แม้ว่าทีมชาติไทย จะกุมความได้เปรียบกับการตุน 'อเวย์โกล' ไว้แล้วถึง 2 ลูก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าทัพช้างศึกจะคว้าแชมป์ อาเซียน คัพ 2022 ได้สำเร็จ
เพราะยังเหลืออีก 1 นัด ที่ยังต้องตัดสินว่าใครจะเป็นเบอร์หนึ่งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เวียดนาม เองก็คงมาเยือนสนามกีฬาธรรมศาสตร์-รังสิตด้วยความมุ่งมั่นเป็นพิเศษ พวกเขาจะทุ่มเทเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อชัยชนะและเพื่อ พัก ฮัง-ซอ กุนซือของทีมที่กำลังจะแยกทางหลังจบทัวร์นาเมนต์นี้
ตรงจุดนี้สำคัญมาก เนื่องจากเทรนเนอร์วัย 65 ปี นั้นเป็นที่เคารพรักของนักเตะทุกคน โทษฐานที่ปลุกปั้นทีมจนก้าวมาเขย่าบัลลังก์ความเป็นจ้าวอาเซียนของไทย ได้สำเร็จ
เฮดโค้ชชาวเกาหลีใต้ เข้ามาคุมทัพดาวทองตั้งแต่ปี 2017 และก็ใช้เวลาสร้างทีมโดยใช้เรื่องของ 'วินัย' และ 'พละกำลัง' เป็นตัวขับเคลื่อน
เวียดนาม ภายใต้การนำของ ฮัง-ซอ พัฒนาแบบก้าวกระโดด ไล่ตั้งแต่การทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ เอเชียน คัพ 2018 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี และผ่านถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายใน เอเชียนเกมส์ ปีเดียวกัน
พอปลายปี 2018 ก็นำทัพดาวทองผงาดคว้าแชมป์ อาเซียน คัพ ได้อย่างยิ่งใหญ่ ก่อนจะต่อยอดปี 2019 ด้วยการทะลุรอบ 8 ทีม สุดท้าย เอเชียน คัพ และผ่านเข้าสู่การคัดเลือกฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายของโซนเอเชีย อีกต่างหาก
เท่านั้นไม่พอ ฮัง-ซอ ยังทำให้เวียดนาม เป็นชาติแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เก็บชัยชนะได้ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายของโซนเอเชีย อีกต่างหาก
จากสิ่งที่กุนซือจอมดีเดือดได้รังสรรค์ ทำให้นักเตะเวียดนาม จะสู้แบบถวายหัวในนัดสุดท้ายเพื่อเจ้านายคนนี้แน่ๆ
นั่นคือสิ่งที่ไทย ต้องระวัง
เป็นเรื่องจริงที่ทีมช้างศึกเหนือกว่าทุกกระบวนท่า ทั้งเรื่องของการเป็นเจ้าบ้าน, เสียงเชียร์, ความคุ้นชินต่อสนาม และรวมไปถึงศักยภาพผู้เล่นที่ อาเซียน คัพ 2022 แสดงให้เห็นว่านักเตะไทย ขยับมาตรฐานไปไกลจากเพื่อนบ้านในละแวกนี้อีกขั้นแล้ว
นี่ขนาดไม่ใช่ชุดที่ฟูลทีมที่สุดซะด้วย
ทว่าไม่มีอะไรแน่นอนหรอกในโลกของฟุตบอล
หากคุณประมาท คุณพลั้งเผลอ มันอาจจะส่งผลถึงความพ่ายแพ้ในบั้นปลาย
ดังนั้นในเกมนัดชิงชนะเลิศเลกที่ 2 ทีมชาติไทย จึงต้องเน้นกันอยู่ อย่าคิดว่าสกอร์ที่ตุนไว้จะทำให้อุ่นใจได้
เวียดนาม เองก็มีสถิติที่ดีในฐานะเป็นอาคันตุกะของสยามประเทศ เพราะว่า 2 นัดหลังสุด พวกเขาไม่เคยแพ้ทัพช้างศึกเลยสักครั้ง แถมยังเป็นการบุกมาเอาชนะใน คิงส์ คัพ 2019 อีกต่างหาก
พวกเขาจะมาเยือนพร้อมด้วยไฟแห่งความแค้นที่ลุกโชน แน่นอนว่าด้วยพละกำลังที่สั่งสมมาหลายปี ภายใต้การเทรนโดย ฮัง-ซอ จะทำให้ทีมดาวทองวิ่งเพรสซิ่งตั้งแต่วินาทีแรก
เราคงจะได้เห็นนักเตะเวียดนาม วิ่งพล่านตลอดทั้ง 90 นาที แน่ๆ ซึ่งตรงนี้ต้องคุมสติและอาศัยความเหนือกว่าในเรื่องของความเข้าใจเกมเอาตัวรอดไปให้ได้
รวมไปถึงอย่าไปหลงเหลี่ยมกับกลยุทธ์ยั่วยุที่นัดนี้พวกเขางัดมาใช้แน่
เตะติดดาบ, ใช้วาจาก่อกวนใจ หรือจะเล่นตุกติกอะไรก็ตามแต่ นักเตะไทย ต้องอย่าปล่อยให้โทสะเข้ามาควบคุมอารมณ์โดยเด็ดขาด
ไม่ใช่งานง่ายเลยสำหรับนัดชิงชนะเลิศนัดที่สอง แม้อะไรต่อมิอะไรดูเหมือนจะเข้าทางเราไปหมดก็ตาม
แต่ถ้าไม่ประมาทและมีสมาธิกับเกมการแข่งขันเท่านั้น ทีมชาติไทย จะเป็นสามารถป้องกันแชมป์ได้อย่างแน่นอน
ชิกกะด้าว