หวังจัด 2 ปีติด ! "นายกก๊อง" เป็นปลื้มคิงส์คัพ 2022 ที่เชียงใหม่เป็นเจ้าภาพประสบความสำเร็จและจบลงด้วยดี ชี้ไม่เห็นคนแน่นเต็มสนามมานานถึง 27 ปีแล้ว ขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพ แย้มจ่อเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพจัดคิงส์คัพ 2023 แน่ เผยจังหวัดมีความพร้อมและมีประสบการณ์เห็นจุดบกพร่องที่ต้องปรับแล้ว
ควันหลงหลังจากที่ จ.เชียงใหม่ ได้รับโอกาสเป็นเจ้าภาพจัดศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 48 ที่ กระท้่งได้รับความสนใจจากแฟนบอลชาว จ.เชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงรวมทั้งจาก กทม. ที่เดินทางไปชมเกมอย่างล้นหลาม ถึงแม้ว่าทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะทำได้เพียงแค่คว้าอันดับที่ 3 ก็ตาม
ล่าสุด "นายกก๊อง" นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันคิงส์คัพ 2022 ครั้งนี้ ได้ออกมาเปิดเผยกับสื่อแล้วว่า "การจัดการแข่งขันครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงมาก อย่างเกมวันแรกคนไม่เคยเต็มสนามขนาดนี้ ตั้งแต่ พ.ศ.2538 หรือค.ศ. 1995 ทุกพื้นที่เต็มหมด ยกเว้นโซนทีมเยือน ซึ่งเป็นความร่วมมือของหลายฝ่ายแม้ อบจ.จะเป็นหน่วยงานหลักเป็นเจ้าภาพ แต่ถ้าไม่ร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถสำเร็จได้ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด, รองผู้ว่าฯ, ตำรวจ, ฝ่ายปกครอง, เทศบาล ฯลฯ รวมทั้งประชาชนชาวเชียงใหม่ที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ"
"แน่นอนว่าเราเตรียมทุกอย่างพร้อม มีจอโปรเจคเตอร์หน้าสนาม, ซุ้มอาหารพื้นบ้านให้มาขายไม่คิดเงิน ทุกอย่างถือว่าไม่มีปัญหา เป็นไปด้วยดีมาก ไม่ว่าจะจำนวนผู้ชม ชาวเชียงใหม่ให้ความสนใจอย่างมาก การขายบัตรช่วงแรกออนไลน์มีปัญหาเล็กน้อย แต่ผ่านไปด้วยดี รวมทั้งการขายหน้าสนาม แฟนบอลมารอซื้อตั๋วแถวยาวเหยียด แต่เป็นระเบียบเรียบร้อย ขณะที่รถรับส่งแฟนบอลก็ระดมกันมาจากหลายฝ่ายที่ส่งมาช่วย"
"นายกก๊อง" ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ผมีความคิดว่า ฟุตบอลคิงส์คัพ ปีหน้า หรือครั้งที่ 49 จ.เชียงใหม่ จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพอีกครั้ง เพราะจังหวัดมีความพร้อม ยิ่งตอนนี้มีประสบการณ์เห็นจุดต้องปรับต่างๆ แล้วการที่เพิ่งเป็นเจ้าภาพในปีนี้อาจเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเลือกเจ้าภาพปีหน้า แต่ในมุมของจังหวัดเองก็พร้อมมาก ดังนั้นก็ต้องแล้วแต่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะพิจารณาหากเทียบกับจังหวัดอื่นๆ"