โทษฐานที่ อเล็กซานเดร โพลกิ้ง เรียก 25 ผู้เล่นทีมชาติไทย เพื่อเตรียมทำลงสนามในช่วง ฟีฟ่า เดย์ เดือนมีนาคม และการที่ระยะหลังเขามักจะเซอร์ไพรส์แฟนฟุตบอลด้วยการจัดแผนการเล่นที่แปลกตาออกไป ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขันอาสามาแยกชิ้นส่วนของแต่ละแท็กติกที่กุนซือวัย 47 ปี มีโอกาสใช้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า!!
ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู
แม้ว่าฟอร์มโดยรวม สมพร ยศ จาก การท่าเรือ เอฟซี จะดูดีกว่าทั้ง 3 คน ที่เรียกมา ทว่า กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล น่าจะได้ออกสตาร์ตก่อนใคร กับการที่เป็นผู้เล่นชุดแชมป์ อาเซียน คัพ 2022 ขณะที่ ปฏิวัติ คำไหม ของ เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็คงจะได้เฝ้าเสาเกมใดเกมหนึ่งเช่นกัน
คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ
เกมในระดับอาเซียน - โพลกิ้ง มักจะใช้ มานูเอล ทอม บีร์ห จับคู่กับ กฤษดา กาแมน และก็ได้ผลดี เนื่องจากส่วนใหญ่จะเป็นไทย ที่บุกใส่คู่ต่อสู้ ซึ่งการที่ใช้กัปตัน ชลบุรี เอฟซี ยืนในแดนหลังนั้นเหมือนเป็นตัวฟรีในแดนกลางซะมากกว่า
ทว่าการเผชิญหน้ากับซีเรีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นั้นยากยิ่งกว่าเดิมนัก เนื่องจากศูนย์หน้าของพวกเขารูปร่างใหญ่ อีกทั้งยังแข็งแรงมาก ดังนั้นถ้าเลือกใช้ กฤษดา อาจจะไม่เหมาะในเกมหนักๆ ลักษณะนี้ ซึ่งทาง เอเลียส ดอเลาะ ที่กำลังผลงานโดดเด่นน่าจะมีโอกาสสอดแทรกไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม ในเกมแรก เชื่อว่า โพลกิ้ง ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรนัก คงจะเป็น ทอม บีห์ร กับ กฤษดา ที่ได้ยืนคู่กันก่อน
ฟูลแบ็ก
จริงๆ แล้วพื้นที่นี้เป็นของ ธีราทร บุญมาทัน แบบไร้คู่ต่อสู้ แต่ด้วยความที่อดีตแชมป์ เจลีก 2019 ขยับไปยืนเป็นมิดฟิลด์ แล้วก็ทำได้ยอดเยี่ยมมากๆ เสียด้วย มันจึงทำให้ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา น่าจะได้ออกสตาร์ตทางฝั่งซ้าย
ส่วนด้านขวา ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ที่รักษามาตรฐานได้ดีตอนเล่นให้ การท่าเรือ อาจจะต้องขับเคี่ยวอย่างหนักหน่วงกับ นิโคลัส มิคเคลสัน แข้งเชื้อสายนอร์เวย์ ดีกรีลีกยุโรป ที่ฟอร์มแจ่มในทีมชาติไทย รุ่นยู-23
คู่มิดฟิลด์
หากมาในระบบ 4-3-3 ธีราทร น่าจะยืนปักหลักแน่ๆ คนหนึ่ง ด้วยประสบการณ์, ฝีเท้าและมันสมองที่อยู่ในระดับทวีป ซึ่งนั่นจะช่วยให้ทัพช้างศึกไม่ตกเป็นรองคู่แข่งในจุดยุทธศาสตร์ของเกม
