การบ้านของ "มาโน่"

การบ้านของ "มาโน่"
ผลงานของทีมชาติไทย ในการแข่งขันกระชับมิตร ฟีฟ่า เดย์ เดือนมิถุนายน 2023 อาจจะไม่เป็นที่พึงพอใจของแฟนๆ เท่าใดนัก กับผลเสมอกับไต้หวัน 2-2 และชนะฮ่องกง 1-0

  ด้วยความที่ทัพช้างศึกของเรามีแรงกิ้ง ฟีฟ่า (FIFA Ranking) ที่สูงกว่า มันจึงทำให้ความคาดหวังเรื่องผลการแข่งขันตามย่อมตามมาโดยธรรมชาติ

   อย่างไรก็ตาม ต้องอย่าลืมว่าในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสโมสรหรือทีมชาติ มาตรฐานของแต่ละทีมต่างก็ยกระดับขึ้นมามาก ดังนั้นทุกเกมที่เผชิญหน้ากัน ยิ่งกับพวกที่เลเวลใกล้เคียง ช่องว่างจึงแตกต่างกันไม่เท่าไหร่

   อาจจะจริงที่ ไทยลีก กำลังไปได้สวย ฟุตบอลภายในประเทศพัฒนาจนสามารถถีบตัวเองไปต่อกรกับบรรดาสโมสรใหญ่ของเอเชีย ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่ามีอีกหลายๆ อย่างที่ต้องกลับมาปรับปรุง

   การถูกไต้หวัน ตีเสมอในช่วงท้ายเกม หรือยิงฮ่องกง ได้เพียงประตูเดียวคือ 'การบ้าน' ที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง และทีมงานต้องกลับมาวิเคราะห์ก่อนจะถึง เอเชียน คัพ 2023 ที่จะแข่งขันกันในต้นปี 2024

   จากโปรแกรมอย่างเป็นทางการ ณ ตอนนี้ ทีมชาติไทย มีเกมให้ลงสนามอีก 4 นัด เริ่มจาก คิงส์ คัพ ในเดือนกันยายน ต่อด้วยแมตช์อุ่นเครื่องตอนตุลาคม แล้วจะถึงศึกใหญ่ของทวีป

   ยังมีเวลาอีกพอสมควรที่จะปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่าง

   อย่าลืมว่าตัวผู้เล่นในเกม ฟีฟ่า เดย์ มิถุนายน เรายังไม่มีก๊วนนักเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ ไทยลีก ขบวนล่าสุด ซึ่งแต่ละคนนั้นสามารถเพิ่มศักยภาพให้กับทัพช้างศึกได้แน่ๆ

   ในห้วงเวลาที่ไร้แข้งปราสาทสายฟ้า จึงถือเป็นการทดลองผู้เล่นใหม่ๆ ในแต่ละตำแหน่งว่าจะทดแทนได้หรือเปล่า ซึ่งเท่าที่ผ่านตา ก็มีหลายคนที่มีอนาคตสดใสรออยู่

   ไล่ตั้งแต่แบ็กขวาที่ตอนนี้เป็นตำแหน่งที่ไทย มีนักเตะในตำแหน่งนี้ให้เลือกใช้มากมาย - นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม และ ทริสต็อง โด แย่งพื้นที่กันมาหลายปี โดยมี ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ที่มาแรงในระยะหลัง 

   ทว่าจากฟอร์มการเล่นของ นิโคลัส มิคเคลสัน นั้นทำให้การขับเคี่ยวสูงขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งมันเป็นประโยชน์ต่อทีมชาติล้วนๆ

   หาก ฟิลิป โรลเลอร์ หายเจ็บกลับมา ก็น่าจะเพิ่มทางเลือกให้อีก

   ส่วนแผงมิดฟิลด์ก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เวลานี้มีตัวเลือกเยอะมากๆ - สารัช อยู่เย็น, ฐิติพันธุ์ พ่วงจันทร์, พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, วีระเทพ ป้อมพันธุ์ และอย่าลืมว่า พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี รวมไปถึง ศิวกรณ์ เตียตระกูล ก็พร้อมสอดแทรก

   แต่ที่โดดเด่นที่สุดในเกมอุ่นเครื่องทั้งสองนัดคือ ชาญณรงค์ พรหมศรีแก้ว เด็กหนุ่มวัย 22 ปี ปีที่เริ่มฉายฟอร์มเด่นขึ้นเรื่อยๆ 

   การได้เล่นร่วมกับแข้งซีเนียร์อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ โดยมี ธีรศิลป์ แดงดา เป็นพี่ใหญ่เห็นได้ชัดเจนเลยว่าแนวรุกจาก ชลบุรี เอฟซี สามารถดึงศักยภาพของตัวเองออกมาเฉิดฉายได้ชัดเจน

   เซ้นส์ฟุตบอลของ ชาญณรงค์ เหลือร้ายอยู่แล้ว ทักษะส่วนบุคคลก็ไม่เป็นรองใคร และเมื่อได้เพื่อนร่วมทีมที่เขาขารู้ใจ เล่นทันกัน มันจึงทำให้เขาเปล่งประกายอย่างที่เห็นในเกมกับฮ่องกง

   จริงๆ แล้วหมอนี่น่าจะมีแอสซิสต์ตั้งแต่นัดเสมอไต้หวัน ด้วยซ้ำ แต่น่าเสียดายที่จังหวะสุดท้ายไทย ไม่เฉียบขาดเอง

   ลูกจ่ายคิลเลอร์พาสคือจุดเด่นที่ ชาญณรงค์ มักจะสำแดงเดชให้เห็นเป็นประจำ ขึ้นอยู่กับว่าองค์ประกอบสมบูรณ์เพียงใด ซึ่งจากผลงานทั้งการอุ่นเครื่องทั้งสองนัด เชื่อว่าแฟนฟุตบอลคงจะชื่นใจที่ทัพช้างศึกจะมีนักเตะเก่งกาจที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาอีกคน

   นี่คือสิ่งที่เป็นไปในทิศบวกจากเกมกระชับมิตรที่ผ่านมาสดๆ ร้อนๆ 

   ทว่าสิ่งที่ โพลกิ้ง ต้องกลับไปแก้ไขก็ยังมีอีกเพียบ ทั้งการตั้งรับในลูกกลางอากาศ, การเจอทีมที่เพรสซิ่งทั้งเกม, จังหวะสุดท้ายที่ต้องเฉียบคมกว่านี้ และอื่นๆ อีกพอสมควร

   มันคือรายละเอียดของเกมฟุตบอลที่โค้ชมองออกแน่ แต่จะปรับเปลี่ยนหรือกลบจุดอ่อนได้มากน้อยเพียงใด

   การอุ่นเครื่อง 2 นัดที่ผ่านมาอาจจะไม่ใช่บททดสอบที่หนักหน่วงนัก แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ไทย ยังต้องแก้ไขต่อไปในอนาคต

   ความคาดหวังของแฟนๆ มีมากขึ้นตามมาตรฐานที่ไต่ไปสู่อีกระดับ แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องมองในมุมกลับเช่นกันว่าหลายๆ ประเทศต่างก็พัฒนาเช่นเดียวกันกับเรา

   การบ้านของ โพลกิ้ง ยังมีอีกเพียบและหวังว่าเขาจะเจอทางออกที่ทำให้ทีมชาติไทย ไปได้ไกลกว่าเดิม

 ชิกกะด้าว


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport