ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ของทีมชาติเวียดนาม เผยปลื้มใจมากที่ทีมชาติเวียดนาม บดชนะอินโดนีเซีย ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ชี้ 5 ปีที่คุมทีมชาติเวียดนามคือความคุ้มค่าและได้เห็นทุกคนเติบโดต ความสำเร็จมีได้เกิดจากทุกคนให้การสนับสนุนส ขอตอบแทนด้วยการพาทีมคว้าแชมป์เพื่อปิดฉากการทำงานที่สมบูรณ์แบบ
ควันหลงศึกฟุตบอล "เอเอฟเอฟ มิตซูบิชิ อิเล็คทริก คัพ 2022" รอบรองชนะเลิศ นัดสอง เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า ทีมชาติเวียดนาม เปิดรังเอาชนะ ทีมชาติอินโดนีเซีย ไป 2-0 สกอร์รวมสองนัดชนะ 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นทีมแรก
หลังเกม ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือชาวเกาหลีใต้ของทีมชาติเวียดนาม ได้ออกมาเปิดเผยว่า "ผมภูมิใจกับลูกทีมทุกคนเป็นอย่างมาก ผมได้พูดกับทุกคนก่อนเกมจะเริ่มว่า ให้เราเลิกเล่นรุนแรง เพราะสิ่งเหล่านี้จะส่งต่อไปให้น้องๆรุ่นหลัง และทุกคนก็ทำได้ตามแผนทุกอย่าง ผมมีความสุขมากกับผลการแข่งขันที่ออกมาในวันนี้ จนสามารถเข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
ปาร์ค ฮัง ซอ กล่าวต่อว่า ก่อนเกมผมและโค้ช ชิน แท-ยง เราอาจจะมีข้อถกเถียงกัน แต่นั่นคือวิถีฟุตบอล และแนวความคิดการทำงานของแต่ละบุคคล แต่หลังจากจบเกม ทุกอย่างก็กลับมาปกติ เราต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
สำหรับรูปแบบการเล่นของเวียดนามกับอินโดนีเซียในเกมนี้ ในนัดแรก เราเล่นในรูปแบบ 3-4-3 และได้ผลเสมอกลับมา หลังจากกลับบ้าน เราได้วิเคราะห์ถึงรูปเกมทั้งหมด และได้เห็นจุดของอินโดนีเซีย และจุดแข็งของเราที่ใช้โจมตีคู่แข่ง และเราก็ทำได้สำเร็จ
จากนั้น ปาร์ค ฮัง ซอได้กล่าวถึงเส้นทางการคุมทีมชาติเวียดนาม โดยกล่าวว่า "นี่เป็นปีที่ 5 ของกับทีมชาติเวียดนาม ผู้เล่นหลายคนเติบโตเต็มที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ถ้าจะบอกว่าพวกเขายังไม่เติบโตในทางเทคนิคคือผมไม่เห็นด้วย จริงๆ ทีมชาติไม่ใช่ ทีมเยาวชน เราไม่มีเวลามากพอที่จะแก้ไข ปรับเปลี่ยนเทคนิคเหมือนทีมเยาวชน ผมแค่พยายามใช้ทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด และพยายามสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ผมไม่สามารถพยายามเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อพวกเขาในทางเทคนิคได้ ผมบอกได้คำเดียวว่าพวกเขาเติบโตเต็มที่แล้ว สำหรับประสบการณ์ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก พวกเขามีประสบการณ์มากมายในระดับหนึ่ง มากกว่าทีมอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องขอบคุณประสบการณ์เหล่านั้น เวียดนามประสบความสำเร็จได้ในวันนี้ ไม่ใช่ผมคนเดียวแต่เรามีทีมงานที่ดี มีผู้บริหารของส.บอลเวียนามที่ให้การสนับสนุน และเรามีกองเชียร์ที่คอยเคียงข้างพวกเรามาโดยตลอด ผมยังมีเกมในนัดชิงชนะเลิศ ที่จะต้องทำให้สำเร็จ เพื่อตอบแทนทุกๆคนใน 5 ปีที่ผ่านมา
สำหรับเกมรอบชิงชนะเลิศ นัดแรก จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 13 ม.ค.66 โดยเวียดนาม จะเล่นในบ้านตัวเองก่อน และนัดที่สอง จะเตะในวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.66 ซึ่งเวียดนามจะเล่นเป็นทีมเยือน