัดมาจะอุ่นกับเกาหลีใต้ ที่สนามเดียวกัน