มุมมองฟีฟ่า จะมองแบบไหน ลาออกตามคำสั่งของ ปธ. โอลิมปิก? หรือ แทรกแซงทางการเมือง? แล้วใครจะรักษาการแทน?
เอาทีละคำตอบ…
เบื้องต้น สำนักเลขาธิการสมาคมฟุตบอล รักษาการแทน
จนกว่าเลือกตั้งใหม่ 45-60 วัน หลังนายกคนเก่าพ้นจากตำแหน่ง
ส่วนเรื่องแบนจากฟีฟ่านั้น มันมีการแบนมีก่อนหน้านี้
ฟีฟ่า ได้แบนชาติที่แทรกแซงสมาคมฟุตบอล
ห้ามร่วมแข่งขันรายการฟีฟ่าและกิจกรรมฟุตบอลของฟีฟ่า
อิรัก, อินโดนีเซีย, อินเดีย, ไนจีเรีย คูเวต, ปากีสถาน, กัวเตมาลา, ช่วง20 ปีที่ผ่านมา
เหตุผลส่วนใหญ่คือ หน่วยงานรัฐและรัฐบาล
แทรกแซงการทำงานสมาคม
ถ้าถามว่า… กรณีนี้ จะถูกฟีฟ่า แบนฟุตบอลไทยห้ามร่วมกิจกรรมฟุตบอลของฟีฟ่าหรือไม่
มีความน่าจะเป็นใช้คำว่า probably ได้อยู่
เพราะจากที่ นายกลูกหนัง แถลงนั้นอาจโยงได้ถึงเรื่องการลาออกตามคำสั่งของประธานโอลิมปิกไทย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ และสมาคมฟุตบอลอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กกท…ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ
ส่วน “แทรกแซง”หรือไม่ ขึ้นกับเหตุผลที่ นายกลูกหนังจะรายงานต่อองค์กรใหญ่อย่างฟีฟ่า ว่าลาออก
นี่แหละจะเป็นประเด็นให้ตีความกันจากนั้น
ส่วนฟีฟ่า จะตีความ “แทรกแซง”ไว้แบบไหน
ในเมื่อ บิ๊กป้อม ไม่ได้ออก “คำสั่ง”
แค่ตำหนิ อย่างรุนแรงให้ลาออก
แต่ บิ๊กอ๊อด ใช้คำว่าปฏิบัติตามคำสั่ง
บิ๊กป้อม!!! ในนามปธ โอลิมปิกไทย
แทรกแซงมั้ย
ตรงนี้แหละที่น่าสนใจ
เอาจริงๆนะครับ
ถือว่า พล ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง เดินหมาก 2 ชั้น
นับว่าไม่ธรรมดา
1 ไม่ได้อยากลาออก แต่มันเป็นคำสั่งของผู้นำองค์กรกีฬาที่เป็นหน่วยงานรัฐกำกับดูแล
2 หากฟีฟ่า แบนฟุตบอลไทย เสียงโจมตีจากแฟนบอลนั้นจะไปอยู่กับ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปธ โอลิมปิก
จะว่าไป ถ้าลาออกเพื่อรับผิดชอบ2 เหตุผล
เข้ามาควบคุมบริหารสิทธิ์ไทยลีกจนมูลค่าตกต่ำ
การพัฒนาฟุตบอลทุกระดับล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
แบบนี้ดูเข้าท่า แต่ในเมื่อมากดดัน ขับไล่ใสส่ง กันอย่างนี้
อดีต ผบตร.คงไม่ยอมง่ายๆอย่างแน่นอน
ยกเว้นเสียแต่ว่านีคือเกมการเมืองอะไรสักอย่างซึ่งผมไม่คิดว่าจะไปทางนั้น
JACKIE