อย่างไรก็ตาม คู่ขาของนักเตะจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นั้นมีให้เลือกมากมาย ไล่ตั้งแต่ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี รุ่นน้องร่วมสโมสร, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ชานุกูล ก๋ารินทร์ และ พิชา อุทรา แต่คนที่ โพลกิ้ง น่าจะใช้งานคงเป็น วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่กุนซือวัย 47 ปี มักจะส่งลงสนามอยู่บ่อยๆ
เพลย์เมเกอร์
เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ไร้คู่แข่งแน่นอน เพราะว่า ชนาธิป สรงกระสินธุ์ จะครองพื้นที่ตรงนี้ไปอีกนาน หากว่าเขาไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน หรือขอเว้นวรรคจากทีมชาติ อย่างไรก็ตาม ยังมี เอกนิษฐ์ ปัญญา, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, สุภโชค สารชาติ และรวมไปถึง วรชิต ที่สามารถรับบทบาทจอมทัพได้
ตัวรุกริมเส้น
สุภโชค จองหนึ่งตำแหน่งแน่ๆ แต่จะอยู่ฝั่งซ้ายหรือฝั่งขวานั้นแล้วแต่ โพลกิ้ง จะสั่งการ แต่อีกคนที่มีโอกาสสูงทีเดียวที่จะได้ประเดิมสนาม คือ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ผู้มาพร้อมสถิติยิง 8 ประตู กับทำได้ 8 แอสซิสต์ ใน ไทยลีก
ศูนย์หน้าตัวเป้า
ถึงเวลาแล้วที่ ศุภชัย ใจเด็ด จะต้องก้าวข้ามคำว่า 'ดาวรุ่ง' และเดินหน้าสู่การเป็น 'ความหวังใหม่' ของทีมชาติไทย ในอนาคตอันใกล้ แต่ถ้าฟอร์มของหัวหอกชาวปัตตานี ยังไม่ดีนัก - ปรเมศย์ อาจวิไล ที่กำลังไฉไลกับ เมืองทอง ก็พร้อมลงสนามเช่นกัน
ระบบ 3-5-2
ผู้รักษาประตู
กัมพล จะยังคงเป็นตัวเลือกเบอร์หนึ่งของ โพลกิ้ง แน่นอน แต่อีกสองคนที่ติดทัพช้างศึกมาด้วยอย่าง สมพร และ ปฏิวัติ คงจะได้สัมผัสเกมแน่ๆ แต่อยู่ที่จำนวนนาทีว่าจะมากน้อยเพียงใด
เซนเตอร์ฮาล์ฟ
มีโอกาสสูงทีเดียวที่ โพลกิ้ง จะเลือกใช้ระบบกองหลัง 3 คน อย่างที่เขาเคยเซอร์ไพรส์เวียดนาม มาแล้วใน อาเซียน คัพ 2022 โดยตอนนั้นเป็น พรรษา เหมวิบูลย์, กฤษดา และขยับ วีระเทพ ลงมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟอีกคน
ทว่าในช่วง ฟีฟ่า เดย์ หนนี้ ทัพช้างศึกได้ ทอม บีร์ห กลับมาอีกครั้ง เมื่อบวกกับ ดอเลาะ ที่รูปร่างใหญ่พอกัน ทำให้งานของ กฤษดา จะเบาบางลงมากมาย และจะมีหน้าที่คอยเก็บกวาด ซึ่งเป็นเรื่องถนัดของกัปตัน ชลบุรี อยู่แล้ว
วิงแบ็ก
หากใช้ระบบกองหลัง 3 คน นั่นหมายความว่าฟูลแบ็กจะมีอิสระในการเติมเกมมากขึ้น ซึ่งนั่นน่าจะทำให้ ธีราทร กลับมาประจำการทางฝั่งซ้าย เพื่อใช้ประโยชน์ในการเปิดบอลจากด้านข้างของเขาให้มากที่สุด
ส่วนฟากขวานั้นก็แข่งขันกันสูสีเหมือนเดิม เพราะว่าทั้ง ศุภนันท์ และ มิคเคลสัน นั้นจัดเป็นนักเตะที่ฟิตปั๋ง พละกำลังล้นเหลือด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งก็ต้องอยู่ที่ว่า โพลกิ้ง จะเลือกใครลงสนามก่อนกันเท่านั้นเอง
คู่มิดฟิลด์
พอ ธีราทร กลับไปประจำการทางฝั่งซ้าย นั่นจึงทำให้ พีรดนย์ นักเตะจากค่าย บุรีรัมย์ ที่มีคลาสบอลเหลือร้าย น่าจะได้โอกาสลงสนามคู่กับ วีระเทพ ก่อนคนอื่น แต่ไม่แน่ก็อาจจะเป็น ฐิติพันธ์ ซึ่งเป็นกองกลางประเภทบ็อกซ์ทูบ็อกซ์ ที่สามารถวิ่งไล่บดขยี้คู่แข่งได้ดี
ทว่าคนที่น่าสนใจคือ ทศวรรษ มิดฟิลด์ของ แบงค็อก ซึ่งเป็นนักเตะที่ โพลกิ้ง ชื่นชอบ และรู้มือเป็นอย่างดี เนื่องจากเคยร่วมงานกันตั้งแต่สมัยอยู่กับ อาร์มี่ ยูไนเต็ด ด้วยกันทั้งสองคน
เพลย์เมเกอร์
แน่นอนว่ายังเป็น ชนาธิป ที่จะได้ปักหลักตรงนี้แบบไม่มีใครกล้าปฏิเสธ โดยมี เอกนิษฐ์, ปฐมพล, สุภโชค และรวมไปถึง วรชิต คอยสอดแทรก
คู่ศูนย์หน้า
หากเทียบฟอร์มปัจจุบัน ยังไงก็ต้องเป็น ศุภชัย (14 ประตู) กับ ศุภณัฏฐ์ (8 ประตู) ใน ไทยลีก แต่ด้วยความที่ สุภโชค ที่อาจจะไม่ได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอให้ต้นสังกัด แต่เชื่อว่าแนวรุกจาก คอนซาโดเล่ ซัปโปโร น่าจะได้รับความไว้วางใจจาก โพลกิ้ง เนื่องจากประสบการณ์ในทีมชาติที่มากกว่า รวมถึงความสารพัดประโยชน์ในการเป็นตัวอิสระแดนบน
ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู
กัมพล คือตัวเลือกหมายเลขหนึ่งของทีมชุดนี้ โดยมี สมพร และ ปฏิวัติ เป็นตัวสอดแทรก
คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ
ด้วยความที่เล่นกันมานานพอสมควร คู่ปราการหลังตัวกลางน่าจะเป็น ทอม บีร์ห กับ กฤษดา โดยมี ดอเละ และ จักพัน ไพรสุวรรณ คอยสลับสับเปลี่ยน
ฟูลแบ็ก
ฝั่งขวา ศุภนันท์ และ มิคเคลสัน แย่งตำแหน่ง ส่วนฟากซ้าย ธีราทร จะถูกขยับขึ้นมาตรงกลาง จึงทำให้ พีระพัฒน์ ได้มาประจำการแทนที่
คู่มิดฟิลด์
โพลกิ้ง เคยเซอร์ไพรส์กับการใช้ระบบ 4-4-2 ใน อาเซียน คัพ 2022 มาแล้ว โดยให้ เอกนิษฐ์ เป็นปีกขวา ขณะที่ด้านซ้ายคือ บดินทร์ ผาลา
ทว่าทีมชุดอุ่นเครื่อง ฟีฟ่า เดย์ มีนาคม 2023 - กุนซือเชื้อสายเยอรมัน-บราซิล เรียกผู้เล่นในแดนกลางมาเพียบ ทำให้คาดว่าเขาน่าจะเลือกใช้แผนมิดฟิลด์แบบ 'ไดม่อนด์' ซึ่งนั่นจะทำให้ไม่ต้องพึ่งพาตัวรุกริมเส้นธรรมชาติ
นั่นจึงเป็นเหตุให้ ธีราทร จะปักหลักยืนอยู่หน้าแผงหลัง เพื่อคอยคอนโทรลเกม โดยให้ ฐิติพันธ์ ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของพละกำลังคอยสนับสนุน วีระเทพ และ ชนาธิป ที่จะทำหน้าที่จ่ายบอลให้แนวรุกทำประตู
คู่ศูนย์หน้า
ศุภชัย คือตัวเลือกแรกแน่ๆ แต่อีกคนคงจะหนีไม่พ้น สุภโชค ผู้อิมพอร์ตจาก เจลีก และมี ปรเมศย์ รวมไปถึง ศุภณัฏฐ์ ที่รอคอยโอกาสอยู่ข้างสนาม