ชนะเข้าชิง! ทีมชาติไทย วัดคม เลบานอน, อิรัก บู๊ อินเดีย ฟุตบอลคิงส์คัพ

ความเคลื่อนไหวของศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49 ที่ จ.เชียงใหม่ รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ 2 ครั้งติด โดยจะฟาดแข้งระหว่างวันที่ 4-10 ก.ย.2566 ตามโปรแกรมปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ซึ่งมี 4 ชาติร่วมโม่แข้งประกอบด้วย ทีมชาติไทย (เจ้าภาพ), เลบานอน, อินเดีย และ อิรัก

ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 16 ส.ค.2566 ที่ห้องประชุมสภา ชั้น 2 อาคารหอประชุมสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เวลา 13.00 น. ได้มีงานแถลงข่าวและพิธีจับสลากประกบคู่ "คิงส์คัพ 2023" ซึ่งรูปแบบการแข่งขันจะเตะแบบน็อคเอาท์ แต่ละทีมจะได้เล่น 2 นัดที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปีทั้งหมด รอบรองชนะเลิศวันพฤหัสบดีที่ 7 ก.ย.2566 ส่วนรอบชิงอันดับ 3 และรอบชิงชนะเลิศ วันอาทิตย์ที่ 10 ก.ย.2566

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่, พิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่, "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดใหญ่, พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มาร่วมพูดคุยในงานแถลงข่าว พร้อมด้วย อเล็กซานเดร มาโน่ โพลกิ้ง กุนซือใหญ่ 

ตลอดจนสื่อมวลชนเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง 

โดยผลการจับสลากประกบคู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งจะแข่งขันวันพฤหัสบดีที่ 7 ก.ย.2566 ปรากฏว่า ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 113 ของโลก พบกับ เลบานอน ทีมอันดับ 100 ของโลก แข่งขันเวลา 20.30 น.

ส่วนอิรัก ทีมอันดับ 70 ของโลก พบกับ อินเดีย ทีมอันดับ 99 ของโลก แข่งขันเวลา 17.30 น.

สำหรับศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 หนที่แล้ว ทีมชาติไทย จบอันดับ 3 ด้วยการเอาชนะ ตรินิแดดแอนด์โตเบโก 2-1 ในรอบชิงที่ 3 ส่วนแชมป์ตกเป็นของ ทาจิกิสถาน หลังเสมอในเวลาปกติ 90 นาที 0-0 ก่อนจะเอาชนะจุดโทษ มาเลเซีย 3-0 ในเกมรอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.2565